Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
BAY พัฒนานวัตกรรมทางการเงิน - กนง. คงดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี คาดจีดีพีปี 68 โต 2.2%
MAI
NCP แนวโน้มผลงาน 9 เดือนแรกโตต่อเนื่อง
IPO
ONSENS เทรด SET 7 ต.ค นี้ ดันผลงานครึ่งปีหลังโตเด่น
บล./บลจ
SCB WEALTH เปิดกอง ‘SCBUSDABSAP’ รับดอลลาร์อ่อน
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
กนง. มติ 5:2 คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อปี
การค้า - พาณิชย์
บสย. เดินหน้าค้ำประกันกลุ่มลีสซิ่งผ่านมาตรการ “กระบะพี่ มีคลังค้ำ”
พลังงาน - อุตสาหกรรม
BANPU ผนวก AI กับศักยภาพพนักงาน ขับเคลื่อนองค์กรสู่อนาคต
คมนาคม - โลจิสติกส์
‘พร้อม สปีด’ จัดแคมเปญแจกจริง iPhone 17 – ทองคำ ฉลอง 25,000 สาขา
แบงก์ - นอนแบงก์
BAY อัดงบกว่า 1.1หมื่นลบ. ลุยพัฒนานวัตกรรมทางการเงิน
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
PUEAN ปิดยอดจองหุ้นกู้เต็มจำนวน 200 ลบ.
SMEs - Startup
MAKE by KBank ชี้คนไทยหัน “แบ่งเงินคุมค่าใช้จ่าย” ลุยพัฒนา Cloud Pocket
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต จัดกิจกรรมตรวจสุขภาพประจำปี “Smile Morning Check up”
รถยนต์
PT Maxnitron Racing Series 2025 จบสนามที่ 3-5
ท่องเที่ยว
พรูเด็นเชียลฯ ร่วมสนับสนุน ซีนิคฮาล์ฟมาราธอนระยอง
อสังหาริมทรัพย์
A5 เดินหน้าลุย 5 โครงการ มูลค่ากว่า 6.1 พันล.
การตลาด
ตลท. จับมือ วารสารการเงินธนาคาร จัดงาน SET Awards ปี 68
CSR
MAKE by KBank ชี้คนไทยหัน “แบ่งเงินคุมค่าใช้จ่าย” ลุยพัฒนา Cloud Pocket
Information
TWPC คว้ารางวัลชนะเลิศระดับ Gold จากเวที HR Excellence Awards 2025
Gossip
IDG ชวนนักลงทุนร่วมงาน IPO Roadshow 14 ต.ค.นี้
Entertainment
BBL จัดพิธีพุทธาภิเษก ‘พระมงคลมิ่งเมือง’ วัตถุมงคลที่ระลึกงานพระกฐินพระราชทาน
สกุ๊ป พิเศษ
ATLAS หุ้นเด่น! LPG นวัตกรรมสุดล้ำ
กนง. มติ 5:2 คงดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.50% ต่อปี
2025-10-08 15:13:06
74
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - กนง. ประชุมวันที่ 8 ต.ค. 68 มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยมี 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.25% ต่อปี โดย กนง. เห็นว่านโยบายการเงิน ควรอยู่ในระดับผ่อนคลาย เพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ พร้อมทั้งมองเศรษฐกิจไทยในปี 68 และ 69 มีแนวโน้มขยายตัว 2.2% และ 1.6% ตามลำดับ
เมื่อวันที่ 8 ตุลาคม 2568 นายสักกะภพ พันธ์ยานุกูล เลขานุการ คณะกรรมการนโยบายการเงิน หรือ กนง. เปิดเผยว่า ที่ประชุม กนง. มีมติ 5 ต่อ 2 เสียง ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 1.50% ต่อปี โดยมี 2 เสียง ให้ลดอัตราดอกเบี้ยลง 0.25% มาอยู่ที่ 1.25% ต่อปี โดย กนง.เห็นว่า เศรษฐกิจในปี 2568 และ 2569 มีแนวโน้มขยายตัวใกล้เคียงกับที่เคยประเมินไว้ โดยภาคส่งออกเริ่มได้รับผลกระทบจากมาตรการภาษีสหรัฐฯ ขณะที่การท่องเที่ยวและอุปสงค์ในประเทศมีแนวโน้มชะลอลงก่อนจะทยอยฟื้นตัวในระยะข้างหน้า ด้านอัตราเงินเฟ้อทั่วไปต่ำกว่าที่ประเมินไว้จากราคาในหมวดพลังงานและอาหารสดเป็นสำคัญ แต่ยังไม่เห็นสัญญาณการปรับลดลงของราคาสินค้าเป็นวงกว้าง ด้านสินเชื่อรวมยังหดตัวและคุณภาพสินเชื่อกลุ่มเปราะบางยังด้อยลง
