Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
BAY ตั้งสำรองเพิ่ม ฉุดกำไรหดตัว 5.2%
MAI
NDR เพิ่มทุน PP สำเร็จตามแผน ลุยตลาดอิเล็กทรอนิกส์
IPO
TMAN ปลื้ม นักลงทุนจองหุ้น IPO ล้น พร้อมเทรด 22 ต.ค. นี้
บล./บลจ
InnovestX ยกเครื่อง ‘InnovestX App’ โฉมใหม่ ตอบโจทย์การลงทุน
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC จับสัญญาณ กนง. หั่นดอกเบี้ยสู่ 2.00% ในQ1/68
การค้า - พาณิชย์
ไทยได้แต้มต่อ หลังสหรัฐฯ ประกาศผลเบื้องต้นเก็บภาษีอุดหนุนโซลาเซลล์
พลังงาน - อุตสาหกรรม
BBGI หนึ่งเดียวธุรกิจเชื้อเพลิงชีวภาพ รับรางวัล ESG100
คมนาคม - โลจิสติกส์
"สุริยะ" บินด่วน "เชียงใหม่" สั่งการทุกหน่วยช่วยประชาชน
แบงก์ - นอนแบงก์
ออมสิน ลดดอกเบี้ยเงินกู้ 0.25% มีผล 1 พ.ย. 67
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
SAK จัดตั้งบริษัทใหม่ ลุยธุรกิจ “โซลาร์ รูฟท็อป”
SMEs - Startup
KBTG พัฒนา Face Liveness Detection เติมเต็มโซลูชัน AI เพื่อธุรกิจ
ประกันภัย - ประกันชีวิต
BKIH จ่ายปันผลงวด 9 เดือน รวม 11.25 บาทต่อหุ้น
รถยนต์
ทัพหน้า MotoGP ถึงไทย! โค้งสุดท้าย “บุรีรัมย์” สุดคึกคัก
ท่องเที่ยว
กรุงศรี ออโต้ ปักหมุด 5 อุทยานแห่งชาติ ชวนขับรถเที่ยวหน้าฝน
อสังหาริมทรัพย์
KUN ชำระคืนหุ้นกู้ พร้อมดอกเบี้ย ครบ 200 ลบ. ตามกำหนด
การตลาด
KTC จับมือโรงแรมสุโขทัย ขยายฐานสมาชิกกลุ่มพรีเมี่ยม
CSR
KBTG พัฒนา Face Liveness Detection เติมเต็มโซลูชัน AI เพื่อธุรกิจ
Information
ธ.ก.ส. ร่วมกับ สจล. จัดโครงการ "SMART LINE OA FOR SMART FARMER "
Gossip
SM ลดราคาท้าลมหนาว สูงสุด 40%
Entertainment
Music IP Key Driver ผลักดันมูลค่าอุตฯเพลงเติบโต
สกุ๊ป พิเศษ
NER พร้อมปรับตัวกับยุค AI เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
TTB จับมือพันธมิตรจัดงาน “ผ่าทุกมิติการลงทุน...รู้ก่อนชัวร์กว่า”
2022-02-22 13:11:57
374
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – TTB จับมือ 4 บลจ.พันธมิตร จัดสัมมนาออนไลน์ “ttb investment outlook 2022 : ผ่าทุกมิติการลงทุน...รู้ก่อนชัวร์กว่า” แนะความรู้สำหรับนักลงทุน เปิดมุมมอง รวมถึงวิเคราะห์ทิศทางตลาด เพื่อช่วยสร้างโอกาสในการได้รับผลตอบแทนที่ดีจากการลงทุน
