Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
DRT รุกลาดอาเซียน จ่อเดินเครื่องโรงงานอิฐมวลเบาแห่งใหม่
MAI
FVC ธุรกิจ Q2 สดใส มั่นใจรายได้รายได้ปีนี้แตะ 1.3 พันล.
IPO
SKIN ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง จ่อขาย IPO 44 ล้านหุ้น
บล./บลจ
KuCoin Thailand เปิดแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบสู่สาธารณะ
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
กสิกรไทย ชี้ศก.ไทยครึ่งปีหลังถดถอย ส่องจีดีพีขยายตัว 1.4%
การค้า - พาณิชย์
พาณิชย์จับมือ 4 ปั๊มน้ำมัน ซื้อมะม่วงแฟนซีภาคเหนือแจกผู้เติมน้ำมัน
พลังงาน - อุตสาหกรรม
ก.ล.ต. อนุมัติไฟลิ่งหุ้นกู้ WEH ชูดอกเบี้ย 7.15% ต่อปี
คมนาคม - โลจิสติกส์
"สุริยะ" สั่งเดินหน้านโยบายเปิดเส้นทางบินตรงสหรัฐฯ
แบงก์ - นอนแบงก์
KBANK จับมือ ONNEX หนุนสินเชื่อพิเศษติดโซลาร์รูฟ
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
SAWAD เฮ! ดีเอสไอ - อัยการสั่ง “ไม่ฟ้อง”
SMEs - Startup
Orbix จับมือ Bluebik พลิกโฉมอุตสาหกรรมการเงิน - เทคโนโลยี
ประกันภัย - ประกันชีวิต
OCEAN LIFE เปิดตัว “กรมธรรม์คู่ชีวิต” รับ PRIDE MONTH
รถยนต์
Autoclik Fast Fit จัดโปรฯ แรงแห่ง Pride Month
ท่องเที่ยว
TAGTHAi ชวนคนไทยสัมผัสเสน่ห์ท้องถิ่นสมุทรสงครามแบบ Unseen
อสังหาริมทรัพย์
PROUD อวดโฉม “เวหา หัวหิน” สร้างเสร็จ 100%
การตลาด
คาร์ดเอกซ์ เสิร์ฟโปรแรง “Mid-Year Sale” มอบเครดิตเงินคืนสูงสุด 30%
CSR
Orbix จับมือ Bluebik พลิกโฉมอุตสาหกรรมการเงิน - เทคโนโลยี
Information
ซินเน็คฯ จัดงานประชุมนักวิเคราะห์
Gossip
TCL เปิดตัวสมาร์ททีวีสุดล้ำ ลุ้นบินลัดฟ้าเชียร์ "ปืนใหญ่"
Entertainment
WICE มุ่งมั่นสู่ความยั่งยืน พลังเล็กๆ ที่เปลี่ยนโลกได้
สกุ๊ป พิเศษ
CHAYO ปักธงปี 68 ดันรายได้โต 20%
KBank Private Banking ชี้ผลการเลือกตั้งสหรัฐฯสร้างจุดเปลี่ยนศก. - การลงทุน
2024-10-27 23:27:34
170
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - KBank Private Banking ร่วมกับ Lombard Odier และ JPMAM จัดงานสัมมนาในหัวข้อ Countdown To The Us Elections: Market Moves And Investment Strategies วิเคราะห์สถานการณ์โค้งสุดท้ายการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ คาดส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงนโยบาย กระทบเศรษฐกิจ ธุรกิจ และการลงทุน
