Phones





PPS ลุ้นเซ็นสัญญางานใหม่รวมมูลค่ากว่า250ลบ.

2021-09-16 11:13:35 197



นิวส์ คอนเน็คท์ - PPS ลุ้นเซ็นสัญญางานใหม่ รวมมูลค่ากว่า 250 ล้านบาท ตุน Backlog ในมือไว้ 687 ล้านบาท ทยอยรับรู้เป็นรายได้ต่อเนื่อง 

เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2564 ดร.พงศ์ธร ธาราไชย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โปรเจค แพลนนิ่ง เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ PPS เปิดเผยว่า ทิศทางธุรกิจครึ่งปีหลังมีแนวโน้มอยู่ในเกณฑ์ดี โดยที่ไม่มีการปรับลดพนักงาน เนื่องจากไม่ต้องการให้พนักงานได้รับผลกระทบ แต่มีการบริหารจัดสรรบุคลากรและมุ่งเน้นการเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้ดีขึ้น นอกจากนี้ ยังได้จัดทำแผนบริหารควบคุมค่าใช้จ่าย ซึ่งเริ่มเห็นผลชัดขึ้นในไตรมาส 2/64 ส่งผลให้บริษัทมีผลประกอบการไตรมาส 2 พลิกกลับมาเป็นบวก โดยคาดว่าจะสามารถบริหารจัดการค่าใช้จ่ายตามแผนได้อย่างต่อเนื่อง

นอกจากนี้ บริษัทอยู่ระหว่างพิจารณาปิดบริษัทย่อยและบริษัทร่วมทุน ประกอบด้วย บริษัท Ensemble Equity ที่จดทะเบียนในประเทศสิงคโปร์ และบริษัท โปรฟิน กรุ๊ป จำกัด เพื่อมุ่งเน้นและให้ความสำคัญกับกลุ่มธุรกิจที่อยู่ในระหว่างดำเนินการมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม บริษัทมีงานที่อยู่ระหว่างดำเนินงานและรับรู้รายได้ต่อเนื่อง จากโครงการภาครัฐและเอกชน มูลค่ารวมโครงการกว่า 436.11 ล้านบาท อาทิ โครงการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเฟส 2 โครงการทางวิ่งเส้นที่ 3 ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ อาคารสำนักงาน 2 ท่าอากาศยานดอนเมือง บ้านพักพนักงานท่าอากาศยานภูเก็ต โครงการพัฒนาพื้นที่ส่วนขยายศูนย์ราชการ โซนซี โครงการกรมโยธาธิการ โครงการจากกลุ่มโลตัส โครงการเซ็นทรัลพลาซ่า ชลบุรี โครงการ The Custom House โครงการ Emsphere โครงการ Holiday Inn Express Samui Bophut & Holiday Inn Resort Samui Bophut และโรงพยาบาลกระดูกและข้อ ข้อดีมีสุข เป็นต้น อีกทั้งบริษัทมีงานที่ใหม่อยู่ในระหว่างรอเซ็นสัญญาโครงการ มูลค่ารวมกว่า 250 ล้านบาท จากโครงการอาคารอเนกประสงค์ โครงการจากภาครัฐ และกลุ่มค้าปลีก ส่งผลให้ปัจจุบันบริษัทมีงานในมือ (Backlog) ทุบสถิติอยู่ที่ 687 ล้านบาท และจะรับรู้ในปีนี้ประมาณ 173 ล้านบาท 

สำหรับโครงการพัฒนาที่ดินแหลมยามู จ.ภูเก็ต ดำเนินงานโดยบริษัท โปรเจค วัน ซึ่งเป็นบริษัทย่อย PPSปัจจุบันสามารถขายที่ดินเพิ่มเติมให้แก่ลูกค้า พร้อมทั้งอยู่ระหว่างดำเนินงานก่อสร้างวิลล่าให้แก่ลูกค้า โดยบริษัทสามารถรับรู้รายได้จากการคุมงาน และการก่อสร้างอย่างต่อเนื่อง นอกจากนี้ ด้วยพื้นที่ของโครงการเป็นพื้นที่ที่มีความต้องการของนักลงทุนสูง จึงยังคงได้รับความสนใจจากกลุ่มเป้าหมายทั้งต่างชาติและคนไทย โดยคาดว่าหากมีการเปิดประเทศจะสามารถสร้างโอกาสเพื่อดึงความสนใจจากนักลงทุนต่างชาติได้มากยิ่งขึ้น