Phones





ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ไฟเขียวผู้เสียหายจาก STARK ดำเนินคดีแบบกลุ่ม

2024-12-18 21:58:11 119



 
เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2567 ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ได้พิจารณาคดีหมายเลขดำที่ พ.1061/2567 ซึ่งเป็นคดี ที่กลุ่มตัวแทนโจทก์ผู้เสียหาย ที่เป็น “กลุ่มบุคคลที่ซื้อหรือขายหุ้นของบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ STARK มีคำร้องขอให้สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย(TIA) ช่วยกระจายข่าวสารไปยังกลุ่มผู้เสียหาย และได้ ยื่นคำฟ้องและคำร้องขอดำเนินคดีแบบกลุ่ม ที่ศาลแพ่งกรุงเทพใต้เมื่อวันที่ 12 พฤศจิกายน 2567 ที่ผ่านมา และในการพิจารณาคดีวันนี้ (18 ธันวาคม 2567) ศาลแพ่งกรุงเทพใต้ ได้มีคำสั่ง อนุญาตให้โจทก์ทั้งห้าในคดีดำเนินคดีแบบกลุ่มได้ในคดี STARK และศาลได้กำหนดขอบเขตของสมาชิกกลุ่ม ดังนี้ “กลุ่มบุคคลที่ซื้อหรือขายหุ้นของบริษัท สตาร์ค คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ในช่วงเวลาตั้งแต่วันที่ 11 พ.ค. 2564 ถึงวันที่ 16 มิ.ย. 2566” โดยจำเลยในคดียังคงมีสิทธิอุทธรณ์คำสั่งของศาลดังกล่าวได้
 
อย่างไรก็ตามผลของคำสั่งศาลที่อนุญาตให้คดีที่โจทก์ซึ่งเป็นผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญของ STARK ดำเนินคดีแบบกลุ่ม หรือ Class Action นับเป็นคดีแบบกลุ่มเกี่ยวกับหลักทรัพย์ประเภทหุ้นสามัญคดีแรกที่เกิดขึ้นในประเทศไทย นับแต่มีการแก้ไขประมวลกฎหมายวิธีพิจารณาความแพ่ง ในเรื่องการดำเนินคดีแบบกลุ่ม ตั้งแต่ปี 2558 เป็นต้นมา ซึ่งถือเป็นก้าวแรกของกระบวนการยุติธรรมในการเริ่มดำเนินคดีแบบกลุ่มเพื่อผลประโยชน์ของกลุ่มผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ที่ได้รับผลกระทบจากการลงทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย ซึ่งมีจำนวนมากให้เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมได้
 
นอกจากนี้ผลของการที่ศาลมีคำสั่งอนุญาตให้ดำเนินคดีแบบกลุ่มจะส่งผลให้ผลของคดีที่ดำเนินการโดยโจทก์ทั้งห้าในคดี และคำพิพากษาของคดีดังกล่าว (เมื่อศาลมีคำพิพากษาในลำดับต่อไป) มีผลผูกพันสมาชิกในกลุ่มที่มีลักษณะข้อเท็จจริงและข้อกฎหมายเดียวกันด้วยโดยอัตโนมัติ
 
นายยิ่งยง นิลเสนา นายกสมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย (TIA) เปิดเผยว่า TIA ร่วมผลักดันการบังคับใช้กฎหมาย Class Action มาต่อเนื่องกว่า 2 ปีที่ผ่าน จนถึงวันนี้ถือเป็นความสำเร็จก้าวแรกหลังศาลมีคำสั่งให้ คดี STARK เป็นคดีแบบ Class Action ทั้งนี้ TIA ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายกลุ่มผู้ถือหุ้นสามัญ STARK ในการดำเนินคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ตามกระบวนการยุติธรรมให้เกิดผล โดยเริ่มแรกของการดำเนินการนั้น  TIA  ในฐานะองค์กรตัวแทนผู้ลงทุนรายบุคคล มีภารกิจในการช่วยเหลือผู้เสียหาย ที่ลงทุนในหุ้นสามัญ STARK ได้มีการดำเนินเปิดให้มีการลงทะเบียนผู้เสียหาย หุ้นสามัญ STARK ในระบบออนไลน์ ระหว่างวันที่ 19-25 มิ.ย. 2566 มีผู้มาลงทะเบียน จำนวน 1,759 ราย มูลค่าความเสียหายประมาณ 4,063 ล้านบาท และคดีได้มีดำเนินการมาต่อเนื่องจนศาลมีคำสั่งให้ STARK เป็นคดีแบบ Class Action
 
นอกจากนี้ TIA ช่วยกระจายข่าวสารไปยังกลุ่มผู้เสียหายตามคำร้องขอของโจทก์ตัวแทนผู้เสียหายเมื่อมีความคืบหน้าของคดี เป็น “คำประกาศ” ไปแล้ว เป็นจำนวน 2 ฉบับ คือ ฉบับที่ 1/2567 ลว. 19 ก.ย. 2567 และ ฉบับที่ 2/2567 ลว. 12 พ.ย. 2567 สมาคมส่งเสริมผู้ลงทุนไทย ยังมีการแจ้งข้อมูล ผ่านช่องทางการสื่อสาร คือ 1.ระบบออนไลน์ ตามอีเมล์ของผู้เสียหายแต่ละบุคคล ที่ลงทะเบียนไว้กับสมาคมฯ และ 2.ระบบออนไลน์ ในหน้าเว็ปไซด์ ของสมาคมฯ คือ www.thaiinvestors.com (ชื่อเมนู Class Action) ตลอดจนได้รับความอนุเคราะห์ จากทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในตลาดทุน และสื่อมวลชนทุกแขนง เพื่อให้ผู้เสียหายได้รับทราบข้อมูล ตระหนักแห่งสิทธิของตนอย่างทั่วถึง
 
“TIA ได้ดำเนินการด้วยความพยายามอย่างยิ่งยวด ในการให้ความช่วยเหลือผู้เสียหายหุ้นสามัญ STARK มีการติดต่อและประสานงาน ด้วยความระมัดระวัง เพื่อที่จะให้มีการฟ้องคดีแบบกลุ่ม (Class Action) ให้เป็นผลสำเร็จและดูแลปกป้องผู้ลงทุน ในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย” นายยิ่งยง กล่าว