Phones





กรุงศรี ส่องเงินบาทแข็งค่าต่อเนื่อง ประเมินกรอบ 31.40-32.00 บ.

2025-09-15 19:13:11 61



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - กลุ่มงานโกลบอลมาร์เก็ตส์ กรุงศรี คาดเงินบาทสัปดาห์นี้ซื้อขายในกรอบ 31.40-32.00 ตลาดอาจขายทำกำไรหลังเฟดลดดอกเบี้ย ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิตของสหรัฐฯออกมาต่ำเกินคาด อีกทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พุ่งขึ้น เปิดทางเฟด ลดดอกเบี้ย
 
เมื่อวันที่ 15 กันยายน 2568 นางสาวรุ่ง สงวนเรือง ผู้อำนวยการ ผู้บริหารฝ่ายส่งเสริมธุรกิจโกลบอลมาร์เก็ตส์ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY เปิดเผยว่า ทิศทางค่าเงินบาทในสัปดาห์นี้มีแนวโน้มเคลื่อนไหวในกรอบ 31.40-32.00 บาท/ดอลลาร์ เทียบกับสัปดาห์ที่ผ่านมา เงินบาทปิดแข็งค่าที่ 31.72 บาท/ดอลลาร์ หลังซื้อขายในกรอบ 31.58-32.12 บาท/ดอลลาร์ โดยเงินบาทแตะระดับแข็งค่าสุดในรอบกว่า 4 ปี เงินดอลลาร์อ่อนค่าเล็กน้อยเมื่อเทียบยูโรแต่แข็งค่าเทียบเงินเยน ขณะที่ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) ของสหรัฐฯออกมาต่ำเกินคาด อีกทั้งจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์พุ่งขึ้น เปิดทางธนาคารกลางสหรัฐฯ(เฟด)ลดดอกเบี้ย โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล 10 ปีของสหรัฐฯลดลงทดสอบระดับ 4% ทั้งนี้ PPI เดือนส.ค. ติดลบ 0.1% เมื่อเทียบรายเดือนและเพิ่มขึ้น 2.6% เทียบรายปี อย่างไรก็ตาม รายการที่ส่งผลต่อมาตรวัดเงินเฟ้อหลักหรือ PCE ของเฟด ไม่ได้อ่อนแอมาก
 
ขณะที่ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) สูงขึ้น 2.9% จากช่วงเดียวกันปีก่อน สอดคล้องกับที่ตลาดคาด ทางด้านธนาคารกลางยุโรป(อีซีบี)คงดอกเบี้ยเป็นครั้งที่สองติดต่อกันที่ 2.00% โดยประธานอีซีบีระบุว่ากระบวนการลดลงของเงินเฟ้อ (Disinflationary Process) สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งเป็นสัญญาณว่าต้องมีเงื่อนไขมากขึ้นถึงจะตัดสินใจลดดอกเบี้ยในอนาคต ทั้งนี้ นักลงทุนต่างชาติขายหุ้นไทย 2,103 ล้านบาท แต่ซื้อพันธบัตรสุทธิ 10,187 ล้านบาท
 
สำหรับในสัปดาห์นี้ เหตุการณ์สำคัญของตลาดการเงินโลกจะอยู่ที่การประชุมเฟดวันที่ 16-17 กันยายน ซึ่งคาดว่าจะลดดอกเบี้ยลง 0.25% เป็น 4.00-4.25% ขณะที่ข้อมูลบ่งชี้ว่าการส่งผ่านต้นทุนภาษีนำเข้าไปยังราคาสินค้าอุปโภคบริโภคอาจเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไปมากกว่าที่คาดไว้ และการทบทวนตัวเลขจ้างงานเน้นย้ำว่าตลาดแรงงานอ่อนแอลงก่อนที่ประธานาธิบดีทรัมป์ประกาศภาษีศุลกากรเมื่อต้นเดือนเมษายน นอกจากนี้ นักลงทุนจะให้ความสนใจกับประมาณการดอกเบี้ย (Dot Plot) ชุดใหม่
 
อย่างไรก็ตาม ตลาดสะท้อนมุมมองการปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในทุกรอบประชุมเฟดที่เหลือสามครั้งในปีนี้ และตลาดคาดว่าดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐฯจะลงไปต่ำกว่า 3.00% ในปี 2569 ทำให้ในระยะสั้นดอลลาร์อาจฟื้นตัวขึ้นจากการขายสกุลเงินอื่นๆเพื่อทำกำไรยกเว้นแต่ว่าเฟดจะสร้างความประหลาดใจโดยสื่อสารว่ากำลังพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยมากกว่าครั้งละ 0.25% ขณะที่ธนาคารกลางอังกฤษ (บีโออี) และธนาคารกลางญี่ปุ่น (บีโอเจ) มีแนวโน้มประกาศคงดอกเบี้ยที่ 4.00% และ 0.50% ในวันที่ 18 ก.ย. และ 19 ก.ย. ตามลำดับ ขณะที่นักลงทุนจะจับสัญญาณเพื่อประเมินจังหวะเวลาการลดดอกเบี้ยของบีโออีและการขึ้นดอกเบี้ยของบีโอเจต่อไป