Phones





OR ย้ำ! เข้าตลาดหุ้นปี 63 ได้แน่

2019-09-20 17:26:27 308




นิวส์ คอนเน็คท์ – OR ย้ำเ ข้าตลาดหุ้น ปี 63 แน่นอน มั่นใจแผนงานตอบโจทย์นโยบายกระทรวงพลังงาน สร้างความมั่นคงพลังงาน หนุนเศรษฐกิจฐานราก


นางสาวจิราพร ขาวสวัสดิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ปตท. น้ำมันและการค้าปลีก จำกัด (มหาชน) หรือ OR เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างจัดทำแผนในการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) โดยไม่สามารถบอกได้ว่าจะแล้วเสร็จเมื่อไร แต่เมื่อดำเนินการแล้วเสร็จตามขั้นตอน ต้องเสนอเข้าที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท (บอร์ด OR) จากนั้นจะเสนอไปยังบอร์ด ปตท. และกระทรวงพลังงานต่อไป อย่างไรก็ตาม มั่นใจว่าจะสามารถเข้าจดทะเบียนภายในปี 2563 ได้อย่างแน่นอน


ส่วนกรณีนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน สั่งการให้ OR จะต้องดำเนินการตามนโยบายความมั่นคงด้านพลังงานของประเทศ และเป็นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจฐานราก รวมถึงให้เกิดการขยายการลงทุนในประเทศนั้น บริษัทมั่นใจว่าการจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะเป็นปัจจัยหนึ่งที่ช่วยสนับสนุนในการขยายการลงทุนช่วยตอบโจทย์นโยบายของกระทรวงพลังงานได้เป็นอย่างดี


ปัจจุบัน OR มีพนักงานในสถานีบริการน้ำมัน ปตท. และร้านกาแฟอเมซอนกว่า 6 หมื่นคน และการเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์คาดว่าจะช่วยให้เกิดการจ้างงานเพิ่มขึ้น ขณะที่โครงการ “ไทยเด็ด” ที่นำสินค้าชุมชนเข้ามาจำหน่ายในสถานีบริการน้ำมันของปตท. ก็เป็นแนวทางหนึ่งที่ช่วยส่งเสริมเศรษฐกิจฐานรากเติบโตได้แข็งแกร่งและยังสามารถต่อยอดนำสินค้าไปจำหน่ายได้ในสถานีบริการน้ำมันของปตท. และร้านกาแฟอเมซอนในต่างประเทศได้อีกด้วย


ส่วนการขยายการลงทุนสถานีบริการน้ำมัน ปัจจุบันมีสถานีบริการน้ำมันในประเทศราว 1,800 สาขา ต่างประเทศ 270 สาขา ขณะที่ร้านกาแฟอเมซอนในประเทศมี 2,700 สาขา ต่างประเทศกว่า 280 สาขา โดยในต่างประเทศนั้นมีการขยายลงทุนไปแล้ว 9 ประเทศ เช่น สปป.ลาว เมียนมา กัมพูชา ฟิลิปปินส์ มาเลเซีย สิงคโปร์ ญี่ปุ่น จีน และโอมาน และมองหาโอกาสขยายการลงทุนในต่างประเทศอย่างต่อเนื่อง


ขณะที่การขยายน้ำมัน B10 ปัจจุบันมีการเปิดให้บริการในสถานีบริการน้ำมันของ ปตท. แล้ว 49 สาขา โดยสิ้นปีนี้จะขยายเป็น 150 สาขาโดยน้ำมัน B10 นั้นยอดขายมีทิศทางการเติบโตอย่างต่อเนื่อง หลังจากกระทรวงพลังงานมีนโยบายส่งเสริมการใช้และจะเริ่มบังคับใช้ในวันที่ 1ม.ค. 63 ส่วนน้ำมัน B20 ขยายไปแล้วกว่า 500 สาขายอดขายเติบโตคงที่


ส่วนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าปัจจุบันมีให้บริการอยู่ 21 สาขา โดยมีแผนที่จะขยายเพิ่มในอนาคตซึ่งปัจจุบันการลงทุนแท่นชาร์จแบบ Normal Charge ใช้เงินลงทุน 500,000 บาทต่อตู้ ส่วนแท่นชาร์จแบบ Quick Charge ต้องใช้เงินลงทุนราว 1,500,000 บาทต่อตู้