Phones





BGCหวังดีมานด์บรรจุภัณฑ์แก้วฟื้นตัว

2021-10-15 16:43:58 311



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - BGC ประเมินดีมานด์บรรจุภัณฑ์แก้วไตรมาส 4/64 ฟื้นตัวแข็งแกร่ง หลังรัฐบาลประกาศเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ หนุนภาพรวมเศรษฐกิจ การท่องเที่ยวและบริการ บรรยากาศการจับจ่ายใช้สอยกลับมาคึกคักในช่วงไฮซีซั่น พร้อมปรับโมเดลธุรกิจสู่ Total Packaging Solutions เพิ่มรายได้จากพอร์ตบรรจุภัณฑ์ที่หลากหลาย
 
เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2564 นายศิลปรัตน์ วัฒนเกษตร ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีจี คอนเทนเนอร์ กล๊าส จำกัด (มหาชน) หรือ BGC เปิดเผยว่า หลังจากที่รัฐบาลเตรียมเปิดประเทศในวันที่ 1 พ.ย.นี้ โดยจะนำร่องเปิดรับนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ฉีดวัคซีนครบโดสจาก 10 ประเทศที่มีความเสี่ยงต่ำ สามารถเดินทางเข้ามาในประเทศไทยได้โดยไม่ต้องกักตัว
 
นอกจากนี้ ภายในวันที่ 1 ธ.ค.64 จะพิจารณาอนุญาตให้สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านได้ ตลอดจนการเปิดสถานบันเทิงและสถานที่พักผ่อนหย่อนใจภายใต้มาตรการสาธารณสุขที่เหมาะสม ถือเป็นปัจจัยหลักสำคัญที่จะส่งผลดีต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ภาคธุรกิจด้านการท่องเที่ยวและบริการ รวมถึงการจับจ่ายใช้สอยของผู้บริโภคในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีที่ถือเป็นไฮซีซั่นของการเฉลิมฉลอง ซึ่งจะส่งผลดีต่อความต้องการใช้บรรจุภัณฑ์ต่าง ๆ โดยเฉพาะบรรจุภัณฑ์แก้วซึ่งเป็นพอร์ตสินค้าหลักของบริษัทที่มีแนวโน้มขยายตัวอย่างแข็งแกร่ง
 
“เรามองว่า หลังจากนี้การจัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจต่าง ๆ และความเชื่อมั่นของประชาชนน่าจะทยอยฟื้นตัวดีขึ้น และหากมีการอนุญาตให้สามารถดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ภายในร้านและเปิดสถานบันเทิงได้ จะส่งผลดีต่อภาพรวมตลาดบรรจุภัณฑ์แก้วในช่วงไตรมาสสุดท้าย หลังจากก่อนหน้านี้รัฐบาลได้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์ให้ประชาชนสามารถนั่งทานอาหารภายในร้านได้ ส่งผลให้ประชาชนออกมาทำกิจกรรมใช้ชีวิตนอกบ้านเพิ่มขึ้น โดยปัจจุบันบริษัทฯ มีกำลังการผลิตและวางแผนบริหารจัดการสินค้าคงคลังให้เพียงพอต่อการรองรับดีมานด์ที่เพิ่มขึ้น ทั้งในปีนี้และช่วงปีหน้าที่คาดหวังว่าสถานการณ์โควิดจะดีขึ้นจนสู่ภาวะปกติ” นายศิลปรัตน์ กล่าว 
 
ทั้งนี้ บริษัทคาดว่าผลการดำเนินงานไตรมาส 4/64 มีแนวโน้มที่ดี และมีโอกาสเติบโตใกล้เคียงกับไตรมาส 1/64 ที่มีรายได้จากการขาย 3,020 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 182 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม หากเทียบกับช่วงเดียวกันกับปีก่อน คาดว่าจะลดลงเนื่องจากปีนี้ได้รับผลดีเดือนธ.ค.เพียงเดือนเดียว โดยประเมินผลการดำเนินงานทั้งปี 64 จะมียอดขายเติบโตจากปีก่อนเล็กน้อยจากสถานการณ์โควิดที่น่าจะผ่อนคลายยิ่งขึ้น ส่วนในปี 65 เชื่อว่าผลประกอบการจะเติบโตในทิศทางที่ดีขึ้น
 
สำหรับปัจจัยสนับสนุนเป้าหมายการเติบโตของบริษัท นอกจากภาพรวมเศรษฐกิจที่มีแนวโน้มฟื้นตัวจากการเตรียมเปิดประเทศ ยังมีการปรับโมเดลธุรกิจจากผู้ผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์แก้ว สู่ Total Packaging Solutions เพิ่มพอร์ตสินค้าที่หลากหลาย เช่น บรรจุภัณฑ์กระดาษ, ขวด PET, ฟิล์มพลาสติก, ฝาพลาสติก, หลอดฟรีฟอร์ม เป็นต้น โดยล่าสุด บริษัทได้ลงทุนขยายกำลังการผลิตถุงบรรจุภัณฑ์ชนิดอ่อน เพื่อเพิ่มโอกาสต่อยอดสู่การผลิตและจำหน่ายบรรจุภัณฑ์พลาสติกชนิดอ่อน (Flexible Packaging) รองรับการเข้าสู่ธุรกิจกลางน้ำและเพิ่มความหลากหลายในการนำเสนอสินค้า ซึ่งคาดว่ากลุ่มสินค้าบรรจุภัณฑ์อื่น จะสร้างรายได้ให้แก่บริษัท ในปีนี้กว่า 1,000 ล้านบาท หรือคิดเป็นสัดส่วน 10-15% ของรายได้จากการขายรวม 
 
นอกจากนี้ บริษัทได้ขยายการลงทุนก่อสร้างเตาหลอมแก้วแห่งใหม่ในโรงงานจังหวัดราชบุรี และขยายกำลังการผลิตในโรงงานจังหวัดปราจีนบุรี คาดว่าจะแล้วเสร็จในปี 66 ซึ่งจะส่งผลให้มีกำลังการผลิตรวมทุกโรงงานเพิ่มขึ้นอีก 12% จาก 3,495 ตันต่อวัน เป็น 3,935 ตันต่อวัน สามารถเพิ่มยอดขายได้อีกปีละกว่า 1,000 ล้านบาท และสนับสนุนเป้าหมายระยะยาวที่จะเติบโตก้าวกระโดดด้วยเป้าหมายเพิ่มรายได้อีกกว่าเท่าตัว จากกว่า 11,000 ล้านบาท ในปีที่ผ่านมา เป็น 25,000 ล้านบาท ภายในปี 68