เมื่อวันที่ 27 ตุลาคม 2567 นางสาวศิริพร สุวรรณการ Senior Managing Director, Financial Advisory Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ด้วยอิทธิพลทางเศรษฐกิจของสหรัฐฯ ที่เป็นเศรษฐกิจที่ใหญ่ที่สุดในโลก ดังนั้นการเลือกตั้งผู้นำคนใหม่และการเปลี่ยนแปลงด้านนโยบายจากรัฐบาลใหม่ ไม่ว่าโดนัลด์ ทรัมป์ หรือ กมลา แฮร์ริส จะชนะ หรือพรรคใดจะครองเสียงข้างมากในรัฐบาล ย่อมจะส่งผลกระทบต่อทั้งเศรษฐกิจของสหรัฐฯ เอง รวมถึงทั่วโลก
ทั้งนี้ จากผลสำรวจของหลายๆ สำนักพบว่า เมื่อวันเลือกตั้งใกล้เข้ามาปัจจัยสำคัญที่มีผลในการตัดสินใจเลือกของชาวอเมริกันคือเรื่องเศรษฐกิจ ที่ถึงแม้ว่าเศรษฐกิจจะทะยอยฟื้นตัว หุ้นสหรัฐฯ เองก็มีผลงานที่ดี แต่ผลกระทบจากเงินเฟ้อและดอกเบี้ยสูงได้ทำลายความเชื่อมั่นของคนอเมริกันไปมาก จึงทำให้ปัจจัยด้านเศรษฐกิจเป็นปัจจัยที่ได้รับคะแนนโหวตสูงสุดนับแต่การสำรวจหลังวิกฤตเศรษฐกิจในปี 2551
สำหรับคำแนะนำการลงทุนที่ KBank Private Banking แนะนำคือให้ลงทุนในกองทุนผสม อย่าง กองทุน K-ALL ROADS Series และกองทุน K-WEALTH PLUS Series เป็นสัดส่วนใหญ่ที่สุดของพอร์ต เพื่อกระจายความเสี่ยง ซึ่งสามารถลงทุนได้ในระยะยาว และไม่ต้องกังวลต่อสถานการณ์เรื่องผลการเลือกตั้งที่ยากต่อการคาดเดา นอกจากนี้ สำหรับนักลงทุนที่ต้องลงทุนปรับพอร์ตหลังการเลือกตั้ง ทาง KBank Private Banking ได้ให้คำแนะนำเพิ่มเติม เช่น ตัวเลือกกองทุนที่จะได้อานิสงค์จากชัยชนะของโดนัลด์ ทรัมป์ เช่น กองทุน TUSFIN ที่ลงทุนในหุ้นกลุ่มการเงินของสหรัฐฯ ที่จะได้ประโยชน์จากการผ่อนคลายกฎเกณฑ์ทางการเงิน และกองทุน K-USA ที่ลงทุนในหุ้นสหรัฐฯที่มีคุณภาพสูง ที่จะได้ประโยชน์หากโดนัลด์ ทรัมป์เดินหน้านโยบายการลดภาษีนิติบุคคล
ในส่วนของตัวเลือกกองทุนที่จะได้อานิสงค์จากชัยชนะของกมลา แฮร์ริส เช่น กองทุน MRENEW / K-PLANET ซึ่งลงทุนในกลุ่มพลังงานสะอาดทั่วโลก เพราะจะได้ประโยชน์จากนโยบายชูโรงของพรรคเดโมแครต และกองทุน K-APB / KFHASIA หรือสินทรัพย์ทั้งตราสารหนี้ และตลาดหุ้นในเอเชีย ซึ่งจะได้อานิสงค์จากความรุนแรงด้านนโยบายกีดกันการค้าของโดนัลด์ ทรัมป์ ที่เบาบางลง รวมถึงแนวโน้มการลดดอกเบี้ยของ Fed ที่เป็นไปตามแผนจะทำให้ดอลล่าร์สหรัฐอ่อนค่าลง สวนทางกับสกุลเงินประเทศเอเชียอื่นๆ ที่แข็งค่าขึ้น หมายถึง เงินทุนที่จะไหลเข้ามาในเอเชียหนุนสินทรัพย์เอเชียขึ้นต่อจากนี้
ด้านนายจอห์น วู้ด Chief Investment Officer and Head of Investment Solutions Asia Lombard Odier Group กล่าวว่า มีโอกาสสูงถึง 35% ที่ โดนัลด์ ทรัมป์จะได้เป็นประธานาธิบดีและพรรครีพับริกันจะได้ครองเสียงข้างมาก ทั้ง 2 สภา ส่งผลให้นโยบาย “American First” จะถูกนำกลับมาเป็นนโยบายหลัก ซึ่งจะส่งผลกระทบและสร้างความเปลี่ยนแปลงอย่างใหญ่หลวง เช่น ในด้านการค้าระหว่างประเทศโดยเฉพาะเรื่องภาษีนำเข้า และความเข้มงวดเรื่องนโยบายคนต่างชาติเข้าเมือง ซึ่งโดยรวมอาจทำให้เศรษฐกิจสหรัฐฯ ต้องเผชิญกับการเกิดปัญหาเงินเฟ้อที่สูงขึ้น