คณะกรรมการฯ เห็นว่านโยบายการเงินควรอยู่ในระดับผ่อนคลายเพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ ซึ่งการลดอัตราดอกเบี้ยที่ผ่านมาอยู่ระหว่างการส่งผ่านไปยังภาคเศรษฐกิจ โดยกรรมการส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับจังหวะเวลาและประสิทธิผลของนโยบายการเงินภายใต้ขีดความสามารถของนโยบายการเงิน(policy space) ที่มีจำกัด จึงเห็นควรให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายในการประชุมครั้งนี้ ขณะที่กรรมการ 2 ท่าน เห็นว่านโยบายการเงินสามารถผ่อนคลายเพิ่มเติมได้เพื่อให้ภาวะการเงินสนับสนุนการฟื้นตัวของเศรษฐกิจ และมีส่วนช่วยบรรเทาปัญหาด้านสภาพคล่องและภาระหนี้ โดยเฉพาะกลุ่ม SMEs และครัวเรือนกลุ่มเปราะบาง
ขณะที่เศรษฐกิจไทยในปี 2568 และ 2569 มีแนวโน้มขยายตัว 2.2% และ 1.6% ตามลำดับ โดยเศรษฐกิจในช่วงครึ่งแรกของปีนี้ขยายตัวดีตามที่ประเมินไว้ ส่วนหนึ่งเป็นผลจากการเร่งผลิตและส่งออกไปยังสหรัฐฯ อย่างไรก็ดี เศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังของปี 2568 และปี 2569 มีแนวโน้มชะลอลงจากผลกระทบของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ขณะที่ภาคการท่องเที่ยวจะทยอยฟื้นตัว อีกทั้งการบริโภคภาคเอกชนขยายตัวได้ในระดับหนึ่งโดยได้รับแรงส่งเพิ่มเติมจากมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ รวมถึงการส่งออกหมวดสินค้าอิเล็กทรอนิกส์มีแนวโน้มขยายตัวต่อเนื่อง ทั้งนี้ คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ติดตามผลกระทบที่ชัดเจนของมาตรการภาษีสหรัฐฯ ความต่อเนื่องของการใช้จ่ายงบประมาณภาครัฐ และการปรับตัวของธุรกิจ SMEs ที่ยังเผชิญปัญหาด้านการแข่งขัน การเข้าถึงสินเชื่อ และต้นทุนทางการเงิน
ส่วนอัตราเงินเฟ้อทั่วไปในปี 2568 และ 2569 มีแนวโน้มลดลงมาอยู่ที่ 0.0% และ 0.5% ตามลำดับ แต่คาดว่าจะทยอยกลับเข้าสู่กรอบเป้าหมายในช่วงต้นปี 2570 โดยเงินเฟ้อที่ปรับลดลงเป็นผลจากปัจจัยด้านอุปทานเป็นสำคัญ โดยเฉพาะจากราคาน้ำมันดิบโลกและมาตรการลดราคาน้ำมันขายปลีกในประเทศ รวมถึงราคาอาหารสดที่ปรับลดลงจากผลผลิตที่เพิ่มขึ้นตามสภาพอากาศที่เอื้ออำนวย ทั้งนี้ ความเสี่ยงด้านเงินฝืดยังอยู่ในระดับต่ำสะท้อนจากราคาสินค้าและบริการส่วนมากที่ยังปรับเพิ่มขึ้นหรือไม่เปลี่ยนแปลง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อพื้นฐานในปี 2568 และ 2569 อยู่ที่ 0.9% ทั้ง 2 ปี และอัตราเงินเฟ้อคาดการณ์ (headline inflation expectations) ในระยะปานกลางของภาคเอกชนยังยึดเหนี่ยวในกรอบเป้าหมาย คณะกรรมการฯ เห็นควรให้ติดตามพัฒนาการของราคาสินค้าและบริการเพื่อประเมินความเสี่ยงของภาวะเงินฝืดในระยะต่อไป
BAY พัฒนานวัตกรรมทางการเงิน - กนง. คงดอกเบี้ย 1.50% ต่อปี คาดจีดีพีปี 68 โต 2.2%
CHAYO นัดประชุมผู้ถือหุ้นกู้ 5 รุ่น ยืดวันไถ่ถอน-เพิ่มดอกเบี้ย
CMAN ควัก 336 ล้านบ. ซื้อหุ้น 60% ใน PT Bukit Bunea
EASTW ยืนยัน พร้อมให้บริการน้ำครบวงจรในพื้นที่ EEC
QTC ผนึกพันธมิตรตั้งบริษัทร่วมทุน “QTMC” - JMT ย้ำ! การเงินแข็งแกร่ง ชำระคืนหุ้นกู้ 3,375 ล.
SET สรุปภาวะเดือน ก.ย. 68 เพิ่มขึ้น 3.0%