Phones





PTC เปิดเทรดวันแรกเหนือจอง 92.86% มั่นใจรายได้ปี65โตต่อ

2022-02-15 13:11:24 301




นิวส์ คอนเน็คท์ - PTC เทรดวันแรกเหนือจอง 92.86% สะท้อนความเชื่อมั่นนักลงทุนเต็มเปี่ยม หลังจากนี้ลุยนำเงินขยายธุรกิจ มั่นใจรายได้ปี 65 โตต่อเนื่อง 
 
เมื่อวันที่ 15 กุมภาพันธ์ 2565 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC ได้เข้าซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) เป็นวันแรก มีราคาเปิดตลาดที่ 6.75 บาท เพิ่มขึ้น 92.86% จากราคาIPOที่ 3.50 บาท โดยภายหลังจากนั้นราคาหุ้นได้ปรับตัวลดลงอย่างต่อเนื่อง โดยมีราคาต่ำสุดที่ 4.98 บาท และได้มีแรงซื้อกลับเข้ามาเล็กน้อย ทั้งนี้ PTC มีราคาปิดตลาดภาคเช้าอยู่ที่ 5.35 บาท เพิ่มขึ้น 1.85 บาท หรือ 52.86 % มูลค่าการซื้อขายรวมกว่า 2 พันล้านบาท 

นายวีรวัฒน์ บูรพพัฒนพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พรีเมียร์ แทงค์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PTC เปิดเผยว่า บริษัทพอใจราคาหุ้นเข้าซื้อขายใน mai เป็นวันแรก โดยภายหลังจากนี้บริษัทจะนำเงินที่ได้รับจากการระดมทุนมาเสริมความแข็งแกร่งด้านฐานะการเงิน เพื่อรองรับการขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโตที่แข็งแกร่งยิ่งขึ้น รวมถึงใช้ชำระคืนหนี้สถาบันการเงิน และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจต่อไป

นอกจากนั้นแล้วบริษัทยังมีแผนที่จะก่อสร้างจุดรับน้ำมันทางรถไฟที่คลังศรีสะเกษ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการให้บริการแก่ลูกค้าทั้งในด้านการลดต้นทุนการขนส่งน้ำมันของลูกค้า งบลงทุนราว 110 ล้านบาท บริษัทมีเป้าหมายพัฒนาธุรกิจที่เกี่ยวกับพลังงานไฟฟ้า ทั้งโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน, โรงไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียน, โรงไฟฟ้าขยะและโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ โดยปัจจุบันยังอยู่ระหว่างศึกษาความเป็นไปได้ คาดว่าจะเห็นความชัดเจนภายในปีนี้ ถ้าหน่วยงานภาครัฐมีประกาศออกมา

ขณะที่รายได้ปี 65 คาดจะสูงกว่าปีก่อน ผลจากการเพิ่มขึ้นของยอดจ่ายน้ำมันจากเศรษฐกิจที่ฟื้นตัว จากก่อนหน้านี้ที่ได้รับแรงกดดันจากการแพร่ระบาดของโควิดที่แพร่ระบาดอย่างหนัก 

ด้านนางจารีรัตน์ บุลสุข กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ ฟินันซ่า จำกัด ในฐานะผู้จัดการจำหน่ายและรับประกันการจำหน่ายหุ้นสามัญเพิ่มทุน กล่าวว่า บริษัทมีฐานการเงินที่แข็งแกร่ง งวด 9 เดือน ปี 64 มีอัตราหนี้สินต่อทุน (D/E) อยู่ที่ 0.47 เท่า สิ้นปี 64 ลงมาอยู่ที่ 0.40 เท่า หลัง IPO คาดไม่เกิน 0.2 เท่า ขณะที่บริษัทจะรักษาอัตรกาไรขั้นต้นที่ 70% จากปัจจุบันอยู่ที่ 75% และรักษาอัตรากำไรสุทธิไม่ต่ำกว่า 30% จากปัจจุบันอยู่ที่ 40% ปีนี้ทั้งปีก็คาดว่าจะคงเดิมเพราะค่าใช้จ่ายเป็นฟิกซ์คอร์ส

บริษัท เดินหน้าให้บริการด้านคลังน้ำมัน ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของสายโซ่อุปทานน้ำมันที่นับเป็นต้นทุนสำคัญของภาคโลจิสติกส์ในประเทศไทย และมีโครงการที่จะพัฒนาคลังน้ำมันของบริษัทเอง เพื่อให้สามารถตอบสนองต่อความต้องการของลูกค้าได้มากยิ่งขึ้น