Phones





PTG เดินเกมรุก ‘Non-Oil’ ผถห.เคาะจ่ายปันผล 0.25 บ.

2025-04-28 11:40:25 90



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - PTG ที่ประชุมผู้ถือหุ้นอนุมัติจ่ายเงินปันผลงวดปี 67 เพิ่มอีก 0.25 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายเงินปันผล 16 พ.ค.นี้ พร้อมมองธุรกิจปี 68 สดใส รับอานิสงส์จากธุรกิจ Non-Oil เติบโตโดดเด่น ยกกาแฟพันธุ์ไทยเป็นเรือธงธุรกิจ เล็งแผนขยายสาขา หนุนสิ้นปีนี้มีจำนวนสาขากว่า 2,000 สาขา ขณะที่ตั้งเป้ายอดขายน้ำมันเติบโต 5-10 %
 
เมื่อวันที่ 28 เมษายน 2568 นายพิทักษ์ รัชกิจประการ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท พีทีจี เอ็นเนอยี จำกัด (มหาชน) หรือ PTG เปิดเผยว่า ที่ประชุมสามัญผู้ถือหุ้นประจำปี 2568 มีมติอนุมัติจ่ายเงินปันผลเป็นเงินสดสำหรับงวดปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.25 บาท โดยบริษัทได้ดำเนินการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาลให้แก่ผู้ถือหุ้นไปแล้วเมื่อวันที่ 12 ธ.ค. 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.10 บาท รวมจ่ายเงินปันผลให้กับผู้ถือหุ้นสำหรับงวดปี 2567 ในอัตราหุ้นละ 0.35 บาท รวมเป็นเงินปันผลทั้งสิ้น 584,500,000 บาท ซึ่งกำหนดวันจ่ายเงินปันผล ในวันที่ 16 พ.ค. 2568
 
“การจ่ายเงินปันผลในครั้งนี้ถือเป็นการจ่ายที่สอดคล้องกับผลการดำเนินงานของบริษัทที่ยังเติบโตได้อย่างสม่ำเสมอ ซึ่งต้องขอขอบคุณผู้ถือหุ้นที่เชื่อมั่นและไว้วางใจในผู้บริหาร ธุรกิจ และผลประกอบการที่เติบโตอย่างมีศักยภาพ โดยบริษัทยังคงเดินหน้าในการเสริมสร้างระบบนิเวศทางธุรกิจเพื่อสร้างการเติบโตและสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับองค์กร เพื่อเป้าหมายให้ลูกค้าสามารถเข้าถึงสิทธิประโยชน์ได้อย่างครอบคลุม และสามารถใช้ชีวิตภายใต้ระบบนิเวศของบริษัทได้อย่าง อยู่ดี มีสุข ซึ่งในส่วนของผู้ถือหุ้นอยากให้เติบโตไปพร้อมกัน รวมทั้งขอให้เชื่อมั่นในทีมผู้บริหารว่าจะทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ เพื่อนำพาบริษัทก้าวต่อไปข้างหน้าได้อย่างมั่นคงและแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น” นายพิทักษ์ กล่าว
 
สำหรับทิศทางธุรกิจของกลุ่มบริษัทในปี 2568 จะยังคงเน้นการขยายเครือข่ายธุรกิจในทุกมิติ พร้อมพัฒนาระบบนิเวศ (Ecosystem) ที่ตอบสนองต่อพฤติกรรมของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป ซึ่งตั้งเป้าหมายการเติบโตของปริมาณการจำหน่ายน้ำมันธุรกิจ Oil ไว้ที่ 5-10% จากปีก่อน เนื่องจากได้รับแรงหนุนจากการขยายเครือข่ายสถานีบริการ PT อย่างต่อเนื่องควบคู่กับการ Renovate สถานีบริการและพัฒนาสิ่งอำนวยความสะดวกให้ครบวงจรและทันสมัย รองรับระบบบดิจิทัล เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงการเติบโตของฐานสมาชิก PT Max Card และ PT Max Card Plus ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนกว่า 25 ล้านคน โดยตั้งเป้าหมายเพิ่มจำนวนสถานีบริการให้ครบ 2,279 สาขา ภายในสิ้นปีนี้
 
นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับอานิสงส์จากธุรกิจ Non-Oil โดยเฉพาะกาแฟพันธุ์ไทยที่ยังคงเป็นตัวขับเคลื่อนหลักของธุรกิจจากการขยายสาขาอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งคาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะมีอยู่กว่า 2,000 สาขา โดยยังคงพัฒนาแคมเปญส่งเสริมการขายรวมถึงเมนูใหม่ๆ เพื่อกระตุ้นการใช้บริการซ้ำ รวมทั้งยังได้รับแรงสนับสนุนจากการเติบโตของยอดขายจากสาขาเดิมที่ขยายตัวต่อเนื่องจากความต้องการของลูกค้าสมาชิกและบุคคลทั่วไปที่เพิ่มขึ้น และบริษัทยังเดินหน้าขยาย Autobacs, Max Mart และ Subway ซึ่งเป็น Touchpoints สำคัญที่ช่วยเสริมระบบนิเวศทางธุรกิจให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น โดยตั้งเป้าการเติบโตของรายได้ (ไม่รวม LPG) ธุรกิจ Non-Oil ไว้ที่ 40-50% จากปีก่อน