Phones





STA เปิดกำไรQ3/64ดีดแรง ตามความต้องการใช้ยางธรรมชาติทั่วโลกพุ่ง

2021-11-09 10:26:53 207



นิวส์ คอนเน็คท์ - STA เปิดผลงาน Q3/64 กำไรดีดแรงทั้งเครือ ตามความต้องการใช้ยางธรรมชาติทั่วโลกพุ่ง-ขยายอาณาจักรถุงมือยาง มั่นใจ Q4 โตต่อเนื่อง  
 
เมื่อวันที่ 9 พฤศจิกายน 2564 นายวีรสิทธิ์ สินเจริญกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังแอโกรอินดัสทรี จำกัด (มหาชน) หรือ STA เปิดเผยว่า บริษัทคาดผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 4/64 จะเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง จากเข้าสู่ช่วงฤดูการเก็บเกี่ยวของผลผลิตยางธรรมชาติและได้รับปัจจัยบวกจากการผู้ผลิตยางล้อชั้นนำของโลกได้หันมาสั่งซื้อยางธรรมชาติจากประเทศไทยเพิ่มขึ้น ขณะที่ความต้องการใช้ยางธรรมชาติทั่วโลกยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง จึงมั่นใจว่าจะสามารถผลักดันปริมาณการขายยางธรรมชาติในปีนี้ได้ตามเป้าหมายใหม่ 1.3 ล้านตัน 

ล่าสุด บริษัทได้ใช้งบลงทุนรวมประมาณ 2,600 ล้านบาท เพื่อขยายกำลังการผลิต ประกอบด้วย การขยายกำลังการผลิตยางแท่ง (TSR) เพิ่มขึ้นอีก 2.9 แสนตันต่อปี คาดจะทยอยแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังปี 2565 และขยายกำลังการผลิตน้ำยางข้น (Concentrated Latex Plants) อีก 1.8 แสนตันต่อปี คาดจะทยอยแล้วเสร็จในช่วงครึ่งปีแรกและครึ่งปีหลังปี 2565

ส่วนการขยายธุรกิจไปสู่ด้านการเพาะปลูกกัญชง ซึ่งเป็นธุรกิจต้นน้ำ หลังจากได้รับใบอนุญาตปลูกกัญชงจากสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) เป็นที่เรียบร้อยแล้ว เบื้องต้นจะทำการปลูกกัญชงบนที่ดินของบริษัท เพื่อการจำหน่ายเมล็ด ใบ และรากกัญชงทั้งหมดที่มาจากการปลูกแก่ลูกค้าที่มีคำสั่งซื้อหรือตกลงทำสัญญาความร่วมมือทางธุรกิจ เบื้องต้นคาดจะเก็บเกี่ยวผลผลิตล็อตแรกจากแปลงทดลองได้ในเดือนมีนาคม 2565  

สำหรับผลการดำเนินงานไตรมาส 3/64 บริษัทมีกำไรสุทธิ 3,230.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 55.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้จากการขายและให้บริการ 28,486.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 72.7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และอัตรากำไรขั้นต้นจากธุรกิจยางธรรมชาติในไตรมาส 3/64 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 13.6% หนุนให้อัตรากำไรขั้นต้นรวมของทุกสายธุรกิจอยู่ที่ 36.3% 

ด้าน นางสาวจริญญา จิโรจน์กุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ศรีตรังโกลฟส์ (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ STGT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 3/64 สามารถสร้างการเติบโตได้ต่อเนื่อง โดยมีรายได้รวม 10,864.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32.6% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 4,532.8 ล้านบาท เติบโต 2.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ตอกย้ำศักยภาพธุรกิจและการบริหารจัดการที่มีประสิทธิภาพ แม้มีความกังวลต่อสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรค COVID-19 ที่เริ่มคลี่คลายในบางประเทศและอัตราการฉีดวัคซีนทั่วโลกที่เพิ่มขึ้น จะส่งผลกระทบต่อภาพรวมอุตสาหกรรมถุงมือยาง

ส่วนภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกของปี 2564 ยังคงทำสถิติสูงสุดใหม่ โดยมีรายได้รวม 39,265.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 132.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีกำไรสุทธิ 21,864.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 271.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน 

ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่าผลการดำเนินงานงวดปี 64 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ จากกำลังการผลิตและปริมาณการขายสินค้าที่เพิ่มขึ้น แม้ราคาขายถุงมือยางเฉลี่ยทยอยปรับลดลง โดยบริษัทวางกลยุทธ์มุ่งขยายตลาดเพื่อรักษาผลการดำเนินงานอยู่ในระดับที่ดีอย่างต่อเนื่อง เช่น การจัดบริษัทย่อยในประเทศสิงคโปร์เพื่อวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ มุ่งเน้นการนำเสนอนวัตกรรมที่จะเพิ่มศักยภาพการแข่งขันในตลาด, จัดตั้งบริษัทย่อยในอินโดนีเซียเพื่อดูแลด้านการจัดจำหน่ายสินค้าเพื่อกระจายสินค้าได้อย่างครอบคลุมทั่วประเทศยิ่งขึ้น, คิดค้นและพัฒนาผลิตภัณฑ์ใหม่ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม เป็นต้น