Phones





NER ออกหุ้นกู้2ชุด2พันล.​ ย้ำเป้ารายได้64ทะลุ2.45หมื่นลบ.

2021-10-27 11:10:40 331



 
นิวส์​ คอนเน็คท์​ -​ NER ออกหุ้นกู้ 2 ชุด วงเงิน​ 2,000 ล้านบาท ชูดอกเบี้ย 5.25 – 6.00% เสนอขายช่วงวันที่ 1–3 พ.ย.64​ นำเงินหมุนเวียนในธุรกิจ​ รองรับออเดอร์ไหลเข้า "ชูวิทย์" ย้ำเป้ารายได้ปีนี้​ 2.45​ หมื่นล้านบาท​ ลุยอัพกำลังปี​ 65​ แตะ​ 5.1​ แสนตัน

เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2564​ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER​ ร่วมลงนามในการจำหน่ายหุ้นกู้​ ครั้งที่​ 2/2564​ โดยมีบริษัท แอสเซท โปร แมเนจเม้นท์ จำกัด เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ส่วนผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นกู้ ได้แก่ บริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เอเซีย พลัส จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ หยวนต้า (ประเทศไทย) จำกัด, บริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ โนมูระ พัฒนสิน จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ ฟิลลิป (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน), บริษัทหลักทรัพย์ เมอร์ชั่น พาร์ทเนอร์ จำกัด (มหาชน) ด้านนายทะเบียนหุ้นกู้มี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ดำเนินการ
 
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NER เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 64 สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้แจ้งการอนุญาตการเสนอขายหุ้นกู้ของบริษัท ครั้งที่ 2/2564 จำนวน 2 ชุด ซึ่งจะเสนอขายให้แก่ผู้ลงทุนสถาบัน และ/หรือผู้ลงทุนรายใหญ่ โดยบริษัท ทริสเรทติ้ง จำกัด ได้จัดอันดับความน่าเชื่อถือของบริษัทที่ระดับ “BBB-” แนวโน้มอันดับเครดิต “Stable” เมื่อวันที่ 15 มิ.ย.​ 64 มีรายละเอียด ดังนี้

หุ้นกู้ครั้งที่ 2/2564 จำนวน 2 ชุด ชุดละ​ 1,000 ล้านบาท​ เสนอขายวันที่ 13 พ.ย.​ 64​ โดยหุ้นกู้ชุดที่ 1 อายุ 4 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 68 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 5.25% ต่อปี​ และหุ้นกู้ชุดที่ 2 อายุ 5 ปี ครบกำหนดไถ่ถอนปี 69 อัตราดอกเบี้ยคงที่ 6.00% ต่อปี​ ชำระดอกเบี้ยทุกๆ 3 เดือน ตลอดอายุหุ้นกู้ 
 
สำหรับวัตถุประสงค์ที่จะนำเงินที่ได้จากการเสนอขายหุ้นกู้ในครั้งนี้ เพื่อใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการซื้อวัตถุดิบ และสต๊อคสินค้าคงเหลือ สำหรับสินค้าประเภทยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง ยางผสม และยางผสมอัดแท่ง เพื่อรองรับการขยายกำลังการผลิต ภายใต้การดำเนินงานในโรงงานแห่งที่ 1 และโรงงานแห่งที่ 2 ของบริษัท  
 
นายชูวิทย์กล่าวว่า​ แนวโน้มผลประกอบการไตรมาส​ 3/64 คาดว่าจะออกมาดีตามที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าจะทำนิวไฮ​ ส่วนไตรมาส​ 4/64​ มั่นใจว่าจะทำได้ตามเป้าที่วางไว้​ เนื่องจากราคาขายยางดีกว่าช่วงเดียวกันปีก่อน​ ซึ่งราคาเฉลี่ยปัจจุบันอยู่ที่​ 64​ บาทต่อกิโลกรัม​ โดยมั่นใจว่ารายได้จะทำได้​ 2.45 หมื่นล้านบาท​ จากปริมาณ​ขาย​ 4.4 แสนตัน​ และเพิ่มเป็น​ 5​ แสนตันในปี​ 65​ ขณะที่กำลังการผลิตปัจจุบันอยู่ที่​ 4.6 แสนตัน​ และจะเพิ่มเป็น​ 5.1 แสนตันในปี​ 65​ 

สำหรับลูกค้ารายใหม่จากอินเดียวที่อยู่ระหว่างเจรจา​ หลังจากได้เซ็นสัญญากับลูกค้า​ Long Term​ แล้ว​ 2​ ราย​ คาดว่าเมื่อมีการเซ็นสัญญาแล้ว​ จะต้องมีการมีตรวจโรงงานอีกครั้ง​ โดยคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส​ 1/65​