Phones





MRDIYT เตรียมขาย IPO ไม่เกิน 655 ล้านหุ้น

2025-10-15 15:15:53 108



นิวส์ คอนเน็คท์ - MRDIYT ก.ล.ต. นับบหนึ่งไฟลิ่ง เตรียมเสนอขาย IPO ไม่เกิน 655 ล้านหุ้น หรือคิดเป็น ไม่เกิน 10.9% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด โดยมีช่วงราคาเสนอขายหุ้น IPO เบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 8.30-8.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งนักลงทุนรายย่อยสามารถจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 20–22 ต.ค. 68

เมื่อวันที่ 15 ตุลาคม 2568 นายพิเชษฐ สิทธิอำนวย กรรมการผู้อำนวยการ บริษัทหลักทรัพย์ บัวหลวง จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดจำหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัท มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MRDIYT เปิดเผยว่า สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้อนุมัติแบบแสดงรายการข้อมูลการเสนอขายหลักทรัพย์ (แบบไฟลิ่ง) และหนังสือชี้ชวน (Prospectus) ของ MRDIYT เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยมีช่วงราคาเสนอขายหุ้น IPO เบื้องต้นกำหนดไว้ที่ 8.30-8.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งนักลงทุนรายย่อยสามารถจองซื้อหุ้นได้ในระหว่างวันที่ 20–22 ตุลาคม 2568

ส่วน ราคาขายสุดท้าย ซึ่งจะกำหนดจากกระบวนการ Book-building จะประกาศภายในวันที่ 24 ตุลาคม 2568 และคาดว่าจะสามารถเข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ได้ในช่วงเดือน พฤศจิกายน โดยจะระดมทุนสูงสุดประมาณ 5.6 พันล้านบาท จากการเสนอขายหุ้น IPO ที่ราคาสำหรับนักลงทุนรายย่อย ที่อยู่ระหว่าง 8.30–8.60 บาทต่อหุ้น ซึ่งคิดเป็น มูลค่าตลาด (Market Capitalisation) สูงสุดประมาณ 57.1 พันล้านบาท หลังจากการเพิ่มทุนของบริษัท ทำให้การเสนอขายหุ้นในครั้งนี้เป็น IPO ที่มีขนาดใหญ่ที่สุดในประเทศไทยนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2565

นายกนต์ธีร์ ประเสริฐวงศ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า MRDIYT มีแผนจะเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก (IPO) รวมไม่เกิน 655,000,000 หุ้น หรือคิดเป็น ไม่เกิน 10.9% ของจำนวนหุ้นสามัญที่ออกและชำระแล้วทั้งหมด หลังจากการเพิ่มทุนและการเสนอขายในครั้งนี้ การเสนอขายดังกล่าวประกอบด้วย หุ้นสามัญเพิ่มทุนใหม่ จำนวนไม่เกิน 420,000,000 หุ้น, และหุ้นสามัญเดิม จำนวนไม่เกิน 235,000,000 หุ้น โดยการระดมทุนในครั้งนี้ จะนำเงินไปใช้เพื่อ เพื่อพัฒนาและขยายสาขา การพัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ และการชำระคืนเงินกู้ที่มีกับสถาบันการเงินรวมถึงใช้เป็น เงินทุนหมุนเวียน เพื่อสนับสนุนการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาว

นายแอนดี้ ชิน กวานกุ้ย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บมจ. มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) หรือ MRDIYT กล่าวว่า อุตสาหกรรมค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านในประเทศไทยคาดการณ์ว่ามีอัตราเติบโตเฉลี่ยสะสมต่อปี (CAGR) ที่ 5.4% จากมูลค่าตลาด 182.6 พันล้านบาท ในปี 2567 จะเพิ่มขึ้นเป็น 237.8 พันล้านบาท ในปี 2572 ที่สำคัญกว่านั้น ผู้ค้าปลีกในรูปแบบ Chain Retailer เช่น MR. D.I.Y. ก็กำลังเติบโตเร็วกว่าตลาดโดยมีอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่ 15.3%

