Phones





SINO วางกลยุทธ์รับมือค่าระวางเรือผันผวน

2025-12-18 13:48:30 87




นิวส์ คอนเน็คท์ - SINO วางกลยุทธ์รับมือผลกระทบจากค่าระวางเรือขนส่งสินค้าที่ผันผวนจากปัจจัยภายนอก มุ่งเน้นบริหารจัดการภายในวางกลยุทธ์เพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบริการ Air Freight และ Logistics Support Services วางแผนขยายเส้นทางบริการขนส่งสินค้าทางอากาศของ A.S. Logistics ให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น หลังเข้าถือหุ้น 100% เป็นที่เรียบร้อย และวางแผนความร่วมมือกับพันธมิตรขยายคลังสินค้าปลอดอากรและคลังสินค้าทั่วไปอีก10,000 ตารางเมตรในโซนบางนา-ตราด ที่ดีมานด์เช่าพื้นที่มีแนวโน้มเติบโตต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 18 ธันวาคม 2568 นายนันท์มนัส วิทยศักดิ์พันธ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัทไซโน โลจิสติกส์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SINO เปิดเผยว่า จากสถานการณ์ค่าระวางเรือขนส่งสินค้าที่มีความผันผวนในช่วงกว่า 11 เดือนแรกที่ผ่านมาของปีนี้ เนื่องจากได้รับผลกระทบจากปัจจัยต่างๆ เช่น มาตรการภาษีตอบโต้ของสหรัฐอเมริกา, ซัพพลาย-ดีมานด์ในภาพรวมอุตสาหกรรม, ความขัดแย้งทางภูมิรัฐศาสตร์ในหลายพื้นที่ ส่งผลต่อการวางแผนดำเนินธุรกิจให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือ ขณะที่แนวโน้มค่าระวางเรือขนส่งสินค้าในไตรมาส 4/2568 มีแนวโน้มย่อตัวลง เนื่องจากดีมานด์ที่ชะลอตัวและการแข่งขันระหว่างผู้ให้บริการขนส่งสินค้าทางเรือเพื่อรักษาฐานลูกค้า

อย่างไรก็ตาม ปัจจัยดังกล่าวถือเป็นปัจจัยภายนอกที่เข้ามากระทบกับการดำเนินธุรกิจ โดยบริษัทฯ ได้ปรับแผนบริหารจัดการภายในอย่างต่อเนื่องเพื่อรับมือกับสถานการณ์ที่เกิดขึ้น โดยวางกลยุทธ์มุ่งเพิ่มสัดส่วนรายได้จากธุรกิจบริการ Air Freight (บริการขนส่งสินค้าทางอากาศ) และ Logistics Support Services (บริการสนับสนุนงานบริการโลจิสติกส์) ส่งผลให้ภาพรวมผลการดำเนินงานงวด 9 เดือนแรกปี 2568 มีสัดส่วนรายได้จากธุรกิจ Air Freight และ Logistics Support Services รวมกันเพิ่มขึ้นเป็น 7.5% จาก 4.0% เมื่อช่วงเดียวกันของปีก่อน

ขณะที่แนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทฯ ในไตรมาส 4/2568 คาดว่ารายได้จากธุรกิจบริการ Air Freight มีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากบริษัทฯ รับรู้รายได้อย่างต่อเนื่องจากการเข้าลงทุนถือหุ้น 100% ในบริษัท เอ.เอส. โลจิสติคส์ จำกัด (A.S. Logistics) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติไทยที่ดำเนินธุรกิจบริการ Air Freight Forwarder และอยู่ระหว่างวางแผนขยายเส้นทางบริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น

ขณะเดียวกัน จะได้รับปัจจัยหนุนจากพื้นที่ให้บริการคลังสินค้าใหม่ในพื้นที่ท่าเรือแหลมฉบัง จังหวัดชลบุรี ที่เพิ่มขึ้นจากการขยายการลงทุนและเปิดบริการคลังสินค้าใหม่ในปีนี้ ล่าสุด อยู่ระหว่างวางแผนความร่วมมือกับพันธมิตรขยายคลังสินค้าใหม่อีก 2 แห่ง มีพื้นที่รวม 10,000 ตารางเมตร แยกเป็นการลงทุนคลังสินค้าปลอดอากร (Free Zone Warehouse) มีพื้นที่ประมาณ 5,000 ตารางเมตร และคลังสินค้าทั่วไป (General Warehouse) มีพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร โดยจะกระจายทำเลการลงทุนมายังย่านบางนา-ตราด ซึ่งเป็นโซนอุตสาหกรรมที่มีความต้องการเช่าพื้นที่คลังสินค้าเติบโตอย่างต่อเนื่อง และเป็นโอกาสเสริมศักยภาพการแข่งขันในระยะยาวให้กับบริษัทฯ

นอกจากนี้ บริษัทฯ นับจากเดือนกรกฎาคม 2568 บริษัทฯ ได้เดินหน้าลงทุนพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลภายใต้ชื่อโครงการ VOYA เพื่อยกระดับเทคโนโลยีการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศและเพิ่มศักยภาพบริการแก่ลูกค้าทั่วโลก ได้แก่ 1) การลงทุนพัฒนาและติดตั้งระบบ Freight Cloud System เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพการบริหารจัดการกระบวนการขนส่งสินค้า เพิ่มความรวดเร็ว แม่นยำ และสามารถติดตามสถานการณ์จัดส่งแบบเรียลไทม์ และ 2) การติดตั้งระบบ SAP S4/HANA ซึ่งเป็นระบบ ERP อันดับหนึ่งของโลก เพื่อใช้บริหารจัดการงานบัญชีและการเงิน ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพด้านความถูกต้อง โปร่งใส และรองรับการตรวจสอบอย่างเป็นระบบ ปัจจุบันการลงทุนดังกล่าวอยู่ระหว่างการดำเนินการตามแผนงานที่กำหนดและมีความคืบหน้าอย่างต่อเนื่อง ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ ตอบสนองความต้องการของลูกค้าและรายละเอียดของการบริการที่มีความซับซ้อนได้ดียิ่งขึ้น