เมื่อวันที่ 22 กุมภาพันธ์ 2565 นางกิดาการ ชัฏสุวรรณ หัวหน้าเจ้าหน้าที่บริหารผลิตภัณฑ์กองทุนรวม ธนาคารทหารไทยธนชาต จำกัด (มหาชน) หรือ TTB เปิดเผยว่า ภาพการลงทุนในปี 65 สินทรัพย์เสี่ยงยังครองตลาด นักลงทุนจึงไม่ควรพลาดโอกาสในการลงทุน แม้จะมีความท้าทายที่ต้องเผชิญจากภาวะอัตราดอกเบี้ยขาขึ้นและสภาพคล่องในตลาดที่เริ่มจะลดน้อยลง หลังจากที่ธนาคารกลางในประเทศหลักกลับมาดำเนินนโยบายการเงินที่เข้มงวดมากขึ้นต่อเนื่อง อย่างไรก็ตาม ในภาพรวมการจัดสรรสินทรัพย์ลงทุนในปีนี้ ทีมกลยุทธ์การลงทุนของทีเอ็มบีธนชาตยังคงให้น้ำหนักกับการลงทุนในสินทรัพย์เสี่ยงอย่างหุ้นและสินค้าโภคภัณฑ์บางประเภทมากกว่าการลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัย เช่น พันธบัตรรัฐบาล
สำหรับปัจจัยสนับสนุนที่ทำให้สินทรัพย์เสี่ยงได้ไปต่อในปี 65 มีดังนี้ 1. จุดจบของสถานการณ์โควิด-19 ที่ใกล้เข้ามา นำพาไปสู่การกลับมาของกิจกรรมทางเศรษฐกิจ, 2. สินทรัพย์เสี่ยงยังไปต่อได้ แม้นโยบายการเงินจะเข้มงวด แต่เนื่องจากสภาพคล่องในระบบไม่ได้หมดไปในทันที และธุรกิจมีเวลาในการปรับตัวล่วงหน้า ตลาดหุ้นโลกจึงยังมีแรงส่งให้ปรับตัวขึ้นต่อไปได้, 3. แรงกระตุ้นจากนโยบายการคลังยังไม่หมดไป โดยเฉพาะในประเทศฝั่งประเทศพัฒนาแล้ว (DM) ที่มีศักยภาพในการออกมาตรการกระตุ้นทางการคลังมากกว่าฝั่งตลาดเกิดใหม่ (EM) ทำให้เศรษฐกิจโลกในปีนี้ยังมีแนวโน้มขยายตัวอยู่ แม้ว่าอาจจะไม่เท่ากับปี 64 โดยในภาพรวม ทีมกลยุทธ์การลงทุนของทีเอ็มบีธนชาตให้น้ำหนักกับการลงทุนในตลาดหุ้น DM มากกว่าตลาด EM
ขณะที่สินทรัพย์เสี่ยงที่น่าจับตามองมากที่สุดคือ “หุ้น” โดยเฉพาะตลาดหุ้น DM ที่มีปัจจัยพื้นฐานแข็งแกร่งและเศรษฐกิจมีแนวโน้มขยายตัวในปีนี้ ได้แก่ สหรัฐอเมริกา ยุโรป และญี่ปุ่น เนื่องจากคาดว่าเศรษฐกิจของทั้งสามประเทศได้ผ่านจุดต่ำสุดไปแล้ว จึงแนะนำให้ลงทุนในตลาดหุ้น DM อย่างต่อเนื่องผ่านกองทุน ttb smart port เป็น Core Portfolio และเสริมด้วยกองทุน TMB-ES-GCORE ที่เน้นการลงทุนในตลาดหุ้นกลุ่ม DM เพื่อเป็นการลงทุนระยะยาวและจะช่วยให้พอร์ตการลงทุนมีผลตอบแทนที่เติบโตไปอย่างมั่นคง
