Phones





ALL ปรับโครงสร้างสู่ ‘Holding Company’ หวังเทิร์นอะราวด์

2022-05-11 23:13:21 260



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – ALL ประกาศปรับโครงสร้าง ภายใต้แนวคิด “All New Era” ออลล์ อินสไปร์ ยุคใหม่ ตั้งเป้าเทิร์นอะราวด์ เตรียมก้าวสู่ “โฮลดิ้ง คอมพานี” รับกระแส Mega Trend เดินหน้าแตกไลน์ธุรกิจใหม่ 3 ธุรกิจ ได้แก่ ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ ธุรกิจบริหารหนี้สิน และ ธุรกิจคาร์บอนเครดิต หวังมาร์เก็ตแคป 3 หมื่นล้านบาท ภายใน 3 ปี
 
เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2565 นายธนากร ธนวริทธิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออลล์ อินสไปร์ ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ALL เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศปรับโครงสร้างธุรกิจครั้งสำคัญ ภายใต้แนวคิด “All New Era” ออลล์ อินสไปร์ ยุคใหม่ ที่ไม่หยุดแค่อสังหาริมทรัพย์อีกต่อไป มองหาโอกาสใหม่ๆ เพื่อการพลิกฟื้นธุรกิจให้มีอัตราการเติบโตอย่างรวดเร็ว นำพาองค์กรไปสู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดด รองรับเทรนด์การเปลี่ยนแปลงของโลก พร้อมตั้งเป้าเทิร์นอะราวด์ 
 
ทั้งนี้ บริษัทเตรียมก้าวสู่การเป็น “โฮลดิ้ง คอมพานี” เพิ่มความคล่องตัวในการขยายธุรกิจไปสู่ธุรกิจใหม่ที่สามารถสร้างรายได้อย่างต่อเนื่อง รองรับการเติบโตอย่างยั่งยืนในระยะยาวและเพื่อให้บรรลุเป้าหมายตามที่ตั้งไว้ โดยผ่าน 3 กลยุทธ์ทางธุรกิจ ได้แก่ 1.ธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) รูปแบบการดำเนินงานคือ การจัดตั้งบริษัทใหม่พร้อมจับมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ รวมถึงการควบรวมกิจการและพร้อมเข้าประมูลกับสถาบันการเงิน
 
2.ธุรกิจบริหารหนี้สิน เป็นการเข้าซื้อหนี้เสียมาบริหาร ปรับปรุงโครงสร้างหนี้ อาทิ สินเชื่อส่วนบุคคล สินเชื่อบัตรเครดิต หรือหนี้อื่นๆ และมีแผนร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจ โดยตั้งเป้าซื้อหนี้เข้ามาบริหารภายในปีแรกราว 500-1,000 ล้านบาท และ 3.ธุรกิจคาร์บอนเครดิต Carbon Credits ได้มีการร่วมทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจระดับโลก โดยรูปแบบการดำเนินธุรกิจ One Stop Service ซื้อ ขาย พัฒนา คาร์บอนเครดิต ผ่านบล็อกเชน รายแรกของประเทศไทย
 
สำหรับเงินทุนที่จะใช้รองรับการแตกไลน์ธุรกิจใหม่นั้น บริษัทจะมีการเพิ่มทุนราว 1,400 ล้านบาท ซึ่งเป็นการออกหุ้นเพิ่มทุนให้กับพันธมิตรที่จะเข้ามาร่วมดำเนินธุรกิจ ในส่วนของธุรกิจอสังหาริมทรัพย์นั้น บริษัทอาจลดการลงทุนโครงการใหม่ๆ แต่จะเน้นการระบายสต็อกที่ปัจจุบันมีมูลค่าโครงการรวมประมาณ 8,000 ล้านบาท โดยสัดส่วนธุรกิจในปี 65 ของบริษัทแบ่งเป็น ธุรกิจบริหารสินทรัพย์สัดส่วน 30%, ธุรกิจบริหารหนี้สิน สัดส่วน 30%, ธุรกิจคาร์บอนเครดิต สัดส่วน 30% และธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ สัดส่วน 10%
 
“การปรับโครงสร้างธุรกิจจะทำให้บริษัทมีพอร์ตธุรกิจที่หลากหลายมากขึ้น ช่วยกระจายความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ และการตั้งเป้าเทิร์นอะราวด์ ให้ธุรกิจกลับมาเติบโตได้อย่างรวดเร็วมากขึ้น รวมถึงสามารถปรับตัวและรับมือปัจจัยภายนอกได้เหมาะสมกับแต่ละประเภทธุรกิจมากขึ้น การเปลี่ยนแปลงครั้งนี้ จะเป็นก้าวสำคัญสู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดยมั่นใจว่าทั้ง 3 ธุรกิจ จะสามารถสร้างรายได้และกำไรในอัตราผลตอบแทนที่สูงได้อย่างรวดเร็ว พร้อมเสริมสร้างศักยภาพในการเติบโตของบริษัทให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นในอนาคต" นายธนากร กล่าว