Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
NRF มั่นใจเหตุการณ์อิสราเอล-อิหร่าน และเงินบาทอ่อน ไม่กระทบธุรกิจ
MAI
DOD แย้มผลงานโค้งแรกสดใส ออเดอร์รายใหญ่เต็มมือ
IPO
ก.ล.ต. นับหนึ่งไฟลิ่ง CHAO ลุยขาย IPO ไม่เกิน 87.7 ล้านหุ้น
บล./บลจ
KH Academy จัด Workshop ฝึกทักษะวิชาชีพการเงิน-การลงทุน
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC เดาใจ กนง. ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง สู่ระดับ 2.00%
การค้า - พาณิชย์
TikTok ผนึก SME D Bank เสริมทักษะดิจิทัล – แหล่งเงินทุนแก่เอสเอ็มอี
พลังงาน - อุตสาหกรรม
EA จับมือ BAFS ลุยส่งเสริมใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
คมนาคม - โลจิสติกส์
PD เปิดแผนปี 67 ลุย 2 โครงการใหม่ เล็งขายทรัพย์สินเข้ากอง REIT กว่า 3 พันล.
แบงก์ - นอนแบงก์
ออมสิน เปิดให้กู้โครงการ “สินเชื่อออมสินรีไฟแนนซ์เพื่อสังคม”
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด ขึ้น XD 24 เม.ย. 67
SMEs - Startup
SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนรอบ Seed Round ใน Guardrails AI
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต ผนึกกำลัง AIS มอบประกันภัยกลุ่มฟรีแก่ลูกค้า
รถยนต์
GPI โชว์ยอดจองรถงาน “มอเตอร์โชว์” 58,611 คัน
ท่องเที่ยว
ttb analytics ประเมินเงินสะพัดกว่า 4.2 หมื่นล.ในช่วงสงกรานต์ปี 67
อสังหาริมทรัพย์
BAM จัดแคมเปญ “BAM Big Thanks ลดลืมต้นทุน ขอบคุณลูกค้า”
การตลาด
NAM จับมือ Somnics, Inc. ขยายตลาดสินค้ากลุ่มฺ Healthcare
CSR
SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนรอบ Seed Round ใน Guardrails AI
Information
“บิทูเมน มารีน” บริษัทลูก TASCO ลงนามสัญญาต่อเรือขนส่งยางมะตอย เสริมศักยภาพกองเรือ
Gossip
“KTMS” ขึ้นแท่นหุ้นฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม TOP 3 ของประเทศ
Entertainment
พิพิธภัณฑ์ครุฑ โดย ทีเอ็มบีธนชาต คว้าคะแนนเต็ม “องค์กรคุณธรรม” ประจำปี 66
สกุ๊ป พิเศษ
NER เดินหน้าโตแกร่ง ควบคู่เน้น ESG
ภาคท่องเที่ยวได้แรงหนุนจากการยกเลิกระบบ Test & Go
2022-04-26 18:39:17
11931
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ – วิจัยกรุงศรีประเมินภาคท่องเที่ยวได้แรงหนุนจากการยกเลิกระบบ Test & Go ขณะที่รัฐบาลวางแนวทางจัดทำแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจ หนุนการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว
เมื่อวันที่ 26 เมษายน 2565 วิจัยกรุงศรี ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY ประเมินสถานการณืการท่องเที่ยวของไทย หลังทางการผ่อนคลายมาตรการเดินทางเข้าประเทศเพิ่มเติม เพื่อหนุนการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยว ล่าสุดการประชุมของคณะกรรมการบริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (ศบค.) เห็นชอบยกเลิกการตรวจ RT-PCR สำหรับผู้เดินทางเข้าไทยที่ได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ รวมถึงปรับลดวงเงินประกันสำหรับผู้เดินทางเป็น 10,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ จาก 20,000 ดอลลาร์สหรัฐ รวมทั้งยังเห็นชอบปรับระดับพื้นที่ตามสถานการณ์การระบาด เหลือเป็นพื้นที่เฝ้าระวังสูง(สีเหลือง) 65 จังหวัด และพื้นที่นำร่องท่องเที่ยว (สีฟ้า) 12 จังหวัด โดยมีผลตั้งแต่วันที่ 1 พ.ค.นี้
