Phones





พลังงานผุดโรงไฟฟ้าชุมชน"NER-UAC"ร่วม

2019-10-09 19:19:38 294




นิวส์ คอนเน็คท์ - ก.พลังงานเปิดโมเดลโรงไฟฟ้าชุมชน เรียกเอกชน หน่วยงานภาครัฐ ระดมสมอง วางเกณฑ์การลงทุนพร้อมดึงชุมชนถือหุ้น หวังสรุปได้ภายใน 1 เดือนมั่นใจ 6 เดือนแรกปี 63 ผุดโรงไฟฟ้าเฟสแรก ขณะที่ NER - UAC พร้อมเข้าร่วม


เมื่อวันที่ 9 ตุลาคม 2562 นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยภายหลังเปิดรับฟังคิดเห็นภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐในการลงทุนพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนที่กระทรวงพลังงาน ว่า การประชุมในวันนี้ถือว่าประสบความสำเร็จได้รับความสนใจจากภาคเอกชน หน่วยงานภาครัฐ สถาบันการเงินเข้าร่วมจำนวนมาก


เบื้องต้นทางกระทรวงพลังงานได้กำหนดรูปแบบการลงทุนไว้แล้วโดยให้มีการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน 7 รูปแบบ คือ 1.โรงไฟฟ้าเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ 2.ก๊าซชีวภาพบวกพลังงานแสงอาทิตย์ 3.เชื้องเพลิงชีวมวล 4.เชื้อเพลิงชีวมวลบวกพลังงานแสงอาทิตย์ 5.ชีวภาพน้ำเสีย 6.ชีวภาพน้ำเสียบวกพลังงงานแสงอาทิตย์ 7.พลังงานแสงอาทิตย์ พร้อมกำหนดให้หุ้นบุริมสิทธิแก่ชุมชนในสัดส่วน 10-30% และให้ส่วนแบ่งรายได้แก่ชุมชน 25 สตางค์ต่อหน่วย


สำหรับกรอบนโยบายการพัฒนาโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น ต้องการสร้างรายได้กับชุมชนเพื่อให้เกิดความเข้มแข็งให้กับชุมชน โดยจะมีการกำหนดพื้นที่เป้าหมายที่ตั้งโรงไฟฟ้า ซึ่งต้องเป็นพื้นที่มีศักยภาพด้านพลังงานหมุนเวียน โดยเฉพาะวัสดุเหลือใช้ทางการเกษตร เช่น ฟางข้าว ซังข้าวโพด รวมถึงพืชพลังงานอย่างหญ้าเนเปียร์ พร้อมมีระบบจัดจำหน่ายสายส่งไฟฟ้าที่สามารถรองรับไฟฟ้าที่ผลิตได้จากชุมชนได้


โดยแนวทางการจัดตั้งโรงไฟฟ้าดังกล่าว จะเป็นการร่วมลงทุนระหว่าง เอกชนและชุมชน ซึ่งมีเงื่อนไขที่ให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนในการก่อสร้างจนแล้วเสร็จ และเปิดให้ชุมชนเข้ามาถือหุ้นในสัดส่วนที่เหมาะสมในขั้นตอนของการดำเนินการผลิตไฟฟ้าเชิงพาณิชย์


อย่างไรก็ตาม ขั้นตอนหลังจากรับความคิดเห็น ทางกรมพัฒนาพลังงานทดแทนและอนุรักษ์พลังงานจะเป็นแม่งานในการรวบรวมความคิดเห็นไปดำเนินการสรุปรูปแบบการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลาประมาณ 1 เดือน หลังจากนั้นก็จะสามารถประกาศแผนอย่างเป็นทางการ ทั้งนี้กระทรวงพลังงานตั้งเป้าในช่วง 6 เดือนแรกปี 2563 เริ่มดำเนินโครงการได้ในเฟสแรกได้ประมาณ 250 โครงการ ซึ่งในจำนวนนี้รวมโครงการโรงไฟฟ้า Quick win ประมาณ 10 โครงการ


นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER เปิดเผยว่า ปัจจุบันบริษัทมีโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพจำนวน 2 โครงการ กำลังการผลิตรวม 4 เมกะวัตต์ ใช้เงินลงทุน 500 ล้านบาทที่จะเสนอเป็นโครงการโรงไฟฟ้า Quick win โดยในจำนวนนี้จะเดินเครื่องโครงการแรกในเดือน พ.ย. 2562 และโครงการที่ 2 จะเดินเครื่องเดือน ธ.ค. 62 ซึ่งในเบื้ต้นจะเป็นการจ่ายไฟฟ้าใช้ในโรงงานของตัวเอง หลังจากได้เข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนถึงจะได้รับใบอนุญาตซื้อขายไฟฟ้า (PPA) และจำหน่ายไฟฟ้าเข้าระบบได้


โดยโครงการดังกล่าวนั้นใช้เชื้องเพลิงหญ้าเนเปียร์กับมูลสัตว์ ซึ่งบริษัทมีหญ้าเนเปียร์ไว้จำนวน 1,200 ไร่ และส่งเสริมชุมชนปลูกอีก 400 ไร่ ดังนั้นหากชุมชนร่วมถือหุ้นในโรงไฟฟ้าดังกล่าว ผลประโยชน์ย่อมตกไปสู่ชุมชนอย่างแน่นอนโดยโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพนี้ให้ผลตอบแทนจากการลงทุน (IRR) ราว 15-16% ส่วนราคารับซื้อไฟโรงไฟฟ้าชุมชน ส่วนตัวมองว่าควรอยู่ที่ระดับ 4.50-5.50 บาทต่อหน่วย เนื่องจากจะต้องแบ่งส่วนหนึ่งไปยังชุมชน ซึ่งกระทรวงพลังงานเสนอไว้ที่ 25 สตางค์ต่อหน่วย


ด้านนายกิตติ ชีวะเกตุ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ยูเอซี โกลบอล จำกัด (มหาชน) หรือ UAC กล่าวว่า ปัจจุบันบริษัทมีโครงการโรงไฟฟ้าก๊าซชีวภาพอยู่ 2 โครงการรวมกำลังการผลิต 3 เมกะวัตต์ที่พร้อมเสนอเข้าร่วมโครงการในรูปแบบโครงการโรงไฟฟ้า Quick win หลังจากนั้นก็จะพิจารณาขยายการลงทุนต่อเนื่อง เนื่องจากบริษัทมีโครงการอยู่ในมือกว่า 10 โครงการที่เคยเตรียมจะลงทุนไว้ก่อนหน้านั้นก่อนกระทรวงพลังงานจะชะลอแผนการสนับสนุนเมื่อหลายปีก่อน