Phones





CIMBT ผนึก ‘ทรูมันนี่’ รุกตลาดหุ้นกู้ ดันยอดจองแตะ 2 พันล.

2024-10-05 17:51:22 221



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - CIMBT ผนึกกำลัง ทรูมันนี่ เปิดช่องทางใหม่ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้คุณภาพดีที่ CIMB THAI คัดสรรมาแล้วได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ผ่านแอปทรูมันนี่ จากทุกที่ ทุกเวลา ทั่วโลก โดยหลังจากเปิดตัวได้ 3 สัปดาห์ มียอดจองหุ้นกู้แตะระดับ 100 ล้านบาท มั่นใจสิ้นปี 67 ยอดจองหุ้นกู้แตะ 2,000 ล้านบาท
 
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2567 นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่ และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ธนาคารต้องการให้เกิด Digital Ecosystem ตามวิสัยทัศน์ของการเป็น "a Digital-led Bank with ASEAN Reach : ธนาคารอาเซียนขับเคลื่อนด้วยดิจิทัล" เพื่อส่งมอบบริการอันเป็นเลิศให้ลูกค้า พัฒนาธุรกิจ และ เพิ่มศักยภาพการแข่งขัน โดยนำเอาจุดแข็งด้านความเชี่ยวชาญธุรกิจ Wealth Management ของธนาคาร เดินหน้าผนึกกำลังกับพันธมิตรที่มีความเชี่ยวชาญเฉพาะด้านอย่าง บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ซึ่งเป็นผู้นำด้านการให้บริการทางการเงินแบบดิจิทัล โดยความร่วมมือครั้งนี้เป็นการใช้เทคโนโลยี เปิดช่องทางใหม่ให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงการลงทุนหุ้นกู้คุณภาพดีที่ CIMB THAI คัดสรรมาแล้วได้ 24 ชั่วโมง ตลอด 7 วัน ผ่านแอปทรูมันนี่ จากทุกที่ ทุกเวลา ทั่วโลก
 
ด้านนายธัญญพงศ์ ธรรมาวรานุคุปต์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท แอสเซนด์ มันนี่ จำกัด กล่าวว่า แอสเซนด์ มันนี่ และ ทรูมันนี่ มีพันธกิจในการมอบการเข้าถึงบริการทางการเงินและยกระดับชีวิตให้กับผู้คนผ่านการสร้างนวัตกรรมทางการเงิน โดยการจับมือกับ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย เพื่อเปิดให้ผู้ใช้สามารถซื้อ "หุ้นกู้ตลาดรอง" (Secondary Bond) ผ่านแอปทรูมันนี่ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวสำคัญในการมอบความสะดวกสบาย และ ช่วยขจัดอุปสรรคในการเข้าถึงการลงทุน
 
ทั้งนี้ เนื่องจากปกติแล้ว “หุ้นกู้ตลาดแรก” มีจำนวนไม่มาก และมีขั้นตอนในการติดต่อขอจองซื้อที่ยุ่งยาก ทำให้ไม่ใช่ทุกคนจะสามารถเข้าถึงได้ ทางทรูมันนี่ จึงร่วมกับ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ทำให้การลงทุนในหุ้นกู้เป็นเรื่องง่ายยิ่งขึ้นผ่านแพลตฟอร์ม และเทคโนโลยีของบริษัท พร้อมส่งเสริมให้นักลงทุนรายย่อยที่อาจยังไม่คุ้นเคยกับการลงทุนในหุ้นกู้ตลาดรองได้เข้ามาศึกษา และเลือกลงทุน เพราะเป็นทางเลือกที่เหมาะกับผู้ที่ต้องการกระจายการลงทุนไปยังสินทรัพย์ที่ให้ดอกเบี้ยสูงกว่าเงินฝากประจำ โดยหุ้นกู้ตลาดรองสามารถสร้างผลตอบแทนสูงถึง 5% ต่อปี และในครั้งนี้ ทรูมันนี่ จับมือกับธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย ที่มีความเชี่ยวชาญเรื่องของหุ้นกู้ตลาดรอง มีหุ้นกู้ตลาดรองให้เลือกหลากหลาย อัปเดตใหม่ทุกสัปดาห์ และซื้อได้ทุกวันผ่านแอปทรูมันนี่
 
 “หลังจากที่เราได้ร่วมมือกับซีไอเอ็มบี ไทย และเปิดตัวมาได้ 3 สัปดาห์ พบว่ามียอดจองหุ้นกู้เข้ามาถึงระดับ 100 ล้านบาท และคาดว่าสิ้นปีนี้จะมียอดจองหุ้นกู้แตะระดับทำ 2,000 ล้านบาท โดยนักลงทุนสามารถเริ่มต้นลงทุนขั้นต่ำที่ 100,000 บาท แต่ภายในช่วงต้นปีหน้าเราจะลดเงินลงทุนขั้นต่ำลงมาอยู่ที่ 10,000 หรือ 1,000 บาทก็ได้ เพื่อเปิดโอกาสให้นักลงทุนสามารถเข้าถึงหุ้นกู้ได้เพิ่มมากขึ้น” นายธัญญพงศ์ กล่าว
 
นายเพา จาตกานนท์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า การบริหารเงินเพื่อสร้างความมั่งคั่งให้ลูกค้า คือ เป้าหมายสำคัญของธนาคาร โดยธนาคารมุ่งมั่นผลักดันให้ "ตราสารหนี้ตลาดรอง (Secondary Bond)" เติบโตขึ้น สร้างสภาพคล่องให้สามารถซื้อ - ขายเปลี่ยนมือได้ตลอด เพื่อตอบโจทย์ของนักลงทุนทุกกลุ่ม ทั้งสถาบัน นิติบุคคล รวมถึงนักลงทุนรายย่อย
 
