Phones





TEGH คอนเฟิร์มรายได้แตะ 2 หมื่นล. จ่อส่ง TEBP เข้า mai

2025-11-17 14:36:27 84



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - TEGH เปิดงบไตรมาส 3/68 รายได้โต 1.2% รับแรงหนุนจากการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่ดี มีการกระจายตัวของลูกค้าทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก มั่นใจรายได้รวมปีนี้แตะ 20,000 ล้านบาท สูงสุดเป็นประวัติการณ์ พร้อมส่งบริษัทลูก “TEBP” เข้าตลาด mai ต้นปี 69
 
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2568 นางสาวสินีนุช โกกนุทาภรณ์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท ไทยอีสเทิร์น กรุ๊ป โฮลดิ้งส์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEGH เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 3/2568 กลุ่มบริษัทมีรายได้รวม 4,757.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.2% และมีกำไรสุทธิ 50.6 ล้านบาท ขณะที่ผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนปี 2568 มีรายได้รวม 15,825.9 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 37.2% และมีกำไรสุทธิ 438.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน แม้ภาพรวมราคายางพาราเริ่มปรับตัวลดลงตามทิศทางตลาดโลกและการลดลงของส่วนต่างราคาระหว่างยางแท่งและยางก้อนถ้วย โดยปัจจัยบวกสำคัญในไตรมาสนี้ มาจากการบริหารจัดการต้นทุนการผลิตที่ดี มีการกระจายตัวของฐานลูกค้าทั้งในและต่างประเทศทั่วโลก ส่งผลให้ยอดขายในประเทศไทยและต่างประเทศ ทั้ง จีน อินเดีย และสหรัฐฯ ขยายตัว
 
ขณะเดียวกันยางแท่งเกรดมาตรฐาน EUDR ก็เริ่มกลับมามีคำสั่งซื้อเพิ่มขึ้นนอกจากลูกค้ากลุ่มยุโรป เช่น ลูกค้าเกาหลีใต้และจีน ถือเป็นสัญญาณที่ดีหลังสหภาพยุโรปประกาศยืนยันไม่เลื่อนการบังคับใช้กฎหมาย EUDR แม้ตลาดยุโรปมีการชะลอคำสั่งซื้อในไตรมาส 3/2568 แต่คาดว่า จะทยอยกลับมาในไตรมาส 4/2568 ขณะที่ความต้องการใช้ยางพาราในปัจจุบันยังคงมีแนวโน้มที่ดี โดยประเทศที่มีความต้องการเติบโตชัดเจน ได้แก่ จีน และ อินเดีย และสหรัฐอเมริกา รวมถึงตลาดในประเทศ ส่วนประเทศญี่ปุ่น และ เกาหลีใต้ ความต้องการยางแท่งเกรดมาตรฐาน EUDR เริ่มมีสัญญาณขยับตัวเพิ่มขึ้น
 
สำหรับธุรกิจปาล์ม ปริมาณขายน้ำมันปาล์มดิบ (CPO) สะสม 9 เดือน เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีก่อน จากการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องจักร ทำให้มีผลประกอบการดีขึ้นใน 2 ไตรมาสหลัง และยังมีโอกาสต่อยอดเพิ่มมูลค่าผ่านการรับรองมาตรฐาน ISCC Plus และ ISCC EU เป็นการเตรียมความพร้อมเพื่อรองรับความต้องการจากตลาดพลังงานทดแทน โดยเฉพาะเชื้อเพลิงการบินอย่างยั่งยืน (SAF) ในอนาคต
 
ในส่วนของธุรกิจพลังงานทดแทนและรับบริหารจัดการกากอินทรีย์ยังคงรักษามาตรฐาน มีการเติบโตต่อเนื่องในด้านปริมาณการขายและให้บริการ แม้จะได้รับผลกระทบจากราคาพลังงานที่มีแนวโน้มอ่อนตัวลง พร้อมหน้าโครงการขยายกำลังการผลิตเฟสใหม่ตามแผน เพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว
 
ทั้งนี้ บริษัทมั่นใจว่ารายได้รวมในปี 2568 จะสูงกว่า 20,000 ล้านบาท สร้างสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All Time High) ตามแผนงานที่วางไว้ โดยได้รับปัจจัยหนุนจากปริมาณยอดขายที่เพิ่มขึ้น รวมถึงมียอดขายยางแท่งมาตรฐาน EUDR ที่เติบโตตามเป้าหมาย ธุรกิจน้ำมันปาล์มดิบยอดขายเพิ่มขึ้น และความสามารถในการทำกำไรเริ่มกลับมาเทิร์นอะราวด์ได้แล้ว และธุรกิจพลังงานทดแทนฯ ที่สามารถเติบโตได้อย่างโดดเด่น จากการขยายกำลังการผลิตไปเมื่อปลายปีที่แล้ว
 
นอกจากนี้ TEGH ยังเดินหน้าแผนการนำบริษัทย่อย คือ บริษัท ไทยอีสเทิร์น ไบโอ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ TEBP เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) ภายในต้นปี 2569 เพื่อระดมทุนขยายกำลังการผลิตเฟสใหม่ รองรับความต้องการของลูกค้า เสริมศักยภาพการเติบโตในกลุ่มพลังงานทดแทนอย่างยั่งยืน ภายใต้วิสัยทัศน์ Leading Green Energy Revolution: Pioneering the Net Zero Solution