Phones





ยูโอบีประกาศกำไรสุทธิปี 67 สูงสุดเป็นประวัติการณ์

2025-02-25 19:12:00 94



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - ยูโอบีประกาศผลกำไรสุทธิปี 67 เพิ่มขึ้น 6% สูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 6 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ ด้านที่ประชุมบอร์ดเสนอจ่ายเงินปันผลที่ 92 เซนต์ต่อหุ้นสามัญ ส่งผลให้เงินปันผลรวมปี 67 อยู่ที่ 1.80 เหรียญสิงคโปร์ต่อหุ้นสามัญ คิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ประมาณ 50%
 
เมื่อวันที่ 25 กุมภาพันธ์ 2568 นายวี อี เชียง รองประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารยูโอบี เปิดเผยว่า ผลประกอบการปี 2567 ธนาคารสามารถทำกำไรสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ที่ 6 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ เพิ่มขึ้น 6% จากปีก่อน โดยได้รับแรงหนุนจากรายได้จากค่าธรรมเนียมสุทธิและรายได้จากการค้าและการลงทุนที่แข็งแกร่ง รายได้จากดอกเบี้ยรับสุทธิยังคงทรงตัวที่ 9.7 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ โดยการเติบโตของสินเชื่อที่แข็งแกร่งที่ระดับ 5% ช่วยชดเชยผลกระทบจากความผันผวนของอัตราดอกเบี้ยที่มีต่อส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยสุทธิของธนาคาร รายได้จากค่าธรรมเนียมสุทธิเพิ่มขึ้น 7% อยู่ที่ 2.4 พันล้านเหรียญสิงคโปร์ ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากการเติบโตของค่าธรรมเนียมการบริหารจัดการความมั่งคั่งที่เป็นตัวเลขสองหลัก ค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตที่แข็งแกร่งขึ้น และค่าธรรมเนียมที่เกี่ยวกับสินเชื่อที่เพิ่มขึ้น คุณภาพสินทรัพย์ยังคงมั่นคง โดยมีอัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPL) อยู่ที่ 1.5%
 
ทั้งนี้ ผลดำเนินการโดยรวมของกลุ่มลูกค้าองค์กรยังคงมีโมเมนตัมที่แข็งแกร่ง โดยสินเชื่อเพื่อการค้าเพิ่มขึ้น 20% เมื่อเทียบกับปีก่อน ธุรกิจธุรกรรมทางการเงินของธนาคารเติบโตอย่างต่อเนื่อง ซึ่งในปัจจุบันคิดเป็นมากกว่าครึ่งหนึ่งของรายได้จากกลุ่มลูกค้าลูกค้าองค์กร นอกจากนี้ รายได้จากการทำธุรกรรมข้ามพรมแดนก็ปรับตัวเพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยคิดเป็นมากกว่าหนึ่งในสี่ของรายได้จากกลุ่มลูกค้าองค์กร
 
ขณะที่กลุ่มลูกค้ารายย่อยยังคงมีผลการดำเนินงานที่ดีในปี 2567 รายได้จากค่าธรรมเนียมบัตรเครดิตยังคงแข็งแกร่งและเติบโตที่อัตรา 18% เมื่อเทียบกับปีก่อน โดยได้รับการสนับสนุนจากการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ยังคงเติบโตและแฟรนไชส์ในภูมิภาคที่ขยายตัวเพิ่มขึ้น รายได้จากการบริหารจัดการความมั่งคั่งเพิ่มขึ้น 30% ซึ่งได้รับการสนับสนุนจากความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่ดีขึ้น กลุ่มธนาคารยูโอบียังคงเห็นการไหลเข้าของเงินใหม่สุทธิที่แข็งแกร่ง ทำให้มูลค่าสินทรัพย์ภายใต้การบริหารจัดการของลูกค้าผู้มีมูลค่าสินทรัพย์สูงเพิ่มขึ้นเป็น 1.9 แสนล้านเหรียญสิงคโปร์ เติบโต 8% เมื่อเทียบกับปีก่อน นอกจากนี้ ในปี 2567 ธนาคารมีลูกค้ารายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 850,000 ราย โดยประมาณครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้าที่ได้มาผ่านช่องทางดิจิทัล ณ สิ้นปี 2567 ฐานลูกค้ารายย่อยของธนาคารทั่วภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีจำนวนเกือบ 8.4 ล้านราย
 
นอกจากนี้ กลุ่มธนาคารยูโอบียังคงเดินหน้าขับเคลื่อนวาระด้านความยั่งยืนในปี 2567 โดยในเดือนพ.ย. 2567 ธนาคารได้ออกรายงานความคืบหน้าฉบับที่สองเกี่ยวกับคำมั่นในการบรรลุเป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ และทุกภาคอุตสาหกรรมสำคัญมีความคืบหน้าอย่างดี โดยเฉพาะในภาคพลังงาน ณ สิ้นเดือนธ.ค. 2567 พอร์ตสินเชื่อด้านความยั่งยืนของกลุ่มธนาคารเพิ่มขึ้น 43% อยู่ที่ 5.8 หมื่นล้านเหรียญสิงคโปร์ เรายังคงมุ่งมั่นที่จะสนับสนุนลูกค้าในเส้นทางสู่ความเป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม
 
ทั้งนี้ จากการเติบโตของผลประกอบการในปี 2567 คณะกรรมการธนาคารจึงได้เสนอจ่ายเงินปันผลที่ 92 เซนต์ต่อหุ้นสามัญ ซึ่งเมื่อรวมกับเงินปันผลระหว่างกาลที่ 88 เซนต์ต่อหุ้นสามัญ เงินปันผลรวมสำหรับปี 2567 จะเป็น 1.80 เหรียญสิงคโปร์ต่อหุ้นสามัญ หรือคิดเป็นอัตราการจ่ายเงินปันผลที่ประมาณ 50%
 
นอกจากนี้ ภายใต้กลยุทธ์การกระจายทุนของธนาคาร คณะกรรมการจึงได้ประกาศแผนมูลค่า 3 พันล้านเหรียญสิงคโปร์เพื่อคืนทุนส่วนเกินในระยะเวลาสามปีข้างหน้า แผนดังกล่าวประกอบด้วยเงินปันผลพิเศษและการซื้อหุ้นคืน โดยในปี 2568 ธนาคารจะเสนอจ่ายเงินปันผลพิเศษ 50 เซนต์ต่อหุ้นสามัญ หรือคิดเป็นทุนส่วนเกินมูลค่า 800 ล้านเหรียญสิงคโปร์ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของการเฉลิมฉลองวาระครบรอบ 90 ปีของธนาคาร นอกจากนี้ ธนาคารยังได้เปิดตัวโครงการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 2 พันล้านเหรียญสิงคโปร์