นิวส์ คอนเน็คท์ – "เวิลด์ลีส" มั่นใจ ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 62 ทำได้สูงกว่าเป้าที่ตั้งไว้ที่ 4.2 พันล้านบาท สวนทางยอดขายรถมอเตอร์ไซค์ที่ยังหดตัวตามภาวะเศรษฐกิจ หลังเดินหน้ากลยุทธ์กระจายตู้ SAMM เข้าไปยังพื้นที่ห่างไกล เพื่อช่วยอนุมัติสินเชื่อ พร้อมรอแบงก์ชาติคลอดใบอนุญาตธุรกิจจำนำทะเบียน หวังช่วยเพิ่มช่องทางปล่อยสินเชื่อ
วันที่ 30 กันยายน 2562 นายทวีพล เจริญกิตติคุณไพศาล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เวิลด์ลีส จำกัด เปิดเผยว่า ภาพรวมสินเชื่อของบริษัทในปี 62 มั่นใจว่าจะเติบโตมากกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 40% หรืออยู่ที่ 4.2 พันล้านบาท หลังยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ในช่วง 8 เดือนแรกของปี 62 สามารถทำได้แล้วราว 2.9 พันล้านบาท ซึ่งในช่วง 3 เดือนสุดท้ายของปี 62 มั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่จะทำได้ไม่ต่ำกว่า 400 ล้านบาทต่อเดือน
อย่างไรก็ตาม มองว่ายอดขายรถจักยานยนต์ในประเทศช่วงปี 62 จะอยู่ที่ราว 1.72 ล้านคัน ลดลง 4% จากปีก่อนที่มียอดขายราว 1.78 ล้านคัน ซึ่งเป็นไปตามภาวะเศรษฐกิจที่ยังค่อนข้างชะลอตัว โดยบริษัทได้มีการวางกลยุทธ์ด้วยการให้ความสำคัญกับคู่ค้าและดีลเลอร์ทั้งรายเล็กและรายใหญ่ รวมทั้งพยายามเข้าถึงพื้นที่ห่างไกลด้วยการเข้าไปติดตั้งเครื่อง SAMM (Self-Apply Machine for Motorcycle Loan) ซึ่งเป็นเทคโนโลยีที่ช่วยให้ลูกค้าสามารถสมัครสินเชื่อได้ด้วยตัวเองที่ร้านจำหน่ายรถจักรยานยนต์
ปัจจุบัน บริษัทมีการติดตั้งเครื่อง SAMM ในร้านจำหหน่ายรถจักรยานยนต์อยู่ราว 400 เครื่อง และภายในสิ้นปีนี้ตั้งเป้าหมายติดตั้งเพิ่มอีก 100 เครื่อง รวมทั้งปัจจุบันบริษัทมีจำนวนพนักงานอยู่ราว 200 คน ซึ่งทำให้สามารถมีการอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าราว 7,000 รายต่อเดือน หรือมียอดสินเชื่อเฉลี่ย 400 ล้านบาทต่อเดือน
“ยอดปล่อยสินเชื่อของเราถือว่าเติบโตได้ดีกว่ายอดขายรถจักรยานยนต์ที่ยังชะลอตัว ซึ่งยอดปล่อยสินเชื่อปีนี้เราตั้งเป้าไว้ที่ 4.2 พันล้านบาท แต่ช่วง 8 เดือนแรกเราทำได้แล้ว 2.9 พันล้านบาท ทำให้ยอดสินเชื่อปีนี้สูงกว่าเป้าแน่นอน ส่วนพอร์ตสินเชื่อสิ้นปี 62 น่าจะอยู่ที่ราว 5.2 พันล้านบาท และตั้งป้าว่าในปี 63 จะเพิ่มขึ้นไปอยู่ที่ 6 พันล้านบาท โดยจะมีการติดตั้งเครื่อง SAMM เพิ่มเติม ซึ่งช่วยให้สามารถเข้าถึงลูกค้าในพื้นที่ห่างไกลได้มากขึ้น” นายทวีพล กล่าว
ขณะที่ปัจจุบันบริษัทอยู่ระหว่างการรอใบอนุญาตในการปล่อยสินเชื่อจำนำทะเบียนจากธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) หลังจากได้มีการยื่นขอใบอนุญาตไปแล้วในช่วงหลายเดือนก่อนหน้านี้ ซึ่งหากได้รับใบอนุญาต จะช่วยให้บริษัทสามารถเพิ่มช่องทางในการปล่อยสินเชื่อได้มากขึ้น และช่วยให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินการทั้งของบริษัทและลูกค้าลดลง เนื่องจากรูปแบบของการปล่อยสินเชื่อประเภทจำนำทะเบียนจะทำให้ไม่ต้องโอนเล่ม และไม่มีค่าใช้จ่ายทางด้านภาษี