Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
InnovestX คงเป้า SET ที่ระดับ 1,250 จุด - PTG หุ้นดี ครบเครื่อง! ชู Non-Oil เรือธง
MAI
MPJ รุกเปิดพื้นที่ลานตู้คอนเทนเนอร์ 'ลาดกระบัง-แหลมฉบัง'
IPO
6 โบรกฯ ฟันธง! ATLAS หุ้นเด่นอนาคตไกล เคาะเป้าสูง 5.20 บ.
บล./บลจ
InnovestX คงเป้า SET ที่ 1,250 จุด ชี้ตลาดหุ้น Q3 ผันผวนสูง
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
BAY วางกรอบเงินบาท 32.10-32.75 มองภาษีทรัมป์กดดันตลาดการเงินโลก
การค้า - พาณิชย์
บสย. ผนึก “เงินดีดี” หนุน Micro SMEs รายย่อย-อาชีพอิสระ เข้าถึงแหล่งทุน
พลังงาน - อุตสาหกรรม
TSE คว้ารางวัลพลังงานยอดเยี่ยม Thailand Energy Award 2 ปีซ้อน
คมนาคม - โลจิสติกส์
SJWD ชูโซลูชันโลจิสติกส์ รับมือปิดด่านเขมร
แบงก์ - นอนแบงก์
ออมสิน โชว์ผลงาน 5 ปี ช่วยคนไทยกว่า 18 ล้านบัญชี
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
กรุงศรี ออโต้ เปิดพฤติกรรมผู้ใช้รถใหม่ทั่วภูมิภาคของไทย
SMEs - Startup
SCB TechX ตั้ง ‘สุทธิพงศ์’ นั่งแท่น CEO คนใหม่
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต เปิดให้บริการ “ยื่นเคลม OPD” แบบไม่ต้องสำรองจ่าย
รถยนต์
นิสสัน ปรับปรุงสายการผลิตในไทย เสริมแกร่งการแข่งขันด้านต้นทุน
ท่องเที่ยว
VRANDA ชี้ท่องเที่ยวส่งสัญญาณฟื้นตัว เด้งรับ ‘เที่ยวคนละครึ่ง’
อสังหาริมทรัพย์
A5 ประกาศ Sold Out ‘แซงค์ รอยัล กรุงเทพกรีฑา’ มูลค่ากว่า 3.5 พันล.
การตลาด
Shopee ผนึกพันธมิตร คว้าวง ENHYPEN เขย่าหัวใจแฟนคลับชาวไทย
CSR
SCB TechX ตั้ง ‘สุทธิพงศ์’ นั่งแท่น CEO คนใหม่
Information
EXIM BANK เข้าพบเอกอัครราชทูต ณ เวียงจันทน์
Gossip
SVT ผุดแคมเปญใหญ่!
Entertainment
เมืองไทย Smile Trip : เที่ยว กิน ฟิน มู @นครศรีธรรมราช
สกุ๊ป พิเศษ
"รุ่ง-วิทัย" ใครจะเข้าวิน ผู้ว่าฯ แบงก์ชาติ
WHAUP กำไรปี 65 ทรุด 38% รับพิษอัตราแลกเปลี่ยน
2023-02-23 22:25:35
287
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – WHAUP โชว์งบการเงินปี 65 มีกำไรสุทธิ 454 ล้านบาท ลดลง 38% จากปีก่อน หลังส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า SPP และ IPP ลดลง รวมถึงผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน ด้านผู้บริหารสั่งเร่งเครื่องศึกษาแผนลงทุนในประเทศ และต่างประเทศ ตั้งเป้ารายได้รวมระยะ 5 ปี อยู่ที่ 27,000 ล้านบาท พร้อมอัดงบลงทุน 18,500 ล้านบาท
เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 นายสมเกียรติ เมสันธสุวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ดับบลิวเอชเอ ยูทิลิตี้ส์ แอนด์ พาวเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ WHAUP เปิดเผยว่า ผลการดำเนินของบริษัทในปี 2565 บริษัทมีการรับรู้รายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติจำนวน 2,790 ล้านบาท ลดลง 8% จากปีก่อน และมีกำไรปกติ (Normalized Net Profit) 448 ล้านบาท ลดลง 48% จากปีก่อน โดยรายได้รวมจากธุรกิจจำหน่ายน้ำและไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ยังคงเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยเพิ่มขึ้น 12% จากปีก่อน แต่บริษัทได้รับผลกระทบทางลบจากต้นทุนพลังงานทั้งก๊าซธรรมชาติและถ่านหินที่เพิ่มสูงขึ้น ส่งผลให้ส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในธุรกิจไฟฟ้า SPP และ IPP ลดลง ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิปี 2565 อยู่ที่ 454 ล้านบาท ลดลง 38% จากปีก่อน ซึ่งรวมผลกระทบจากอัตราแลกเปลี่ยน
