Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
GUNKUL คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด AAA
MAI
IDG ลุยพัฒนา Transformation+ Platform หลังรับสิทธิพิเศษภาษีจาก BOI
IPO
TEBP พร้อมระดมทุนเข้า mai ขาย IPO 90 ล้านหุ้น
บล./บลจ
Kubix ต่อยอดระบบการลงทุนในโทเคนดิจิทัล
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
กรุงศรี วางกรอบเงินบาท 31.25-31.65 ตลาดเบาบางรับคริสต์มาส
การค้า - พาณิชย์
SCB EIC ชี้ส่งออกไทยปีม้าส่อแววพยศไม่ออก ความเสี่ยงรุมเร้าเพียบ
พลังงาน - อุตสาหกรรม
SCB EIC ส่องปริมาณการใช้น้ำมันหดตัว ฉุดธุรกิจน้ำมัน
คมนาคม - โลจิสติกส์
LEO จับมือ สวนสุนันทา ปั้นนักศึกษาทุนโลจิสติกส์รุ่นที่ 3
แบงก์ - นอนแบงก์
BBL ชวนช็อปส่งท้ายปี “วันเกษตรก้าวหน้า 2568”
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
SAWAD ส่งมาตรการ “พักชำระเงินต้น” ช่วยลูกค้าประสบอุทกภัยภาคใต้
SMEs - Startup
SCBX ยื่นจดสิทธิบัตร 3 นวัตกรรมสำคัญด้าน AI
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต ผนึก AUTOBACS มอบความอุ่นใจ รับเทศกาลปีใหม่
รถยนต์
AJA จับมือพันธมิตรจีน ขับเคลื่อนอุตฯ พลังงานสะอาด
ท่องเที่ยว
TAGTHAi จับมือ BEM หนุนเส้นทางท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม
อสังหาริมทรัพย์
SAM ประเดิมปี 69 เปิดประมูลบ้าน - ทรัพย์เพื่อการลงทุน มูลค่ารวม 165 ลบ.
การตลาด
แมกซ์มาร์ท มินิมาร์ท ร่วมกับกรมการค้าภายใน ขนทัพสินค้าลดราคาลดสูงสุด 50%
CSR
SCBX ยื่นจดสิทธิบัตร 3 นวัตกรรมสำคัญด้าน AI
Information
วิริยะประกันภัย ครองตำแหน่งประกันภัยรถยนต์ที่มียอดกรมธรรม์สูงสุด
Gossip
TIDLOR ได้รับอันดับความน่าเชื่อถือ “A-” จาก JCR ญี่ปุ่น
Entertainment
ออมสิน เดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการ SMEs
สกุ๊ป พิเศษ
อุทกภัยหาดใหญ่ : ตอกย้ำบทบาท คปภ. และความแข็งแกร่งระบบประกันภัยไทย
SCB EIC ชี้ส่งออกไทยปีม้าส่อแววพยศไม่ออก ความเสี่ยงรุมเร้าเพียบ
2025-12-27 16:10:40
94
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – SCB EIC มองส่งออก พ.ย. ยังโตต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 17 รับแรงหนุนจากสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และส่งออกไปสหรัฐฯ แต่คาดว่าในปี 69 มีแนวโน้มกลับมาหดตัวจากหลายปัจจัยกดดัน ขณะที่มูลค่าการนำเข้าสินค้าเร่งตัวสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะแผงวงจรไฟฟ้า ส่งผลให้ไทยขาดดุลการค้าต่อเนื่อง
เมื่อวันที่ 27 ธันวาคม 2568 ศูนย์วิจัยเศรษฐกิจและธุรกิจ ธนาคารไทยพาณิชย์ (SCB EIC) ระบุว่า มูลค่าส่งออกสินค้าเดือน พ.ย. 2568 อยู่ที่ 27,445.6 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัว 7.1% จากช่วงเดียวกันปีก่อน และเพิ่มขึ้นจาก 5.7% ในเดือนก่อน ซึ่งใกล้เคียงกับที่ SCB EIC ประเมินไว้ที่ 7% โดยแม้ตัวเลขยังขยายตัวได้ต่อเนื่องแต่เริ่มเห็นถึงสัญญาณการชะลอตัวชัดเจนมากขึ้น สะท้อนจากการส่งออกปรับฤดูกาลที่หดตัว -2.3%MOM_SA ต่อเนื่องจาก -1.2%MOM_SA ในเดือนก่อน ทั้งนี้ภาพรวมมูลค่าส่งออกสะสม 11 เดือนแรกของปีนี้ยังขยายตัวสูง 12.6%