ดังนั้น สิ่งที่ต้องจับตาต่อไปคือทิศทางการลดดอกเบี้ยของธนาคารสหรัฐฯ หรือ Fed ซึ่งอาจจะชะลอลง ในทางกลับกัน ก็มีโอกาสถึง 30% ที่กมลา แฮร์ริส จะชนะการเลือกตั้ง แต่คาดว่าพรรคเดโมแครตจะไม่ได้ครองเสียงข้างมากทั้งสภาบน และสภาล่าง โดยนโยบายส่วนใหญ่จะต่อเนื่องจากปัจจุบันตามนโยบายของประธานาธิบดี โจ ไบเดน ทั้งด้านพลังงาน แรงงานต่างชาติ และการต่างประเทศ โดยภายใต้การนำของกมลา แฮร์ริส คาดว่าเศรษฐกิจจะยังคงชะลอตัวแบบ Soft landing เงินเฟ้อทยอยลดลงสู่เป้าหมาย และการลดดอกเบี้ยของ Fed จะเป็นไปตามแผน
ขณะที่นายแคร์รี่ เคร็ก Executive Director and Global Market Strategist J.P. Morgan Asset Management กล่าวว่า ผลการเลือกตั้งไม่ว่าผู้สมัครจากรีพับริกันหรือเดโมแครตจะชนะการเลือกตั้งและได้เป็นผู้นำคนใหม่ แต่ทั้ง 2 พรรคจะไม่ได้ครองเสียงข้างมากอย่างเด็ดขาด ทำให้เกิดสภาแบบผสม มองว่าการที่ใครจะได้เป็นประธานธิบดีก็สำคัญในระดับหนึ่ง แต่คะแนนเสียงของสภาก็มีความสำคัญในการผ่านกฎหมายเช่นกัน นอกจากนี้ยังมองว่านโยบายที่หาเสียงไว้ อาจจะไม่สามารถนำมาเป็นนโยบายได้จริง หรือมีการเปลี่ยนแปลงรายละเอียด ทำให้การคาดเดาผลกระทบที่จะเกิดขึ้นล่วงหน้าทำได้ยากลำบาก สำหรับผลกระทบต่อสินทรัพย์ต่างๆ ไม่ว่า โดนัลด์ ทรัมป์ หรือ กมลา แฮร์ริส เป็นฝ่ายชนะ เศรษฐกิจและตลาดหุ้นสหรัฐฯ ก็น่าจะยังเติบโตได้อย่างต่อเนื่อง เพียงแต่ว่าจะมีบางกลุ่มอุตสาหกรรมที่จะเป็นผู้ชนะและผู้แพ้ภายใต้ผู้นำและนโยบายใหม่ที่แตกต่างกันออกไป
ดังนั้น การจัดพอร์ตการลงทุนควรจะให้ความสำคัญกับความสมดุล (Being Balance) โดยการลงทุนแบบกระจายความเสี่ยงในหลายๆ สินทรัพย์ผ่านกองทุนผสม (Balanced Fund) เพื่อสร้างความยืดหยุ่นให้กับพอร์ตโดยรวม ซึ่งในด้านของสัดส่วนของแต่ละสินทรัพย์ นักลงทุนต้องถามตัวเองว่ารับความเสี่ยงได้มากน้อยแค่ไหน และรอดูสถานการณ์หลังการเลือกตั้ง เพื่อปรับพอร์ตการลงทุนต่อไป
DRT รุกลาดอาเซียน จ่อเดินเครื่องโรงงานอิฐมวลเบาแห่งใหม่
TIDLOR คุม NPL อยู่หมัด ต่ำ 1.78% - PROUD “เวหา หัวหิน” สร้างเสร็จ 100% มั่นใจสิ้นปีนี้ "ปิดการขาย"
TIDLOR คุม NPL อยู่หมัด ปิดไตรมาส 1/68 อยู่ที่ 1.78%
TSR รุกตลาดสุขภาพ เปิดตัว “ตู้น้ำด่าง RO SAFE”
MENA ขยายฟลีทขนส่งสินค้า รายได้นิวไฮโตเกิน 10% - KBANK ชี้ศก.ไทยครึ่งปีหลังถดถอย ส่องจีดีพีปีนี้ขยายตัว 1.4%
PCE สุดปลื้ม! ติดทำเนียบ EGS100 ปีแรก