นิวส์ คอนเน็คท์ – ปลัดกระทรวงพลังงานชี้ เชฟรอนฯ โททาล กลุ่มโมเอโกะ ได้เสนอข้อมูลแท่นปิโตรเลียมที่จะรื้อเข้ามาเพิ่ม พร้อมเร่งสรุปโดยเร็ว หวั่นเอกชนยื่นอนุญาโตตุลาการตัดสิน

เมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2562 นายกุลิศ สมบัติศิริ ปลัดกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายในงานวันคล้ายวันสถาปนากระทรวงพลังงานครบรอบ 17 ปี ที่กระทรวงพลังงาน ว่า ความคืบหน้าการเจรจาค่าใช้จ่ายรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมแหล่งก๊าซธรรมชาติ "เอราวัณ-บงกช" ในขณะนี้ได้มอบหมายให้ทางกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติเจรจากับผู้ถือหุ้นทั้ง 2 แหล่ง ทั้ง บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิต จำกัด บริษัท โททาล ออยล์ (ประเทศไทย) จํากัด และกลุ่มบริษัท สยามโมเอโกะ จำกัด แล้ว

โดยขณะนี้ ทั้งเชฟรอนฯ โททาล กลุ่มโมเอโกะ ได้เสนอข้อมูลใหม่เพิ่มเติมเข้าและจะเร่งสรุปแนวทางการดำเนินงานให้เร็วที่สุดเพื่อไม่ให้นำไปสู่กระบวนการยื่นอนุญาโตตุลาการในการตัดสิน

อย่างไรก็ตาม ในขั้นตอนการเจรจานั้นทางกรมเชื้อเพลิงฯ มีการวางกรอบหารือเบื้องต้นแล้ว พร้อมจะเร่งให้ได้ข้อสรุปตามกฏหมายที่กำหนดเพื่อไม่ให้กระทบกับการส่งมอบพื้นที่ให้กับผู้ชนะประมูลรายใหม่อย่าง บริษัท ปตท. สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ PTTEP ที่ชนะทั้ง 2 แหล่ง จะสิ้นสุดอายุสัมปทานในปี 2565 และ 2566

ด้านนายไพโรจน์ กวียานันท์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เชฟรอนประเทศไทยสำรวจและผลิตจำกัด กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายรื้อถอนแท่นปิโตรเลียมแหล่งก๊าซธรรมชาตินั้น ขึ้นอยู่กับการหารือเป็นหลัก ปัจจุบันยังไม่สามารถตอบได้ว่าที่สุดจะนำไปสู่กระบวนการยื่นอนุญาโตตุลาการหรือไม่

ขณะที่นางเปรมฤทัย วินัยแพทย์ อธิบดีกรมเชื้อเพลิงธรรมชาติ กล่าวว่า ประกาศค่ารื้อถอนแหล่งเอราวัณราว 2,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ประมาณ 200 แท่น) และแหล่งบงกช 1,000 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 100 แท่น) โดยการประมาณการนี้ทางกระทรวงพลังงานได้ให้บุคคลที่ 3 เข้ามาร่วมประเมินมูลค่าที่เหมาะสมด้วย อย่างไรก็ตาม ทางกลุ่มผู้ได้สัมปทานมีความเห็นเบื้องต้นว่า ในแท่นขุดเจาะใดที่ไม่ต้องรื้อถอน ก็ไม่ควรต้องจ่ายค่ารื้อถอน ซึ่งก็ต้องนำมาพิจารณาก่อน