ทั้งนี้ การส่งออกไทยไปสหรัฐฯ ยังขยายตัวสูงในเดือน พ.ย. แม้หลายสินค้าโดนกำแพงภาษีไปแล้ว โดยขยายตัวสูงถึง 37.9% ต่อเนื่องจาก 32.9% ในเดือนก่อนแม้เผชิญกำแพงภาษี โดยสินค้าส่งออกหลักของไทยไปสหรัฐฯ 11 จาก 15 รายการขยายตัวดี โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อย่างเครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ที่ขยายตัวสูง 120% การส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ขยายตัวสูงต่อเนื่อง จากการเร่งส่งออกสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ไปสหรัฐฯ ซึ่งยังคงได้รับการยกเว้นอัตราภาษีตอบโต้ วัฏจักรขาขึ้นของสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และแนวโน้มการลงทุนในอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์และ Data center ที่ขยายตัวทั่วโลก เช่น เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบที่ขยายตัว 59.9% และแผงวงจรไฟฟ้าที่ขยายตัว 17.1% เป็นต้น
อย่างไรก็ตาม ทองคำกลายเป็นปัจจัยกดดันหลัก 2 เดือนติดต่อกัน หลังจากขยายตัวสูงตลอด 9 เดือนแรกของปี การส่งออกทองคำไม่ขึ้นรูปหดตัวสูง -51.2% ต่อเนื่องจาก -76.9% ในเดือนก่อน จากที่เคยขยายตัวสูงมากถึง 212.6% และ 144% ในเดือน ก.ย. และ ส.ค. ตามลำดับ ประเมินว่าส่วนหนึ่งเป็นผลจากปัจจัยฐานสูง เนื่องจากการส่งออกทองคำเดือน ต.ค. และ พ.ย. 2567 ที่ขยายตัวสูงถึง 169.3% และ 174.7% จากเหตุผลทางภูมิรัฐศาสตร์ตามลำดับ รวมถึงจากราคาทองคำที่ขยายตัวชะลอลงในเดือน พ.ย. หลังจากที่เพิ่มขึ้นเร็วในช่วงก่อนหน้า
สำหรับมูลค่านำเข้าสินค้าเดือน พ.ย. อยู่ที่ 30,172.5 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขยายตัวสูง 17.6% ต่อเนื่องจาก 16.3% และ 17.2% ในเดือน ต.ค. และ ก.ย. ตามลำดับ และสูงกว่าที่ประมาณการไว้มาก ทำให้ภาพรวมมูลค่านำเข้า 11 เดือนแรกปีนี้ขยายตัวสูง 12.4% ในเดือนนี้การนำเข้าอาวุธ ยุทธปัจจัย และสินค้าอื่น ๆ ขยายตัว 69.7%, สินค้าทุนขยายตัว 18.7%, ยานพาหนะและอุปกรณ์การขนส่งขยายตัว 10% และสินค้าอุปโภคบริโภคขยายตัว 8.2% ทั้งนี้ การนำเข้าเชื้อเพลิงเป็นหมวดเดียวที่หดตัวสูงราว -16.7% ต่อเนื่องจาก -9.8% ในเดือนก่อน ซึ่งการนำเข้าที่ขยายตัวสูงเป็นผลจากการนำเข้าแผงวงจรไฟฟ้าที่ขยายตัวถึง 195.1% เร่งขึ้นจาก 33.3% ในเดือนก่อน โดยเฉพาะจากไต้หวันที่ขยายตัวสูงถึง 605.1% และคิดเป็น 82.9% ของการนำเข้าแผงวงจรไฟฟ้าทั้งหมดในเดือนนี้
โดยดุลการค้า (ระบบศุลกากร) เดือนนี้ขาดดุลสูงต่อเนื่อง -2,726.9 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และขาดดุลสูงกว่าคาดมาก เป็นผลจากการนำเข้ายังเร่งตัวสูงต่อเนื่อง โดยเฉพาะในสินค้าแผงวงจรไฟฟ้าจากไต้หวัน ส่งผลให้ดุลการค้าสะสม 11 เดือนแรกของปี 2568 ขาดดุล -4,956 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
