Phones





CIMBTแจ้งผลประกอบการQ1/65 กำไรพุ่งแรง 210.9%

2022-04-21 18:08:49 252



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – CIMBT ประกาศกำไรสุทธิไตรมาส 1/65 จำนวน 1,061 ล้านบาท เติบโต 210.9 % รับปัจจัยหนุนจากค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 14.0% จากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น เดินหน้ามุ่งเน้นโซลูชั่นทางการเงินอย่างยั่งยืน และตอบความต้องการลูกค้าอย่างตรงจุด
 
นายพอล วอง ชี คิน กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคาร ซีไอเอ็มบี ไทย จำกัด (มหาชน) หรือ CIMBT เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานของกลุ่มธนาคารงวดไตรมาส 1/65 มีกำไรสุทธิจำนวน 1,061.0 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 210.9% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน สาเหตุหลักเกิดจากการควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้นส่งผลให้ค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 14.0% และผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นลดลง 64.0% ในขณะที่รายได้จากการดำเนินงานลดลง 0.8%
 
ขณะที่รายได้จากการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/65 มีจำนวน 3,484.1 ล้านบาท ลดลง 0.8% เมื่อเทียบช่วงเดียวกันกับปีก่อน เนื่องจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยสุทธิ 6.2% จากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ และการลดลงของรายได้ค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิ 6.5% เกิดจากการเพิ่มขึ้นของค่าใช้จ่ายค่าธรรมเนียมและบริการสุทธิกับรายได้จากการดำเนินงานอื่นเพิ่มขึ้น 24.1% สาเหตุหลักมาจากการเพิ่มขึ้นของกำไรสุทธิจากเครื่องมือทางการเงินที่วัดมูลค่าด้วยมูลค่ายุติธรรมผ่านกำไรหรือขาดทุนและรายได้อื่น
 
ในส่วนของค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานลดลง 14.0% เนื่องจากการเพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการเพื่อควบคุมค่าใช้จ่ายที่ดีขึ้น ทำให้อัตราส่วนค่าใช้จ่ายในการดำเนินงานต่อรายได้จากการดำเนินงานสำหรับงวดสามเดือนสิ้นสุดวันที่ 31 มี.ค.65 อยู่ที่ 51.4% ปรับตัวดีขึ้นเมื่อเทียบกับงวดเดียวกันของปี 64 อยู่ที่ 59.3% อัตราส่วนรายได้ดอกเบี้ยสุทธิต่อสินทรัพย์เฉลี่ย (NIM) อยู่ที่ 2.8% ลดลงจากงวดเดียวกันกับปีก่อน อยู่ที่ 3.1% เป็นผลจากการลดลงของรายได้ดอกเบี้ยจากเงินให้สินเชื่อและธุรกิจเช่าซื้อ
 
สำหรับ สินเชื่อด้อยคุณภาพ (NPLs) อยู่ที่ 8,400 ล้านบาท อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ ต่อเงินให้สินเชื่อทั้งสิ้นอยู่ที่ 3.8% เพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับ ณ วันที่ 31 ธ.ค.64 อยู่ที่ 3.7% เป็นผลจากการขายสินเชื่อด้อยคุณภาพในปี 64 อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังคงมาตรฐานการอนุมัติสินเชื่อ และนโยบายการบริหารความเสี่ยงที่รัดกุมขึ้น ตลอดจนได้มีแนวทางเพิ่มประสิทธิภาพการติดตามหนี้ การดำเนินการดูแลและการแก้ไขลูกหนี้ที่ถูกผลกระทบดังกล่าวอย่างใกล้ชิด
 
ด้านอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อเงินให้สินเชื่อด้อยคุณภาพ ณ วันที่ 31 มี.ค.65 อยู่ที่ 112.0% ลดลงจากสิ้นปี 64 ซึ่งอยู่ที่ 117.5% ค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นของกลุ่มธนาคารอยู่ที่จำนวน 8,600 ล้านบาท ซึ่งเป็นเงินสำรองส่วนเกินตามเกณฑ์ธนาคารแห่งประเทศไทยจำนวน 1,500 พันล้านบาท เงินกองทุนรวมของกลุ่มธนาคาร ณ สิ้นวันที่ 31 มี.ค.65 มีจำนวน 53,600 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนรวมต่อสินทรัพย์เสี่ยง 21.9% โดยเป็นอัตราส่วนเงินกองทุนชั้นที่ 1 15.9%
 
“ผลการดำเนินงานโดยรวมมีความก้าวหน้า แม้จะยังมีความไม่แน่นอนของการฟื้นตัวจากการระบาดของ COVID-19 โดยบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ คุณภาพสินทรัพย์ปรับปรุงดีขึ้น และเห็นโมเมนตัมการเติบโตเชิงบวกในไตรมาสแรก กลยุทธ์ของธนาคารในปี 65 จะเดินหน้ามุ่งเน้นโซลูชั่นทางการเงินอย่างยั่งยืน และตอบความต้องการลูกค้าอย่างตรงจุด ผ่านการขับเคลื่อนจากธุรกิจหลัก ได้แก่ ธุรกิจรายย่อย ธุรกิจรายใหญ่ ธุรกิจบริหารเงิน โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายอาเซียนและดิจิทัลแพลตฟอร์ม” พอล วอง ชี คิน กล่าว