ทั้งนี้ แม้ตลาดหุ้น DM จะมีความผันผวนค่อนข้างมากในช่วงนี้ จากท่าทีที่เข้มงวดของธนาคารกลาง แต่หัวใจสำคัญในการสร้างกำไรภายใต้ความผันผวน คือ การเลือกลงทุนในหมวดอุตสาหกรรมให้ถูกจังหวะ (Sector Rotation) ซึ่งมองว่ากลุ่มวัฏจักร (Cyclical) ยังมีโอกาสให้ผลตอบแทนที่ดีกว่าหุ้นกลุ่มเติบโต (Growth) ในช่วงครึ่งปีแรก ดังนั้น จึงแนะนำกองทุน KT-ENERGY และ KT-FINANCE มาเป็น Top Pick เพื่อตอบโจทย์การลงทุนภายใต้ภาวะดอกเบี้ยขาขึ้นและอัตราเงินเฟ้อที่ยังอยู่ในระดับสูงอย่างเพิ่มเติมด้วย กองทุน TMB-ES-CHILL ซึ่งจัดอยู่ในกลุ่มหุ้นวัฏจักรที่จะได้ประโยชน์จากการเข้าสู่ภาวะสิ้นสุดของสถานการณ์โควิด-19 ต่อไป
ส่วนหุ้นกลุ่ม Growth โดยเฉพาะกลุ่มเทคโนโลยีนั้น มีโอกาสฟื้นตัวได้ในช่วงครึ่งปีหลัง แต่ต้องเป็นหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีขนาดใหญ่เช่น กลุ่ม FAANGMT (หุ้นของกลุ่มบริษัทเทคโนโลยีสัญชาติอเมริกันที่ได้รับความนิยมและมีประสิทธิภาพสูงสุด 7 แห่ง ประกอบด้วย Facebook, Amazon, Apple, Netflix, Alphabet (บริษัทแม่ของ Google), Microsoft และ Tesla จึงคาดว่ากองทุน TMBUSBLUECHIP อาจจะเป็นอีกหนึ่งกองทุนที่จะแนะนำช่วงครึ่งปีหลัง หรือ กองทุนที่ตอบสนองต่อธีมเทคโนโลยีใหม่ ๆ เช่น Metaverse
ขณะที่ตลาดหุ้นเกิดใหม่ (EM) ในช่วงไตรมาส 1/65 มองว่ายังไม่มีความน่าสนใจ โดยหุ้นจีนยังมีแนวโน้มที่เศรษฐกิจจะชะลอลงจากมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 อย่างเข้มงวด รวมถึงมีแนวโน้มที่จะถูกกดดันจากกฎระเบียบของทางการอยู่ในโมเมนตัมการลงทุนช่วงต้นปีนี้ จึงยังชี้ไปที่การลงทุนในหุ้นอินเดีย ที่ยังมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจในระดับสูง ส่วนในช่วงครึ่งปีหลังจะมีความน่าสนใจมากขึ้นจากปัจจัยเสี่ยงที่เริ่มผ่อนคลายลง
อย่างไรก็ตาม ยังต้องติดตามพัฒนาการของตลาดหุ้นจีน โดยเฉพาะประเด็นที่เกี่ยวข้องกับภาครัฐ สำหรับตลาดหุ้นอาเซียน เป็นอีกหนึ่งตลาดหุ้นที่มีความน่าสนใจ จากแนวโน้มเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวตามเศรษฐกิจโลก ส่วนตลาดหุ้นเวียดนาม แม้จะไม่อยู่ในกลุ่มประเทศตลาดเกิดใหม่ แต่ก็ถือเป็นหนึ่งในตลาดหุ้นที่มีศักยภาพ
สำหรับตลาดหุ้นไทยนั้น ยังไม่โดดเด่น ในช่วงไตรมาสแรก เนื่องจากยังถูกกดดันจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิ ครอน ประกอบกับระดับราคาหุ้นไม่อยู่ในระดับที่ถูก แต่หากสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลายลง หุ้นไทยโดยเฉพาะกลุ่มที่เกี่ยวข้องกับการเปิดเศรษฐกิจจะมีความน่าสนใจมากยิ่งขึ้น แต่ควรเป็นลักษณะของการเลือกลงทุนในหุ้นรายตัว ควรเลือกลงทุนในกองทุนที่มีจุดเด่นที่การเลือกหุ้น และสามารถลงทุนได้ทั้งในหุ้นขนาดใหญ่ และหุ้นขนาดกลาง-เล็ก