“ปัจจุบัน เราเป็นผู้นำตลาดในกลุ่มธุรกิจของเรา ด้วยส่วนแบ่งตลาดที่ 9% ซึ่งสะท้อนถึงรากฐานที่มั่นคงของเรา ขณะเดียวกัน ส่วนแบ่งตลาดในระดับเลขหลักเดียวนี้ยังแสดงให้เห็นว่า เรายังอยู่ในช่วงเริ่มต้นของการปลดล็อกศักยภาพที่แท้จริงของตลาดสินค้าตกแต่งบ้านในประเทศไทย โดยในปี พ.ศ. 2567 บริษัทมีรายได้รวม 16.2 พันล้านบาท ซึ่งสะท้อนถึงอัตราการเติบโตเฉลี่ยต่อปี (CAGR) ที่แข็งแกร่งถึง 28% ขณะที่ประสิทธิภาพการดำเนินงานที่แข็งแกร่งยังช่วยผลักดันให้เรามีกำไรสุทธิ 1.7 พันล้านบาท เติบโตเฉลี่ยต่อปี 30% ในช่วงเวลาเดียวกัน ซึ่งการระดมทุนในครั้งนี้จะช่วยเสริมศักยภาพการขยายสาขา การพัฒนาระบบคลังสินค้าอัตโนมัติ และการกระจายสินค้า เพื่อสนับสนุนแผนของเราที่จะขยายสาขาให้ครบ 1,500 แห่งทั่วประเทศภายในปี พ.ศ. 2570” นายแอนดี้ กล่าว

นายเอเดรียน ออง ประธานกรรมการ บมจ. มิสเตอร์. ดี.ไอ.วาย. โฮลดิ้ง (ประเทศไทย) หรือ MRDIYT กล่าวว่า บริษัทฯ ประกอบธุรกิจค้าปลีกอุปกรณ์ตกแต่งบ้านและสินค้าไลฟ์สไตล์ทั่วไป ภายใต้แบรนด์ “MR. D.I.Y.” ที่มีขนาดใหญ่และเติบโตเร็วที่สุดในประเทศไทย ขับเคลื่อนด้วยทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์ที่มุ่งมั่นการยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดีของคนไทยทั่วประเทศ เพื่อให้ทุกคนได้ครบทุกสิ่ง ในทุกวัน ด้วยราคาถูกคุ้มเสมอ ผ่านการนำเสนอสินค้ากว่า 16,000 รายการ ครอบคลุมใน 6 กลุ่มสินค้าหลัก ได้แก่ (1) เครื่องใช้ในครัวเรือนและอุปกรณ์ตกแต่งบ้าน (2) อุปกรณ์ฮาร์ดแวร์และเครื่องมือช่าง (3) เครื่องใช้ไฟฟ้า (4) เครื่องเขียนและอุปกรณ์กีฬา (5) ของเล่น และ (6) สินค้าเบ็ดเตล็ดอื่นๆ

โดยบริษัทฯ ยังคงมุ่งมั่นที่จะมอบสินค้าที่คุ้มค่าคุ้มราคา พร้อมประสบการณ์การช้อปปิ้งที่สะดวกสบาย โดยการเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) ภายใต้ชื่อย่อ MRDIYT ถือเป็น ก้าวสำคัญของบริษัท ในการเสริมสร้าง ธรรมาภิบาล (Corporate Governance) ภาพลักษณ์ของแบรนด์ และการเป็นที่รู้จักในวงกว้างมากขึ้น

สำหรับ MR. D.I.Y. วางแผนขยายสาขาทั่วประเทศไทยด้วยการเพิ่มสาขาใหม่ไม่น้อยกว่า 500 สาขาภายในระยะเวลา 3 ปี (พ.ศ. 2568–2570) เพื่อเพิ่มส่วนแบ่งทางการตลาดและขยายการดำเนินงานให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น โดยยังคงมุ่งมั่นที่จะนำเสนอสินค้าที่ตอบโจทย์ครบทุกความต้องการในทุกวันด้วยราคาถูกคุ้มเสมอ (“Always Low Prices”) ผ่านสินค้าที่หลากหลายและสาขาที่ตั้งอยู่ในทำเลที่สะดวกสบาย เพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตของคนไทยทั่วประเทศ

นอกจากนี้บริษัทฯ มีแผนลงทุน 4.5 พันล้านบาท เพื่อสร้างคลังสินค้าอัตโนมัติขนาดใหญ่ เพื่อยกระดับประสิทธิภาพด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชน (supply chain) ให้สามารถรองรับการเติบโตของบริษัทได้มากกว่า 1,500 สาขาหลังปี พ.ศ. 2570 พร้อมทั้งเดินหน้าพัฒนาประสิทธิภาพด้านต้นทุนอย่างต่อเนื่อง