Phones





IAA นักวิเคราะห์มอง SET ปี 68 ลุ้นแตะ 1,600 จุด

2025-01-06 18:25:16 38



นิวส์ คอนเน็คท์ - IAA เผยผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์ปี 68 คาดการณ์ดัชนีหุ้นไทยจะทำจุดสูงสุดที่ 1,501 - 1,600 จุด รับปัจจัยบวกในประเทศ จากการลดอัตราดอกเบี้ย ผลประกอบการบจ. และเศรษฐกิจไทย ส่วนปัจจัยลบ ได้แก่ Fund Flows ไหลออกจากตลาดหุ้นไทย รองลงมาปัจจัยด้านการเมืองในประเทศ-ต่างประเทศ และการลดหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE)

เมื่อวันที่ 6 มกราคม 2568 นายสมบัติ นราวุฒิชัย เลขาธิการสมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน สมาคมนักวิเคราะห์การลงทุน หรือ IAA เปิดเผยว่า ผลการสำรวจความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนต่อมุมมองในด้านการลงทุนและคาดการณ์ทิศทางดัชนีราคาหุ้นไทย (SET Index) ในปี 68 โดยมีผู้ตอบแบบสำรวจทั้งหมด 26 บริษัท แบ่งเป็นบริษัทหลักทรัพย์จำนวน 22 บริษัท บริษัทหลักทรัพย์จัดการกองทุนจำนวน 2 บริษัท และบริษัทโกลด์ฟิวเจอร์ส 2 บริษัท

โดยคาดการณ์ค่าเฉลี่ยดัชนีหุ้นไทยสิ้นไตรมาสที่ 1/68 จะเฉลี่ยอยู่ที่ 1,449 จุด หาากมองยาวไปจนถึงสิ้นปี 2568 ปัจจัยที่มีผลบวกต่อดัชนีราคาหุ้นไทยใน ได้แก่ ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในประเทศ ที่ผู้ตอบแบบสำรวจ 76.92% เทคะแนนให้อย่างชัดเจนว่าเป็นผลบวก รองลงมาผู้ตอบ 73.08% โหวตให้ผลประกอบการบจ.ปี68 ตามมาด้วยเศรษฐกิจภายในประเทศมีผู้ตอบ 69.23% และทิศทางอัตราดอกเบี้ยสหรัฐอเมริกา มีผู้ตอบ 57.69%

ส่วนปัจจัยที่จะส่งผลในด้านลบต่อตลาดทุนไทยในขณะนี้จนถึงสิ้นปี 2568 ได้แก่ ปัจจัยด้าน Fund Flows จากต่างประเทศออกจากตลาดหุ้นไทย 74.07% ของผู้ตอบทั้งหมด เทคะแนนให้อย่างชัดเจนว่าเป็นผลลบ รองลงมาปัจจัยด้านการเมืองในประเทศ มีผู้ตอบ 69.23% ตามมาด้วยปัจจัยด้านการเมืองในต่างประเทศ มีผู้ตอบ 61.54% และการลดหรือยุติมาตรการผ่อนคลายเชิงปริมาณ (QE) ของประเทศสาคัญทั่วโลก มีผู้โหวต 55.56%

ขณะเดียวกัน IAA ได้สอบถามความเห็นของนักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุนเกี่ยวกับ ข้อเสนอแนะว่ารัฐบาลควรมีนโยบายเรื่องใดที่มีผลบวกต่อภาวะเศรษฐกิจ คุ้มค่ากับผลกระทบทางงบประมาณ ส่วนใหญ่เสนอให้มีมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจทั้งในระยะสั้นและระยะยาว แยกเป็น 50% ของผู้ตอบเสนอให้เร่งลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานการลงทุนภาครัฐที่หนุนศักยภาพ การเติบโตทางเศรษฐกิจ สนับสนุนอุตสาหกรรม New S-Curve ให้เกิดขึ้นในไทย ถัดมา 38.46% ของผู้ตอบ เสนอด้านการช่วยเหลือภาคธุรกิจ ได้แก่ นโยบายกระตุ้นการลงทุนจากต่างประเทศ ส่งเสริม FDI ในอุตสาหกรรมใหม่ๆ สนับสนุนการวิจัยและผลิตสินค้าเทคโนโลยี การท่องเที่ยว Entertainment complex รวมถึงลดภาษีนิติบุคคล และเสนอนโยบายช่วยเหลือภาคประชนได้แก่ ลดภาษีบุคคลธรรมดา สนับสนุนมาตรการแก้ปัญหาหนี้ และให้ความสำคัญด้านการศึกษา

ด้านอัตราดอกเบี้ยนโยบายของ ธปท. ณ สิ้นปี 2568 มีนักวิเคราะห์ถึง 54% ที่คาดว่าลดลงจากเดิมอยู่ที่ 2.00% รองลงมามี 22% ของผู้ตอบ มองว่าอาจลดลงมาที่ 1.75% โดยมีผู้ตอบ 17% มองว่าจะอยู่ระดับเดิมที่ 2.25%และผู้ตอบ 4% ที่มองว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายอาจปรับลดไปอยู่ที่ 1.50%

สำหรับจุดสูงสุดของ SET Index ช่วง ม.ค. - ธ.ค. 68 เฉลี่ยที่ระดับ 1,581 จุด ทั้งนี้มีผู้ตอบแบบสอบถาม 71.43% ที่คาดว่าดัชนีจะทำจุดสูงสุด 1,501 – 1,600 จุด รองลงมาผู้ตอบ 19.05% คาดว่าจุดสูงสุดจะอยู่ในช่วง 1,601 – 1,700 และผู้ตอบ 9.52% มองว่าอยู่ในช่วง 1,401 – 1,500

เมื่อมองจุดต่ำสุดของปี 2568 นักวิเคราะห์และผู้จัดการกองทุน คาดการณ์จุดต่ำสุดของดัชนีราคาหุ้นไทย (SET Index) ช่วงม.ค. - ธ.ค. 68 มีค่าเฉลี่ยจุดต่าสุดที่ 1,322 จุด ทั้งนี้นักวิเคราะห์ และผู้จัดการกองทุนคาดเป้าหมายดัชนี ณ วันสิ้นปี 2568 มีค่าเฉลี่ยอยู่ที่ 1,556 จุด

ด้านาการจัดพอร์ตการลงทุน แนะนำ ให้มีเงินสด และ เงินฝากระยะสั้น 10.72% ของพอร์ต และมีกองทุนตราสารหนี้ 22% ส่วนการลงทุนในสินทรัพย์ที่มีความเสี่ยงสูงนั้น แนะนำให้แบ่งเงินลงทุนไว้ในหุ้นต่างประเทศหรือกองทุนหุ้นต่างประเทศ 29.56% รองลงมา ลงทุนในหุ้นไทยหรือกองทุนหุ้นไทย 22.52% ตามมาด้วยการแบ่งเงินลงทุนไว้ในทองคำ กองทุนทองคำ 8.10% กองทุนอสังหา/REIT 6.90% และสินทรัพย์อื่นๆ เช่น Bitcoin 0.20%