Phones





BKA เทรด mai 22 เม.ย.นี้ ประกาศ Lock up หุ้น 87%

2025-04-21 14:02:17 33



นิวส์ คอนเน็คท์ - BKA ลงสนามเทรดตลาดหลักทรัพย์ mai วันแรก 22 เม.ย. 68 ระดมทุนขยายพอร์ตธุรกิจให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย พร้อมเปิดแพลตฟอร์ม “Prop Tech” Virtual Reality มิติใหม่ในการเลือกซื้อบ้านเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ ด้านผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัท ประกาศ Lock up หุ้น 87% สร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับนักลงทุน  
 
เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2568 นายพชร ธนวงศ์เกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บางกอก แอสเซท อินเตอร์กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BKA เปิดเผยว่า บริษัทพร้อมนำหุ้นเข้าซื้อขายวันแรกในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก ในวันที่ 22 เม.ย.2568 ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง ภายใต้ชื่อหลักทรัพย์ว่า “BKA” โดยบริษัทเชื่อมั่นว่า จะได้รับการตอบรับที่ดีจากนักลงทุน เนื่องจากพื้นฐานทางธุรกิจของ BKA เป็นผู้นำธุรกิจบริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ ที่มุ่งให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย ในรูปแบบธุรกิจบ้านแต่ง (Flipping) ธุรกิจนายหน้าซื้อ-ขาย อสังหาริมทรัพย์ (ธุรกิจบ้านฝาก) และธุรกิจซื้อบ้านมือสองมาปรับปรุงเพื่อขาย (ธุรกิจบ้านตัด) ที่ได้การยอมรับจากกลุ่มลูกค้าอย่างต่อเนื่อง จนทำให้ก้าวสู่ “การเป็นที่หนึ่งเรื่องบ้านมือสอง”

อีกทั้งฐานะการเงินและกระแสเงินสดแข็งแกร่ง และมีอัตราส่วนหนี้สินต่อทุน (D/E) ณ สิ้นปี 2567อยู่ที่ระดับ 1.15 เท่า ประกอบกับเงินทุนที่ได้รับจากการระดมทุนครั้งนี้ ยิ่งทำให้บริษัทมีฐานทุนที่แข็งแกร่ง และพร้อมต่อยอดเพื่อขยายพอร์ตการให้บริการบ้านแต่ง (Flipping) เพิ่มขึ้น โดยเฉพาะบ้านมือสองที่มีศักยภาพการเติบโตจากสถาบันการเงินและบริษัทบริหารสินทรัพย์ (AMC) มีทรัพย์สินรอการขาย (NPA) ในระบบจำนวนมากซึ่งคุ้มค่าต่อการลงทุน รวมถึงการพัฒนาธุรกิจ Property Technology (Prop Tech) โดยสร้าง Platform ตัวกลางในการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ จากการนำเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มาใช้เพิ่มประสิทธิภาพการค้นหาข้อมูลให้แก่ผู้ที่ต้องการซื้อบ้าน และเทคโนโลยีระบบเสมือนจริง (Virtual Reality) มาใช้ในการแนะนำบ้านให้กับผู้ที่ต้องการซื้อบ้านได้เห็นภาพบ้านเสมือนจริงผ่านระบบออนไลน์ ยิ่งสร้างโอกาสการเติบโตให้กับบริษัทในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ

“การเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) ในครั้งนี้ ถือเป็นก้าวแรกสู่การเป็นบริษัทมหาชนอย่างเต็มตัว รวมถึงยังเป็นการสร้างโอกาสเติบโตให้กับบริษัท ทั้งฐานทุนที่เพิ่มขึ้น และการเพิ่มศักยภาพภาพลักษณ์องค์กร ให้เป็นที่น่าเชื่อถือและเป็นที่รู้จักมากยิ่งขึ้นด้วย ดังนั้นด้วยปัจจัยพื้นฐาน ที่แข็งแกร่งทางธุรกิจ ประกอบกับทีมบริหารที่มีวิสัยทัศน์และกลยุทธ์ธุรกิจที่ชัดเจน ยิ่งตอกย้ำว่า BKAมีโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้น ดังนั้นจึงมองว่านักลงทุนที่ลงทุนไปพร้อมกับเราในวันนี้ก็จะเติบโตไปพร้อมๆกับ BKA เช่นกัน พร้อมกันนี้ เพื่อเป็นการสร้างความเชื่อมั่นต่อนักลงทุน ทางผู้ถือหุ้นใหญ่และผู้ก่อตั้งบริษัทพร้อมใจกัน Lock-Up ตามสัดส่วนการถือหุ้นรวมกัน 87% ของทุนชำระแล้วก่อน IPO หรือคิดเป็น 62.14% ของทุนชำระแล้วหลัง IPO เพื่อเป็นการยืนยันว่าวันที่หุ้นเข้าซื้อขายในกระดานเทรดวันแรกจะไม่มีการเทขายจากกลุ่มนี้ออกมาอย่างแน่นอน” 