ทั้งนี้ มูลค่าส่งออกที่ขยายตัวสูงเป็นประวัติการณ์ในช่วง 11 เดือนแรกของปี 2568 ได้แรงหนุนจากหลายปัจจัย ได้แก่ 1. วัฏจักรสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ ซึ่งเกาะกระแสความต้องการโลกและเป็นสินค้าส่งออกหลักของไทย, 2. ความรุนแรงของนโยบายภาษีนำเข้าสหรัฐฯ ต่ำกว่าที่ประกาศไว้ในช่วงแรก อีกทั้ง การจัดเก็บภาษีได้ถูกชะลออกไปในหลายส่วน เช่น ในสินค้าอิเล็กทรอนิกส์บางชนิด ซึ่งส่งผลให้เศรษฐกิจโลกและการค้าได้ผลกระทบจากนโยบายภาษีนำที่ค่อนข้างจำกัดและยังขยายตัวได้ดี, 3. การส่งออกทองคำที่สูงจากราคาที่สูงขึ้นและความต้องการทองที่สูงขึ้นท่ามกลางความไม่แน่นอน รวมทั้งการส่งออกทองคำพิเศษไปอินเดียในช่วงไตรมาส 1/2568 และ 4. ปัจจัยฐานต่ำในช่วงครึ่งแรกของปี 2567
อย่างไรก็ตาม แม้ส่งออกจะขยายตัวดีในปี 2568 แต่ SCB EIC ประเมินว่าการส่งออกของไทยในปี 2569 จะมีแนวโน้มหดตัว -1.5% โดยมีสาเหตุสำคัญจาก 1. เศรษฐกิจโลกและปริมาณการค้าโลกในปี 2569 ที่มีแนวโน้มเติบโตชะลอลงจากผลกระทบจากมาตรการภาษีของสหรัฐฯ ภายใต้รัฐบาลทรัมป์ที่เริ่มส่งผลชัดเจน และเต็มรูปแบบมากขึ้น, 2. ปัจจัยหนุนในปี 2568 ที่จะเริ่มหมดไป เช่น การเร่งผลิตและส่งสินค้าไปสหรัฐฯ (Front-load) การส่งออกทองคำพิเศษไปอินเดีย เป็นต้น, 3. ปัจจัยฐานสูงในปี 2568 โดยเฉพาะในช่วงครึ่งแรกของปี
4. การแข่งขันในตลาดโลกสูงขึ้น เนื่องจากทั่วโลกต้องการกระจายความเสี่ยงออกจากตลาดสหรัฐฯ และ 5. ผลกระทบจากเงินบาทแข็งค่า ทำให้ไทยสูญเสียความสามารถในการแข่งขันโดยเปรียบเทียบ โดยเฉพาะสินค้าส่งออกที่ใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก (ไม่มี Natural-hedge) ทั้งนี้เงินบาทแข็งค่ามากกว่า 9% นับตั้งแต่ต้นปี 2568 สูงเกือบที่สุดในภูมิภาค ยกเว้นเพียงเมียนมา โดยจะมีแนวโน้มอ่อนค่าลงได้ตั้งแต่ในช่วงไตรมาส 2/2569 สอดคล้องกับประมาณการของกระทรวงพาณิชย์ที่ช่วง -3.3% ถึง 1.1% (ตัวเลขระบบศุลกากร)
นอกจากนี้ ในระยะข้างหน้าส่งออกไทยอาจเผชิญปัจจัยเสี่ยงด้านต่ำที่ต้องจับตาใกล้ชิดเพิ่มเติมจากภาษีนำเข้าเพิ่มเติมจาก 1. สหรัฐฯ เช่นภาษีเฉพาะเจาะจงรายสินค้า (Sectoral tariff) โดยเฉพาะสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และภาษีสวมสิทธิ์ Transshipment tariff) ซึ่งภาษีทั้งสองรูปแบบมีอัตราภาษีสูงกว่าที่ 19% ที่ไทยเผชิญอยู่ในปัจจุบัน, 2. ความสัมพันธ์ระหว่าง จีน-สหรัฐฯ โดยเฉพาะการค้ากลับมาตึงเครียดอีกครั้ง อาจส่งผลกระทบด้านลบต่อเศรษฐกิจโลกและการค้าโลก, 3. ข้อตกลงการค้าไทย-สหรัฐฯ ยังไม่แน่นอนสูง อีกทั้ง กรณีความขัดแย้งไทย-กัมพูชา อาจทำให้การเจรจากับสหรัฐฯ ล่าช้า หรือไทยเสียเปรียบในการเจรจามากขึ้น และ 4. ปัญหาสินค้าจีนและสหรัฐฯ ทะลักในตลาดโลกมากขึ้น กระทบความสามารถในการแข่งขันของสินค้าไทยทั้งในและต่างประเทศ
GUNKUL คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด AAA
KBANK หนุนภาคธุรกิจก้าวสู่ Net Zero - TEGH คว้าหุ้นยั่งยืนระดับ ‘AAA’ 2 ปีซ้อน
EPG จับมือ FIBO KMUTT ยกระดับองค์กรด้วย AI - TTB โชว์ผลงานช่วยลูกหนี้ วงเงินกว่า 4 หมื่นล.
EPG จับมือ FIBO KMUTT ยกระดับองค์กรด้วย AI
EP ปลดล็อก! COD วินด์ฟาร์มเวียดนาม "CBTN–PTMN" ขนาด 99 MW
WSOL จับมือ FPT บิ๊กไอทีเวียดนาม ขยายธุรกิจในไทย - SAFE กูรูหุ้นเชียร์ "ซื้อ" เป้าสูงสุด 9.70 บ.