Phones





BPP วางเป้ากำลังผลิต 1,500 MW จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติ

2025-01-27 09:40:05 137



นิวส์ คอนเน็คท์ - BPP กางพอร์ตธุรกิจปี 2025 ลุยโตต่างประเทศต่อเนื่อง ทั้งในสหรัฐฯ จีน และอินโดนีเซีย ตั้งเป้าเพิ่มกำลังผลิต 1,500 เมกะวัตต์จากธุรกิจก๊าซธรรมชาติภายในปี 2030 

เมื่อวันที่ 27 มกราคม 2568 นายอิศรา นิโรภาส ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บ้านปู เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BPP เปิดเผยว่า ด้วยการสนับสนุนจากราคาพลังงานและความต้องการใช้พลังงานในสหรัฐฯ ที่จะเพิ่มขึ้นจากการพัฒนาของ AI และศูนย์ข้อมูล (Data Center) โดยคาดว่าราคาซื้อขายไฟล่วงหน้าในตลาด ERCOT สำหรับปี 2568 เพิ่มขึ้นเกือบ 2 เท่าจากปี 2567 อีกทั้ง บริษัทฯ จะมีกระแสเงินสดจากการป้องกันความเสี่ยง (Hedging) เพิ่มขึ้นกว่า 40% จากปี 2567 รวมถึงการเติบโตของกำไรของโรงไฟฟ้าในจีนจากต้นทุนถ่านหินที่คาดการณ์ว่าจะลดลง และรายได้จาก Carbon Emission Allowance 

ดังนั้น แม้จะมีความเปลี่ยนแปลงทางด้านเศรษฐกิจ หรือนโยบายพลังงานภายในประเทศที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต บริษัทฯ เชื่อมั่นว่าผลการดำเนินงานของบริษัทฯ จะเติบโตอย่างมั่นคงและยั่งยืนจากการที่บริษัทมีฐานการดำเนินงานในหลากหลายประเทศ ประกอบกับความต้องการใช้ไฟฟ้าที่ยังเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง เสริมสถานะการเงินที่แข็งแกร่งพร้อมรองรับการขยายการลงทุนต่อไปในอนาคต และสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหุ้น โดยมีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลราว 4-6% ต่อปี ขณะที่กำไรก่อนหักดอกเบี้ย ภาษี ค่าเสื่อมราคา และค่าตัดจำหน่าย (EBITDA) ยังเติบโตต่อเนื่อง โดยเฉลี่ยมากกว่า 20% ต่อปี

ทั้งนี้ BPP เป็นผู้ผลิตพลังงานไฟฟ้าคุณภาพระดับสากล มุ่งมั่นนำความเชี่ยวชาญและประสบการณ์เกือบ 30 ปี สร้างการเติบโตในธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าอย่างต่อเนื่องและยั่งยืนในภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก 8 ประเทศ ได้แก่ ไทย สปป.ลาว จีน ญี่ปุ่น เวียดนาม อินโดนีเซีย ออสเตรเลีย และสหรัฐอเมริกา ซึ่งกว่า 80% ของกำลังการผลิตไฟฟ้า เป็นการจำหน่ายไฟฟ้าในต่างประเทศเป็นหลัก 
ปัจจุบัน BPP มุ่งสร้างสมดุลของพอร์ตธุรกิจทั้งพลังงานความร้อน (Thermal Energy) และพลังงานหมุนเวียน (Renewable Energy) ในประเทศยุทธศาสตร์อย่างต่อเนื่อง โดยมีโรงไฟฟ้าและโครงการโรงไฟฟ้าทั้งหมด 40 แห่ง กำลังผลิตทั้งหมด 3.6 กิกะวัตต์ตามสัดส่วนการลงทุน และตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้า 1,500 เมกะวัตต์ จากโครงการก๊าซธรรมชาติภายในปี 2030 โดยเน้นประเทศยุทธศาสตร์ เช่น สหรัฐฯ จีน และอินโดนีเซีย 

สำหรับโรงไฟฟ้าที่จำหน่ายไฟในประเทศไทย มีโรงไฟฟ้า 2 แห่ง ที่มีสัญญาซื้อขายระยะยาว PPA จ่ายไฟให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) คือ โรงไฟฟ้า บีแอลซีพี จังหวัดระยอง และโรงไฟฟ้าเอชพีซี ใน สปป. ลาว ที่เป็นกำลังการผลิตกระแสไฟฟ้าสำคัญของไทย บริษัทฯ มีความภูมิใจ ที่ 2 โรงไฟฟ้านี้ถือเป็นต้นแบบโรงไฟฟ้าที่มีการบริหารได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความน่าเชื่อถือสูง (High reliability) และดำเนินการผลิตไฟฟ้าได้เต็มกำลังการผลิตตามคำสั่งของกฟผ. (Base load power plant with full capacity dispatch) ซึ่งมีส่วนสำคัญอย่างมากในการบริหารต้นทุนการผลิตโดยรวมของประเทศ (Cost effectiveness)

“เชื่อว่า ธุรกิจพลังงานจะยังคงมีเสถียรภาพค่อนข้างมาก เนื่องจากไฟฟ้าเป็นปัจจัยพื้นฐานที่คนจำเป็นต้องใช้ รวมไปถึงเทรนด์พลังงานในอนาคตจะยิ่งเสริมให้ความต้องไฟฟ้าเพิ่มมากขึ้น ทำให้ความสามารถในการทำกำไรในอนาคตของ BPP จะยังคงมีความยืดหยุ่นไม่ว่าจะอยู่ในสถานการณ์ใด โดยบริษัทฯ จะมุ่งเน้นการสร้างการเติบโตควบคู่ไปกับความยั่งยืน (Balancing Growth and Sustainability) ทั้งยังให้ความสำคัญกับการสร้างผลตอบแทนที่ดีสม่ำเสมอในระยะยาวให้แก่ผู้ถือหุ้นและนักลงทุน” นายอิศรากล่าว