Phones





ITC เปิดเทรดวันแรก 32.75บาท เพิ่มขึ้น 2.34% โบรกฯ ให้เป้าสูง 45 บ.

2022-12-09 12:49:12 272



นิวส์ คอนเน็คท์ - ITC เปิดเทรดวันแรก 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 2.34% จากราคาจองที่ 32 บาท ฟากเหล่าโบรกฯมองธุรกิจมีอนาคตไกล ผลงานฉายแววโตสวยทุกปี ให้เป้าเหมาะสมสูงสุด 45 บาท 

เมื่อวันที่ 9 ธันวาคม 2565 บริษัท ไอ-เทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ ITC ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) เป็นวันแรก โดยราคาเปิดภาคเช้าที่ 32.75 บาท เพิ่มขึ้น 0.75 บาท หรือ 2.34% จากราคาไอพีโอ 32 บาท และมีการซื้อขายรายการใหญ่ในกระดาน (Biglot) 1 รายการ 1.3 ล้านหุ้น ที่ราคาไอพีโอ 32 บาท คิดเป็นมูลค่า 41.60 ล้านบาท โดยระหว่างการซื้อขายภาคเช้า ราคาต่ำสุดที่ 32 บาท และสูงสุดที่ 33.75 บาท ทั้งนี้ ITC มีราคาปิดภาคเช้าที่ 32.25 บาท เพิ่มขึ้น 0.25 บาท หรือ 0.78% มูลค่าการซื้อขายรวม 4.2 พันล้านบาท 

อนึ่ง ITC ดำเนินธุรกิจเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอาหารสัตว์เลี้ยงและขนมสำหรับสัตว์เลี้ยงประเภทแมวและสุนัข โดยมีจำนวนหุ้น IPO รวม จำนวน 660,000,000 หุ้น คิดเป็น 22.00% ของหุ้นทั้งหมดหลัง IPO แบ่งเป็น 1) หุ้นสามัญเพิ่มทุนที่เสนอขายโดยบริษัท จำนวน 600,000,000 หุ้น 2) หุ้นสามัญเดิมที่เสนอขายโดยผู้ถือหุ้นเดิม (บมจ. ไทยยูเนี่ยน กรุ๊ป) จำนวน 60,000,000 หุ้น 

ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟินันเซีย ไซรัส ให้ข้อมูลว่า ทาง ITC เป็นผู้ผลิตอาหารสัตว์เลี้ยงรายใหญ่ของไทยและของโลก มีจุดแข็งอยู่ที่ความได้เปรียบทางด้านต้นทุนและการพัฒนาสินค้าที่มีนวัตกรรมสม่ำเสมอ การมี TU เป็นแม่ ซึ่งเป็นผู้ผลิตปลาทูน่ารายใหญ่ของโลก ทีมผู้บริหารมีประสบการณ์เฉลี่ยถึง 20 ปี ทำให้สามารถตอบสนองความต้องการและรักษาความสัมพันธ์กับลูกค้าแบรนด์อาหารสัตว์เลี้ยงระดับโลกมายาวนาน และสามารถสร้างการเติบโตได้ดีกว่ามูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงมาโดยตลอดในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา 

แม้จะเผชิญการแพร่ระบาดของโควิด แต่อาหารสัตว์เลี้ยงยังเติบโตต่อเนื่องตามกระแส Pet Humanization คาดกำไรปกติปี 2565 ยังเติบโตแข็งแกร่ง และคาดการเติบโตของกำไร 3 ปีข้างหน้าจะโตเฉลี่ย +19% ทั้งฝ่ายจึงชอบทั้งแนวโน้มการเติบโตของกำไร และความสามารถทำกำไรที่โดดเด่นกว่าคู่แข่ง ให้กรอบราคาเหมาะสม 41-45 บาท แนะนำ "ซื้อ" 

ด้านฝ่ายวิเคราะห์ บล.โกลเบล็ก เผยต่อว่า ทางฝ่ายประเมินราคาเหมาะสมสำหรับปี 2566 ราว 39-42 บาท เป็นการประเมินจากรวิธี PER ซึ่งอิง Prospective PER ที่ระดับ 26–28 เท่าซึ่งใกล้เคียงกับ PER เฉลี่ยของกลุ่มที่ระดับ 28 เท่า ขณะที่ประเมินอัตราการเติบโตเฉลี่ย (CAGR) ระหว่างปี 2562-2565 เท่ากับ 26% ต่อปี เราคาดกำไรสุทธิต่อหุ้น (EPS) ปี 2565 และ 2566 ราว 1.28 บาทและ 1.45 บาทต่อหุ้น คำนวณเป็นราคาเหมาะสมเท่ากับ

ขณะที่ด้านฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า ITC มีมูลค่าที่เหมาะสมในปี 2566 ที่ 39 - 41 บาท (อิงบริษัทในกลุ่มอุตสาหกรรมทั้งที่มีลักษณะการดำเนินธุรกิจใกล้เคียงกัน ที่ P/E 23.5-24 เท่า) โดยเราคาด ITC จะมีแนวโน้มผลการดำเนินงานค่อนข้างสดใส จากอุปสงค์อาหารสัตว์เลี้ยงที่เพิ่มขึ้นตามตลาดโลก จากพฤติกรรมของการเลี้ยงสัตว์ที่เอาใจใส่สัตว์เลี้ยงเพิ่มขึ้น โดยมูลค่าตลาดอาหารสัตว์เลี้ยงทั่วโลกคาดจะมีการเติบโตปี 65-66 เฉลี่ยที่ 7.1% โดยเฉพาะในอาหารเปียก มากกว่า อาหารแห้ง และอาหารแมว มากกว่า อาหารสุนัข ซึ่งเป็นสินค้าที่ ITC มีสัดส่วนรายได้มาก อีกทั้งสามารถสร้างความได้เปรียบด้านต้นทุนเมื่อเทียบกับคู่แข่งในตลาด จากการร่วมมือกับบริษัทแม่อย่าง TU นอกจากนี้จากแผนการนำเงินที่ได้จากการ IPO ไปใช้ในการขยายกำลังการผลิต และเน้นพัฒนากลุ่มสินค้าพรีเมียม จะช่วยสร้างการเติบโตของผลดำเนินงานแก่บริษัทในอนาคต สำหรับความเสี่ยงที่ต้องระวังของ ITC คือ ความผันผวนของราคาวัตถุดิบ, การแข่งขันในอุตสาหกรรมที่สูง, ความเสี่ยงจากความผันผวนของอัตราแลกเปลี่ยน และความเสี่ยงจากภาวะเศรษฐกิจที่อาจถดถอยในปีหน้า