Phones





TATG โชว์กำไรโต 31% รับอานิสงส์ธุรกิจกลุ่ม Tooling พุ่ง

2025-05-14 20:11:11 34



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – TATG ประกาศผลงาน Q1/68 กวาดรายได้ 676.50 ล้านบาท กำไรสุทธิโต 31% แตะ 13.32 ล้านบาท รับอานิสงส์การควบคุมต้นทุนและรายได้กลุ่ม Tooling โตเด่น ควบคู่การบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ เดินหน้าลงทุนเครื่องจักรอัตโนมัติรองรับดีมานด์ชิ้นส่วน EV ตั้งเป้ารายได้ปี 68 โตไม่ต่ำกว่า 10%
 
เมื่อวันที่ 14 พฤษภาคม 2568 ดร.พยุง ศักดาสาวิตร ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ไทย ออโต ทูลส์ แอนด์ ดาย จำกัด (มหาชน) หรือ TATG เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2568 บริษัทมีรายได้รวม 676.50 ล้านบาท ลดลง 0.52% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากลดลงของรายได้ในธุรกิจผลิตชิ้นส่วนรถยนต์จำนวน 2.51 ล้านบาท คิดเป็น 0.44% ที่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจในประเทศที่ยังชะลอตัว และสถาบันการเงินเข้มงวดในการพิจารณาการปล่อยสินเชื่อ ส่วนรายได้ที่มาจากธุรกิจออกแบบและผลิตเครื่องมือเพิ่มขึ้น 7.63 ล้านบาท หรือ 13.15% ซึ่งเกิดจากมีคำสั่งซื้อของกลุ่มยานยนต์ที่มีปริมาณเพิ่มมากขึ้น
 
ขณะที่บริษัทมีกำไรสุทธิ 13.32 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 31.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเกิดจากการบริหารจัดการที่ดีและสามารถลดลงของต้นทุนทางการเงิน ประกอบกับการควบคุมต้นทุนขาย ต้นทุนบริการ โดยส่วนใหญ่เกิดจากการลดลงของต้นทุนวัตถุดิบ ค่าจ้างค่าแรง และต้นทุนเกี่ยวกับพนักงาน รวมทั้ง การลดลงของค่าใช้จ่ายในการขาย ซึ่งเป็นไปในทิศทางเดียวกันกับยอดขายที่ปรับตัวลดลงจากหลายปัจจัย
 
สำหรับภาพรวมของยอดการผลิตรถยนต์ในไตรมาส 1/2568 จะเห็นถึงการเปลี่ยนแปลงที่ชัดเจนของกลุ่มรถยนต์นั่งแบบไฟฟ้า ที่มีจำนวนการผลิตที่สูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซึ่งสอดคล้องกับนโยบายของ BOI ที่ให้การสนับสนุนมาอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งยังวางเป้าหมายในการตั้งให้ประเทศไทยเป็น EVs Hub. และยังคงให้การสนับสนุนกลุ่มรถยนต์แบบ Hybrid (HEV), Plug-in Hybrid (PHEV) และรถยนต์สันดาป (ICE) ที่มีบริษัทผู้ผลิตรถยนต์ตั้งฐานการผลิตอยู่ในประเทศไทย เนื่องจากอุตสาหกรรมยานยนต์ยังคงอยู่ในช่วงเปลี่ยนผ่าน และมีการแข่งขันในตลาดค่อนข้างสูง
 
อย่างไรก็ตาม กลุ่มบริษัทยังคงเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของอุตสาหกรรมอย่างต่อเนื่อง และได้เตรียมความพร้อมในส่วนของการผลิต เพื่อรองรับการผลิตชิ้นส่วนของรถ EVs ตามการเปลี่ยนแปลงของอุตสาหกรรม ด้วยการเตรียมความพร้อมในส่วนของการลงทุนเทคโนโลยีและเครื่องจักรอัตโนมัติ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ควบคุมต้นทุน รวมถึงเสริมคุณภาพของสินค้าให้เทียบเท่ามาตรฐานสากล เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันให้กับบริษัท
 
ทั้งนี้ ในสภาวะอุตสาหกรรมยังคงมีการแข่งขันที่สูงและต้องการความรวดเร็วแม่นยำในการผลิต การยกระดับมาตรฐานการผลิตจึงเป็นสิ่งสำคัญเป็นอย่างมาก สำหรับผู้ประกอบธุรกิจอุตสาหกรรมยานยนต์ โดยในไตรมาส 1 ที่ผ่านมา บริษัทได้นำเข้าเครื่องปั๊มอัตโนมัติ (Progressive) ขนาด 200 ตัน, เครื่อง Laser Cutting จำนวน 2 เครื่อง และเครื่องจักรอัตโนมัติ (CNC) จำนวน 3 เครื่อง เพื่อรองรับดีมานด์ของงานที่จะมีเข้ามาในอนาคต และรองรับการผลิตที่มีความซับซ้อน อีกทั้งยังช่วยลดต้นทุนจากการผลิตได้เป็นอย่างดี ควบคู่ การมุ่งพัฒนาอย่างยั่งยืน ติดตั้ง Solar Rooftop ขนาด 999.44 KW ครอบคลุม 4 โรงงาน และสามารถลดการปล่อยคาร์บอนรวมได้กว่า 593 ตัน CO2e ในไตรมาสเดียว
 
“TATG มั่นใจในศักยภาพของการบริหารจัดการ คุณภาพของสินค้า และกำลังการผลิต ที่ได้รับมาตรฐานเทียบเท่าระดับสากล สะท้อนจากการรักษาความสามารถของการทำกำไรในไตรมาสแรก ปี 68 ได้เป็นอย่างดี โดยเฉพาะการเติบโตของกลุ่ม Tooling ท่ามกลางความท้าทายของภาพรวมอุตสาหกรรมผลิตรถยนต์ที่กำลังอยู่ในช่วงชะลอตัว บริษัทยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในระยะยาว TATG จะไม่หยุดพัฒนา พร้อมมุ่งสู่การเป็นผู้นำอุตสาหกรรมแม่พิมพ์โลหะ อุปกรณ์จับยึด และชิ้นส่วนยานยนต์ในภูมิภาคเอเชีย เพิ่มโอกาสในการขยายฐานลูกค้า และมีส่วนแบ่งของตลาดที่เพิ่มมากขึ้น เตรียมความพร้อมรับดีมานด์ EV คือ S-Curve ใหม่ ของ TATG โดยตั้งเป้ารายได้ปีนี้เติบโตไม่ต่ำกว่า 10%” ดร.พยุง กล่าว