ด้านตลาดพันธบัตรที่พัฒนาแล้ว (Developed Market) การลงทุนในสินทรัพย์ปลอดภัยอย่าง “พันธบัตรรัฐบาล” เริ่มมีความน่าสนใจน้อยลง โดยเฉพาะพันธบัตรที่มีอายุยาวซึ่งจะได้รับผลกระทบทางลบมากจากอัตราดอกเบี้ยที่มีแนวโน้มขาขึ้นอย่างชัดเจน ดังนั้น กลยุทธ์การลงทุนคือ ต้องลดอายุของตราสารโดยเฉลี่ยในพอร์ตการลงทุนลง และเพิ่มผลตอบแทนจากการลงทุนด้วยการลงทุนในตราสารประเภท Additional Tier 1 (AT1) และ High Yield Bond (HY) สำหรับตราสารหนี้ตลาดเกิดใหม่ (Emerging Market) ยังไม่คุ้มเสี่ยงในปีนี้ เนื่องจากปัจจัยโดยรวมก็ยังไม่สนับสนุนการลงทุน ขณะที่ตลาดตราสารหนี้ไทย โดยรวมแล้วไม่น่าสนใจมากนัก การลงทุนต้องอาศัยจังหวะเข้าลงทุนในพันธบัตรระยะกลางถึงยาวมากกว่า เพื่อเพิ่มโอกาสได้รับผลตอบแทนที่สูงขึ้น
ทั้งนี้ สินทรัพย์ทางเลือกซึ่งมองว่าคือ พระเอกตัวจริงหลังสถานการณ์โควิด-19 คลี่คลาย คือ น้ำมันดิบ เนื่องจากการหันมาใช้พลังงานทางเลือกแทนน้ำมันดิบนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย ทำให้ในปีนี้น้ำมันดิบจะยังเป็นที่ต้องการจากทั้งผู้บริโภคและธุรกิจต่าง ๆ ต่อไป จึงมีมุมมองที่เป็นบวกต่อราคาน้ำมันดิบในปีนี้ ส่วนทองคำนั้น ความน่าสนใจในฐานะสินทรัพย์ที่ใช้ป้องกันความเสี่ยงด้านเงินเฟ้อจะลดลงไป จึงไม่แนะนำให้ลงทุนทองคำในปีนี้ ขณะที่การลงทุนใน REITs มีทั้งปัจจัยบวกและปัจจัยลบ ในช่วงต้นปีการลงทุนในสินทรัพย์กลุ่ม REITs ของประเทศไทยและสิงคโปร์ จะยังเผชิญแรงกดดันจากโรคโควิด-19 สายพันธุ์โอมิครอนที่ยังรุนแรง และเงินเฟ้อทั่วโลก แต่ในช่วงครึ่งปีหลังการลงทุนอาจมีความน่าสนใจมากขึ้น หากราคาอยู่ในระดับที่น่าสนใจ
ผู้ที่สนใจสามารถรับชมสัมมนาออนไลน์ “ttb investment outlook 2022 ผ่าทุกมิติการลงทุน…รู้ก่อนชัวร์กว่า” ย้อนหลังได้ที่ https://www.ttbbank.com/ttboutlook2022
BAY ตั้งสำรองเพิ่ม ฉุดกำไรหดตัว 5.2%
TTB อวดงบ Q3 ฟาดกำไร 5.2 พันล.
JMT เป๋าตุง! กวาดซื้อหนี้ก้อนโตเข้าพอร์ตอีกหมื่นล.
NER คาดยอดขาย Q4 พีคสุด โบรกฯ เคาะเป้า 7.30 บ. - MotoGP ทัพหน้า! ถึงไทยแล้ว
BBL ประกาศงบ Q3/67 โต 10% ทะลุ 1.2 หมื่นล.
WICE แย้มรับผลดี จีนกระตุ้นเศรษฐกิจ