นางนิสาภรณ์ ฤกษ์อร่าม กรรมการผู้จัดการ บริษัท แอดไวเซอรี่ พลัส จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน เปิดเผยว่า หุ้น BKA จะเป็นหุ้นที่สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุน เนื่องจากมีปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่ง มีทีมผู้บริหารที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญในอุตสาหกรรมกว่า 12 ปีและด้วยจุดเด่นของ BKA ที่ดำเนินธุรกิจให้บริการซื้อ-ขายบ้านมือสองตกแต่งใหม่ ซึ่งถือเป็นรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ โดยเฉพาะในธุรกิจให้บริการบ้านแต่ง (Flipping) ที่สามารถสร้างผลตอบแทนสูง จึงทำให้หุ้น BKA ได้รับการตอบรับจากนักลงทุนเป็นอย่างดีตลอดช่วงระยะเวลาที่มีการเสนอขายหุ้น IPO ในช่วงที่ผ่านมา 

ประกอบกับตัวเลขผลการดำเนินงานในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา (2565 – 2567) สะท้อนถึงรายได้รวม และกำไรสุทธิที่เพิ่มขึ้น จากปี 2565 มีรายได้รวม 1,302.92 ล้านบาท กำไรสุทธิ 21.44 ล้านบาท, ปี 2566 มีรายได้รวม 1,313.59 ล้านบาท กำไรสุทธิ 22.27 ล้านบาท และ ปี 2567 มีรายได้รวม 1,142.46 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 36.82 ล้านบาท ดังนั้น จึงมองว่าหุ้น BKA จะเป็นอีกหนึ่งบริษัทที่สร้างโอกาสการเติบโตเพิ่มขึ้น และมองว่า BKA เป็นหุ้น Growth Stock ที่สร้างมูลค่าเพิ่ม พร้อมกับการเติบโตอย่างแข็งแกร่ง ให้กับผู้ถือหุ้นในอนาคต   

นางสาวออมสิน ศิริ ประธานกรรมการบริหาร บริษัทหลักทรัพย์ บียอนด์ จำกัด (มหาชน) ในฐานะผู้จัดการการจัดจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของ BKA กล่าวว่า หุ้น BKA เป็นหุ้น IPO ที่มีศักยภาพโดดเด่น มีแนวโน้มการเติบโตที่ดีต่อเนื่อง แม้ว่าภาพรวมเศรษฐกิจจะทรงตัวแต่ตัวเลขยอดขายบ้านมือสองมีการเติบโตเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญทุกปี สอดคล้องกับดีมานด์บ้านแนวราบที่เติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะบ้านในระดับราคา 5-7 ล้านบาท และจากปัจจัยดังกล่าวจึงได้การตอบรับที่ดีจากนักลงทุนผ่านการจองซื้อหุ้นในช่วงที่ผ่านมา 

และที่สำคัญ Business Model ธุรกิจของ BKA ถือเป็นรายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ เนื่องจากธุรกิจของ BKA ไม่ใช่ธุรกิจอสังหาริมทรัพย์โดยตรง แต่เป็นธุรกิจการให้บริการปรับปรุงบ้านมือสองเพื่อขาย “ธุรกิจบ้านแต่ง” หรือ “Flipping” ซึ่งรูปแบบธุรกิจเป็นการวางเงินประกัน เพื่อปรับปรุง และขายบ้าน โดยไม่ต้องลงทุนซื้อบ้านทั้งหลัง ทำให้บริษัทมีส่วนต่างของผลตอบแทน และมาร์จิ้นสูง เมื่อเทียบกับธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ที่ต้องลงทุนตั้งแต่การซื้อที่ดินและก่อสร้าง ดังนั้นด้วยศักยภาพและจุดเด่นจึงทำให้หุ้นน้องใหม่ BKA จึงได้รับความสนใจจากกลุ่มนักลงทุน