ทั้งนี้ ผลการดำเนินงานธุรกิจสาธารณูปโภค ในปี 2565 บริษัทมีปริมาณการจำหน่ายและบริหารน้ำทั้งในประเทศและต่างประเทศรวมกันเท่ากับ 145 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 8% จากปี 2564 โดยภาพรวมปริมาณจำหน่ายและบริหารน้ำในประเทศมีการเติบโต 4% เนื่องจากความต้องการใช้น้ำในภาคอุตสาหกรรมที่เพิ่มสูงขึ้น ในขณะที่ความต้องการใช้น้ำมูลค่าเพิ่ม (Value added product) ไม่ว่าจะเป็นน้ำปราศจากแร่ธาตุ (Demineralized Water) และน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูง (Premium Clarified Water) ก็ยังเพิ่มขึ้นต่อเนื่อง อาทิ การให้บริการน้ำอุตสาหกรรมคุณภาพสูงให้กับโรงไฟฟ้า Gulf TS 3&4 และการให้บริการน้ำปราศจากแร่ธาตุให้แก่ลูกค้าในนิคมอุตสาหกรรมเอเซีย (มาบตาพุด) ซึ่งโครงการทั้งสองได้เริ่มเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปในปีที่ผ่านมา
สำหรับธุรกิจน้ำในเวียดนาม ปี 2565 บริษัทมียอดจำหน่ายน้ำรวมตามสัดส่วนการถือหุ้นเท่ากับ 28 ล้านลูกบาศก์เมตร เพิ่มขึ้น 26% จากปีก่อน เนื่องจากปริมาณการจำหน่ายน้ำของโครงการ Duong River ที่เพิ่มขึ้น ตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในประเทศของเวียดนาม ซึ่งเป็นสัญญาณบวกหลังจากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย รวมทั้งบริษัทฯ ได้มีการขยายฐานลูกค้า และพื้นที่ในการให้บริการน้ำประปาที่ครอบคลุมมากขึ้น
ในส่วนของธุรกิจพลังงาน บริษัทมีส่วนแบ่งกำไรปกติจากธุรกิจไฟฟ้าในปี 2565 จำนวน 486 ล้านบาท ลดลง 49% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยมีสาเหตุหลักจากการลดลงของส่วนแบ่งกำไรจากกลุ่มโรงไฟฟ้า SPP ที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเป็นเชื้อเพลิงและโรงไฟฟ้าถ่านหิน GHECO-One อันเนื่องมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่เพิ่มสูงขึ้น แต่อย่างไรก็ตาม ในไตรมาส 4 ที่ผ่านมาได้เริ่มเห็นสัญญาณการฟื้นตัวโดยเฉพาะในธุรกิจ SPP อันเนื่องมาจากต้นทุนเชื้อเพลิงที่เริ่มลดลงในขณะที่รับรู้การปรับขึ้นค่า Ft เป็น 0.9343 บาทต่อหน่วย เต็มไตรมาส ซึ่งส่งผลบวกต่อ margin จากการขายไฟฟ้าให้กับลูกค้ากลุ่มอุตสาหกรรม โดยคาดว่าจะเห็นการฟื้นตัวอย่างต่อเนื่องของธุรกิจ SPP ในปี 2566 จากการรับรู้การปรับขึ้นของค่า Ft เป็น 1.549 บาทต่อหน่วย ซึ่งมีผลตั้งแต่เดือนม.ค. 2566 ที่ผ่านมา
ขณะที่ธุรกิจไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในปี 2565 บริษัทมีการเติบโตอย่างโดดเด่น สามารถเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ (COD) เพิ่มเติมอีก 37 เมกะวัตต์ ส่งผลให้ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมีกำลังการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เปิดดำเนินเชิงพาณิชย์แล้วรวม 94 เมกะวัตต์ ทำให้รับรู้รายได้ในปี 2565 เท่ากับ 207 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 51% จากปีก่อน ขณะที่ปี 2565 ที่ผ่านมา บริษัทได้มีการเซ็นต์สัญญาโครงการโซลาร์รูฟท็อปเพิ่มจำนวน 31 สัญญา โดยแบ่งเป็นโครงการ Private PPA จำนวน 26 