Phones





ไทยพาณิชย์พร้อมเปิดจองซื้อกองทุนVAYU1

2024-09-11 18:13:21 278



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - ไทยพาณิชย์  พร้อมเดินหน้าเปิดให้ประชาชนทั่วไปและนักลงทุนรายย่อย จองซื้อหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ระหว่างวันที่ 16 – 20 ก.ย. 67 ผ่านสาขาและแอปพลิเคชัน SCB Easy ระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี วงเงินระดมทุนประมาณ 100,000 - 150,000 ล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 11 กันยายน 2567 นายศรชัย สุเนต์ตา, CFA รองผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารสายงาน Investment Office and Product กลุ่มธุรกิจ Wealth ธนาคารไทยพาณิชย์ เปิดเผยว่า ตามที่กระทรวงการคลังเตรียมเปิดเสนอขายหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง (VAYU1) ประเภท ก. ให้แก่ ผู้ลงทุนทั่วไป โดยประชาชนและนักลงทุนรายย่อย สามารถจองซื้อหน่วยลงทุนผ่านธนาคารไทยพาณิชย์ ได้ระหว่างวันที่ 16 – 20 ก.ย. 2567 จองซื้อขั้นต่ำ 10,000 บาท และเพิ่มทีละ 1,000 บาท มูลค่าที่ตราไว้หน่วยลงทุนละ 10 บาท ระยะเวลาการลงทุนเบื้องต้น 10 ปี วงเงินระดมทุนประมาณ 100,000 -150,000 ล้านบาท  โดยกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประเภท ก. มีวัตถุประสงค์เพื่อเป็นทางเลือกในการออมให้กับประชาชน และโอกาสรับผลตอบแทนที่สม่ำเสมอตลอดระยะเวลาเวลาลงทุน 10 ปี
 
ทั้งนี้ คาดว่าเม็ดเงินลงทุนในกองทุนนี้จะสามารถช่วยกระตุ้นให้ตลาดหุ้นไทยกลับมาแข็งแกร่งและมีเสถียรภาพ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้แก่นักลงทุนไทยและต่างประเทศ กลับเข้าลงทุนในตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง โดยธนาคารไทยพาณิชย์เป็นหนึ่งในตัวแทนการจำหน่ายหน่วยลงทุนกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประเภท ก. นักลงทุนที่สนใจสามารถจองซื้อผ่านช่องทางสาขาของธนาคารทั่วประเทศ และแอปพลิเคชัน SCB EASY โดยหน่วยลงทุนจะจัดสรรด้วยวิธี Small Lot First หรือผู้จองซื้อที่จำนวนขั้นต่ำได้รับการจัดสรรก่อน
 
สำหรับกองทุนรวมวายุภักษ์ หนึ่ง ประเภท ก.มีนโยบายการลงทุนในหลักทรัพย์ทั้งแบบเชิงรุก (Active Investment) และเชิงรับ (Passive Investment) โดยแบ่งออกเป็น 3 ประเภท ได้แก่ 1.หลักทรัพย์สภาพคล่อง เช่น ตราสารภาครัฐ ตราสารหนี้ระยะสั้น ตราสารการเงิน หรือตราสารเท่าเทียมเงินฝากที่เสนอขายทั้งในและต่างประเทศ ตลอดจนเงินฝาก โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อรักษาสภาพคล่องของกองทุน, 2. หลักทรัพย์ที่จะทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยที่มีความยั่งยืนในกระบวนการดำเนินธุรกิจ โดยคำนึงถึงการบริหารความเสี่ยงและปัจจัยการเปลี่ยนแปลงด้านสังคม สิ่งแวดล้อม และธรรมาภิบาล และ3. ลงทุนในหลักทรัพย์อื่น เช่น ประเภท Unlisted Securities ตราสารหนี้ Non-Investment Grade หรือ Unrated Securities ได้ไม่เกิน 10% ของ NAV รวมถึงอาจลงทุนในทองคำ น้ำมันดิบ สินค้าโภคภัณฑ์ และหน่วยลงทุนใน Private Equity ทั้งนี้ กองทุนรวมอาจลงทุนในกองทุนรวมอื่นซึ่งอยู่ภายใต้การจัดการของบริษัทจัดการเดียวกันได้ในสัดส่วนไม่เกิน 10%ของNAV
 
นอกจากนี้ กองทุนอาจลงทุนในสัญญาซื้อขายล่วงหน้า เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารกองทุน โดยกองทุนกลยุทธ์การลงทุน มุ่งหวังให้ผลประกอบการสูงกว่าดัชนีชี้วัด (Active Management) ทั้งนี้ กองทุนรวม ไม่มีผู้ค้ำประกันเงินลงทุนและไม่คุ้มครองเงินต้น แต่จะมีกลไกการบริหารความเสี่ยง เพื่อคุ้มครองผลตอบแทนและเงินลงทุนให้ได้ตามที่คาดหวัง โดยกองทุนมีนโยบายจ่ายเงินปันผลอย่างน้อยปีละ 2 ครั้ง เฉพาะกรณีที่กองทุนรวมมีกำไรของกองทุนรวม หรือสำรองเงินปันผลตามอัตราผลตอบแทนที่เกิดขึ้นจริงของกองทุนรวม แต่ไม่น้อยกว่าอัตราขั้นต่ำที่กำหนดไว้ 3% ต่อปี และไม่เกินอัตราขั้นสูงที่กำหนดไว้ 9% ต่อปี ซึ่งกำหนดเป็นอัตราคงที่ ตลอด 10 ปี 
 
“กองทุนรวมวายุภักษ์จะสามารถช่วยสนับสนุนตลาดหุ้นไทยได้อีกทางหนึ่ง จากเม็ดเงินลงทุนใหม่ที่จะเข้ามาลงทุนในตลาดหุ้นไทย โดยกองทุนนี้มีกำหนดระยะเวลากองทุนที่ 10 ปี วงเงินรวมราว 100,000 -150,000 ล้านบาท ซึ่งจะช่วยเพิ่มเสถียรภาพและความเชื่อมั่นให้กับตลาดได้ เนื่องจากเป็นเม็ดเงินลงทุนใหม่ เน้นการถือลงทุนในระยะยาว และมีเกณฑ์ในการคัดเลือกหุ้นที่มีปันผลที่สูง เพื่อที่จะสร้างกระแสเงินสดให้กับกองทุน รวมถึงคัดเลือกลงทุนในหุ้นที่มี คะแนนด้าน ESG Rating ในระดับสูง ด้วยปัจจัยดังกล่าว จึงมองว่าจากมูลค่าพื้นฐานของหุ้นที่ยังไม่สูงมากและการคาดการณ์กำไรในปี 2568 ที่ยังคงเติบโตอยู่ จะพอมีช่องว่างให้เป็นแรงหนุนให้เกิดความเชื่อมั่นในให้กับนักลงทุนให้มีความสนใจการลงทุนในหุ้นไทยเพิ่มมากกว่าเดิม กองทุนนี้ตอบโจทย์ สำหรับนักลงทุนที่ถือลงทุนในระยะยาว และเป็นกองทุนที่มีกลไกคุ้มครองเงินลงทุน ทำให้ผู้ลงทุนไม่ได้รับผลกระทบแม้ภาวการณ์ลงทุนมีความผันผวนก็ตามหากถือกองทุนจนครบกำหนดเวลา” นายศรชัย กล่าว