อย่างไรก็ตาม การร่วมมือครั้งนี้กับ ทรูมันนี่ สอดรับกับกลยุทธ์ของธนาคาร ผ่านการนำเสนอผลิตภัณฑ์ "ตราสารหนี้ตลาดรอง (Secondary Bond)" ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์ที่ธนาคารเป็นผู้นำตลาดในปัจจุบัน สะท้อนจากรางวัลใหญ่ "Best Bond Dealer : ธนาคารที่เป็นที่ยอมรับในความสามารถในการให้บริการกับคู่ค้าในตลาดรองที่ยอดเยี่ยม" และ รางวัล "Most Active Bank in Corporate Bond Secondary Market : ธนาคารที่มีมูลค่าซื้อ - ขายหุ้นกู้เอกชนตลาดรองสูงที่สุด" จาก ThaiBMA ติดต่อกัน 5 ปีซ้อน (2019-2023)
 
ขณะที่นายภูดินันท์ เศรษฐนันท์ ผู้บริหารพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน ธุรกิจผลิตภัณฑ์การเงินและที่ปรึกษา Equity Derivatives และ ผู้บริหารการขายลูกค้าบุคคลธนกิจ ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย กล่าวว่า ตลาดตราสารหนี้ปัจจุบันมีมูลค่าการซื้อ - ขาย อยู่ที่ 5,921,913 ล้านบาท  ซึ่งแม้ว่า จะมีลูกค้าบุคคลเข้ามาเป็นผู้เล่นในตลาดรองเพิ่มขึ้น และมีมูลค่าซื้อขายมีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ จนแตะระดับ 37,089 ล้านบาท ในปัจจุบัน แต่ก็คิดเป็นสัดส่วนไม่ถึง 1% เมื่อเทียบกับมูลค่าการซื้อ - ขายทั้งตลาด ในส่วนของตลาดหุ้นกลับพบว่า ลูกค้าบุคคลมีสัดส่วนสูงถึง 30% จึงเป็นโอกาสและ ธนาคารเองในฐานะผู้นำ รวมถึงเป็นผู้บุกเบิกตราสารหนี้ตลาดรองของลูกค้าบุคคล ธนาคารมุ่งมั่นผลักดันให้ลูกค้าบุคคลเข้าถึงโอกาสของการลงทุนในตราสารหนี้ตลาดรอง เพื่อเข้ามาเป็นผู้เล่นสำคัญที่ทำให้ตลาดตราสารหนี้นี้เติบโตได้อย่างก้าวกระโดด และ มีสภาพคล่องทัดเทียมตลาดหุ้น เพื่อให้เป็นอีกแหล่งระดมทุนที่สำคัญของประเทศ
 
สำหรับการร่วมมือกับ บริษัท ทรูมันนี่ จำกัด ที่มีบริการหลากหลายครอบคลุมไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตของลูกค้าในครั้งนี้ คือ หนึ่งในกลยุทธ์สำคัญ ที่ทำให้ธนาคารเข้าถึงลูกค้าได้ในวงกว้าง ในขณะเดียวกันก็สามารถพาลูกค้าผู้ใช้งานทรูมันนี่เข้าถึงการลงทุนตราสารหนี้ โดยเฉพาะในช่วงเวลานี้หลังเฟดลดดอกเบี้ย ซึ่งเปิดโอกาสให้ธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) ปรับลดดอกเบี้ยลงเช่นกัน จึงเป็นจังหวะของการลงทุนพันธบัตร และ หุ้นกู้คุณภาพดีเข้าพอร์ต เพื่อล็อคผลตอบแทน สร้าง passive income โดยนักออมเงิน หรือ นักลงทุนที่สนใจสามารถลงทุนหุ้นกู้ตลาดรองได้ทั้งแอปพลิเคชันทรูมันนี่และ แอปพลิเคชั่น CIMB THAI
 
นอกจากนี้ CIMB THAI ยังเตรียมจัดกิจกรรมดี ๆ ร่วมกับพันธมิตร ที่จะให้ความรู้กับนักลงทุน พร้อมกับการสร้างความสุข และ สนุกสนาน เพื่อขยายฐานลูกค้าใหม่ และ ส่งเสริมการสร้างความมั่งคั่งผ่านผลิตภัณฑ์หุ้นกู้คุณภาพดี  ในส่วนของหุ้นกู้ตลาดรองของลูกค้ารายย่อยของธนาคารปีนี้ตั้งเป้าที่ 20,000 ล้านบาท โดย 9 เดือนทำไปได้แล้ว 15,000 ล้านบาท ซึ่งคาดว่า ปีนี้จะทำได้ตามเป้าหมายที่วางไว้ แม้ว่าในปีนี้จะเห็นการชะลอการออกหุ้นกู้ของบริษัทในตลาดไปบ้าง เนื่องจากทิศทางดอกเบี้ยอยู่ในช่วงขาลง และ นักลงทุนกังวลถึงการผิดนัดชำระหุ้นกู้ของบริษัท ส่งผลให้เห็นว่า ที่ผ่านมามีนักลงทุนหันไปสนใจลงทุนในตลาดพันธบัตรรัฐบาลมากขึ้น โดยอายุพันธบัตรรัฐบาล 48 ปี ให้ผลตอบแทน 3% ในขณะที่พันธบัตรเอกชนที่ได้เรตติ้ง BBB+ ให้ผลตอบแทน 2-4%