สัญญา คิดเป็นกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 41 เมกะวัตต์ ซึ่งรวมถึงสัญญากับบริษัท ฟอร์ด มอเตอร์ คัมปะนี (ประเทศไทย) เพื่อติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคาที่จอดรถ (Solar Carpark) ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย ด้วยขนาดกำลังผลิตไฟฟ้า 7.7 เมกะวัตต์ และโครงการ EPC service จำนวน 5 สัญญา มีกำลังการผลิตไฟฟ้ารวม 9 เมกะวัตต์ ทำให้ ณ สิ้นปี 2565 บริษัทมีจำนวนสัญญาโครงการ Private PPA จากพลังงานแสงอาทิตย์สะสมจำนวน 133 เมกะวัตต์ และมีสัญญาซื้อขายไฟฟ้า (PPA) รวมทั้งหมดจากโรงไฟฟ้าทุกประเภทตามสัดส่วนการถือหุ้นจำนวน 683 เมกะวัตต์
ทั้งนี้ จากผลการดำเนินงานในปีที่ผ่านมา ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท(บอร์ด) มีมติเสนอต่อที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติให้จ่ายปันรวมสำหรับผลการดำเนินงานปี 2565 ที่ 0.16 บาทต่อหุ้น โดยเป็นเงินปันผลระหว่างกาลที่ได้จ่ายให้ผู้ถือหุ้นไปแล้วจำนวน 0.06 บาทต่อหุ้น และเงินปันผลที่จะจ่ายเพิ่มเติมอีก 0.10 บาทต่อหุ้น โดยจะขึ้นเครื่องหมาย XD ในวันที่ 27 เม.ย. 2566 และกำหนดการจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 17 พ.ค. 2566 ตามลำดับ ซึ่งเป็นการสะท้อนความแข็งแกร่งทางการเงิน และการมีกระแสเงินสดจากการดำเนินงานสม่ำเสมอของธุรกิจ
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในปี 2566 บริษัทจะเดินเกมรุกผ่านนวัตกรรมใหม่ๆ สู่การเติบโตอย่างยั่นยืน โดยมุ่งเน้นต่อยอดธุรกิจทั้งภายใน และภายนอกนิคมอุตสาหกรรมของดับบลิวเอชเอ กรุ๊ป ทั้งในประเทศและประเทศเวียดนาม เพื่อสร้างการเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยบริษัทตั้งเป้ารายได้และส่วนแบ่งกำไรปกติรวม 5 ปี (2566 - 2570) ที่ 27,000 ล้านบาท พร้อมทั้งตั้งงบลงทุนภายใน 5 ปี ไว้ที่ 18,500 ล้านบาท
โดยในปี 2566 บริษัทพร้อมเปิดโอกาสด้านการลงทุนใหม่ทั้งในประเทศ และต่างประเทศ รวมถึงการนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ใช้ในการดำเนินธุรกิจเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะการขยายพอร์ตพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ทั้งพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานจากขยะอุตสาหกรรม และพลังงานประเภทอื่น ๆ โดยตั้งเป้ายอดเซ็นสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนสะสมเพิ่มเป็น 300 เมกะวัตต์ โดยบริษัทได้เข้าร่วมเสนอชื่อเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff (FiT) ซึ่งเปิดรับซื้อโดยคณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน โดยผ่านการคัดเลือกด้านเทคนิคจำนวน 5 โครงการ คาดว่าจะทราบผลการตัดสินรอบสุดท้ายภายในเดือนมี.ค.นี้
InnovestX คงเป้า SET ที่ระดับ 1,250 จุด - PTG หุ้นดี ครบเครื่อง! ชู Non-Oil เรือธง
BJC ปลื้ม! ยอดจองหุ้นกู้เกินเป้ากว่า 5.5 เท่า
PLUS มั่นใจภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ไม่กระทบออเดอร์
GBS ชี้เป้าหุ้นหลบภัย 'ทรัมป์' TISCO - BGRIM เด่น - CH ธุรกิจครึ่งปีหลังยังดี ลุย EXPO - เพิ่มฐานลูกค้า
KBANK เปิดบริการสแกนจ่าย QR ครอบคลุมกลุ่มอาเซียน - ADVANC โบรกฯ เคาะเป้า 315 บ.
ตลท. ดัชนีหุ้นไทยเดือน มิ.ย. 68 ปิดที่ 1,089.56 จุด