Phones





KBANK หั่นจีดีพีเหลือ 2.8% ลุ้นมาตรการกระตุ้นศก.

2019-10-01 16:19:07 257




นิวส์ คอนเน็คท์ – ศูนย์วิจัยกสิกรไทยปรับลดตัวเลขจีดีพีปี 62 เหลือ 2.8% หลังตัวเลขการส่งออกทรุกหนักกว่าที่คาดไว้ รับผลกระทบเต็มที่จากสงครามการค้าสหรัฐกับจีนที่ยืดเยื้อ พร้อมประเมินจีดีพีปี 63 โตต่ำกว่า 3.0% แนะรัฐบาลคลอดมาตรการดูแลแรงงานที่ไม่มีหลักประกันรองรับ และกลุ่มผู้ประกอบการเอสเอ็มอี


เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม 2562 นางสาวณัฐพร ตรีรัตน์ศิริกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย เปิดเผยว่า ศูนย์วิจัยกสิกรไทยได้มีการปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 62 ลงมาอยู่ที่ 2.8% จากเดิม 3.1% หลังจากตัวเลขภาคการส่งออกของไทยในช่วง 8 เดือนแรกของปี 62 ชะลอตัวมากกว่าที่คาดไว้ ซึ่งเป็นผลกระทบจากปัญหาสงครามการค้าระหว่างสหรัฐกับจีนที่ยืดเยื้อ โดยศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดการณ์ตัวเลขการส่งออกของไทยในปี 62 จะอยู่ในกรอบติดลบ 2 – 0.0%


ทั้งนี้ ตัวเลขการส่งออกสินค้าของไทยมีการปรับตัวลดลงทุกกลุ่มสินค้า โดยมีเพียงสินค้ากลุ่มอัญมณีและเครื่องประดับที่ยังสามารถเติบโตได้ค่อนข้างดี ซึ่งปัจจัยหลักๆ มาจากการส่งออกทองคำเพิ่มมากขึ้น ขณะที่ตลาดส่งออกสินค้าหลักยังคงติดลบในทุกตลาด โดยตลาดยุโรปติดลบ 5.5% ตลาดจีนติดลบ 6.9% ตลาดญี่ปุ่นติดลบ 1.8% และตลาดอาเซียนติดลบ 10.8% โดยมีเพียงตลาดสหรัฐฯที่ยังขยายตัวได้ราว 14.9%


สำหรับภาพรวมเศรษฐกิจไทยในปี 63 นั้น ศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาดว่าตัวเลขจีดีพีจะเติบโตต่ำกว่า 3% เนื่องจากปัจจัยเสี่ยงของเศรษฐกิจโลกยังมีอยู่ค่อนข้างมาก ทำให้การส่งออกยังคงชะลอตัว ขณะที่การลงทุนจากต่างประเทศคาดว่ามีโอกาสที่จะเพิ่มสูงขึ้น โดยเฉพาะการลงทุนในกลุ่มอุตสาหกรรมอเล็กทรอนิกส์ ชิ้นส่วนยานยนต์ และอุตสาหกรรมยางรถยนต์จากประเทศจีน รวมไปถึงการเข้ามาตั้งฐานการผลิตชิ้นส่วนกล้องและชิ้นส่วนมือถือจากประเทศญี่ปุ่น


โดยในปี 63 ต้องรอติดตามว่าจะมีมาตรการทางการคลังเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่มเติมหรือไม่ ซึ่งหากมีรัฐบาลจะมีการออกมาตรการเพิ่มเติม ศูนย์วิจัยกสิกรไทยมองว่าควรเน้นไปที่การดูแลแรงงานที่ไม่มีหลักประกันทางสังคมรองรับ เช่นกลุ่มอาชีพอิสระ รวมถึงเอสเอ็มอีที่ยอดขายชะลอตัวลงหลังผู้บริโภคระวังการใช้จ่าย ในส่วนของมาตรการทางการเงินนั้น มองว่าคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) อาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ย เพียงแต่มาตรการทางการเงินต้องใช้เวลากว่าจะทยอยเห็นผลบวกต่อเศรษฐกิจ


ด้าน ดร.ศิวัสน์ เหลืองสมบูรณ์ ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการ ศูนย์วิจัยกสิกรไทย มองว่าประเด็นข้อพิพาททางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่ยังคงยืดเยื้อ จะกระทบการส่งออกของไทยในปี 2563 เพิ่มเติมอีก 1,000-2,500 ล้านดอลลาร์ฯ หลังต้องรับรู้ผลกระทบจากการเก็บภาษีนำเข้าจากสินค้าจีนต่อเนื่อง ขณะที่ในปี 2562 คาดการณ์ผลกระทบไว้ที่ 2,100-3,000 ล้านดอลลาร์ฯ


นอกจากนี้ แม้ว่าไทยอาจได้รับประโยชน์จากการย้ายฐานการผลิตบ้าง แต่ก็จะเน้นไปที่ธุรกิจที่ไทยเป็นฐานการผลิตเดิม ส่วนสถานการณ์ Brexit คาดว่า มีความเป็นไปได้สูงที่สหราชอาณาจักรคงต้องออกจากสหภาพยุโรปแบบ No Deal โดยขั้นตอนต่อไปคือการตกลงกันเรื่องรูปแบบและข้อตกลงทางการค้าระหว่างกัน รวมถึงประเด็นพรมแดนไอร์แลนด์เหนือซึ่งพัฒนาการเหล่านี้จะมีผลกระทบต่อตลาดเงิน แม้ว่าผลกระทบของ Brexit ต่อเศรษฐกิจไทยจะมีไม่มากนัก