แม้ภาคท่องเที่ยวจะมีสัญญาณเชิงบวกจากการยกเลิกระบบ Test & Go และผ่อนคลายเงื่อนไขการเดินทางเข้าประเทศเพื่ออำนวยความสะดวกและให้มีความเหมาะสมสอดคล้องกับสถานการณ์ในปัจจุบันที่หลายๆประเทศทั้งในยุโรปและเอเชียได้ผ่อนคลายมาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศมากขึ้น และล่าสุดสหรัฐฯ ได้ปรับไทยออกจากกลุ่มประเทศที่มีความเสี่ยงสูงสุดจากการระบาดของโควิด-19 หรือระดับ 4 (เตือนให้หลีกเลี่ยง) มาอยู่ในระดับ 3 ซึ่งแนะนำให้ฉีดวัคซีนโควิด-19 ก่อนเดินทางเท่านั้น โดยในช่วงไตรมาสแรกของปีนี้นักท่องเที่ยวสหรัฐฯ ที่เดินทางมาไทยมีจำนวนสูงสุดเป็นอันดับ 5 รองจากรัสเซีย เยอรมนี สหราชอาณาจักร และฝรั่งเศส
อย่างไรก็ตาม ในปี 65 วิจัยกรุงศรียังคงคาดการณ์จำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่ 5.5 ล้านคน เนื่องจากการฟื้นตัวของภาคท่องเที่ยวในช่วงที่เหลือของปียังเผชิญกับแรงกดดันจาก 1.สงครามรัสเซีย-ยูเครน ซึ่งอาจส่งผลกระทบโดยตรงต่อนักท่องเที่ยวรัสเซีย และการวางแผนการเดินทางท่องเที่ยวเข้าไทยของนักท่องเที่ยวชาติอื่นๆ โดยเฉพาะภูมิภาคยุโรป รวมทั้งอาจส่งผลให้เกิดวิกฤตราคาพลังงานกระทบการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกชะลอลง, 2. นักท่องเที่ยวจีนที่เป็นตลาดหลัก ยังมีแนวโน้มใช้มาตรการจำกัดการเดินทางระหว่างประเทศที่เข้มงวดเพื่อควบคุมการระบาด และ 3. การแข่งขันที่เข้มข้นเพื่อช่วงชิงส่วนแบ่งตลาดนักท่องเที่ยวต่างชาติจากประเทศคู่แข่งขันสำคัญของไทยในภูมิภาคเอเชียและแปซิฟิกใต้
ขณะที่รมว.คลัง เผยว่าได้มอบหมายให้สำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) ประเมินสภาวะเศรษฐกิจของประเทศไทยใหม่เพื่อให้สอดคล้องกับสถานการณ์ปัจจุบัน รวมถึงพิจารณาว่ายังมีความจำเป็นอีกหรือไม่ในการอัดฉีดเม็ดเงินเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจ ซึ่งหากจำเป็นให้พิจารณาแหล่งเงินที่จะนำมาใช้ด้วย โดยไม่จำเป็นต้องเป็นการกู้เงิน เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์เศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว มีการใช้จ่ายเงินในระบบเศรษฐกิจเพิ่มขึ้น ทำให้รัฐสามารถจัดเก็บรายได้เพิ่มขึ้น จึงควรปล่อยให้เป็นไปตามกลไกเศรษฐกิจ
ปัจจุบันการใช้เงินกู้ตามพ.ร.ก.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ยังมีวงเงินคงเหลืออยู่ประมาณ 7.4 หมื่นล้านบาท และงบกลางเหลืออยู่ 6 หมื่นล้านบาท (กันไว้ใช้สำหรับภัยพิบัติ 3-4 หมื่นล้านบาท) ทั้งนี้ สำนักงานบริหารหนี้สาธารณะประเมินว่าหากรัฐบาลมีความจำเป็นต้องกู้เพิ่ม จะยังสามารถมีพื้นที่ทางการคลังกู้เงินเพิ่มได้อีกประมาณ 1.3 ล้านล้านบาท ถึงจะเต็มเพดานหนี้สาธารณะที่ขยายกรอบจาก 60% เป็น 70% ต่อ GDP (ล่าสุด ณ สิ้นเดือนก.พ.65 หนี้สาธารณะอยู่ที่ 60.17% ของ GDP)
อย่างไรก็ตาม รัฐบาลระบุเตรียมเปิดเวทีสาธารณะในเดือนพ.ค.นี้ เพื่อรับฟังความคิดเห็นจากทุกระดับและทุกภาคส่วน เพื่อนำข้อเสนอต่างๆ มาจัดทำเป็นแผนฟื้นฟูเศรษฐกิจที่ได้รับผลกระทบทั้งจากการระบาดของ COVID-19 และสถานการณ์ความขัดแย้งของรัสเซีย-ยูเครน
NRF มั่นใจเหตุการณ์อิสราเอล-อิหร่าน และเงินบาทอ่อน ไม่กระทบธุรกิจ
กูรูหุ้นเชียร์ซื้อ PSP เคาะเป้าราคาสูงสุด 8 บ./หุ้น
COCOCO เป้า 3 ปี รายได้แตะ 1 หมื่นล. - SPREME หุ้นเทคฯ ครบเครื่อง ลุยโรดโชว์ขาย IPO
BBL รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 1/67 พุ่ง 18% สู่ระดับ 1 หมื่นล.
SYNEX มองไตรมาส 1/67 ตลาดไอทีโต เป้ายอดขายทั้งปี 4 หมื่นล.
TSE ไถ่ถอนหุ้นกู้คืนก่อนกำหนด 1.175 พันลบ.