Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
PTG ส่ง 'โกลัค' บริหารแฟรนไชส์ 'ซับเวย์' - STX ดีเดย์เทรด mai วันแรก นำเงินขยายเหมืองหิน
MAI
STX รับออเดอร์หินขนาดใหญ่กว่า 100 ล. โครงการท่าเรือแหลมฉบัง ระยะ 3
IPO
SPREME เตรียมขาย IPO จำนวน 200 ล้านหุ้น
บล./บลจ
กบข. ปรับโฉมแอปใหม่ ตอบโจทย์ความต้องการของสมาชิก
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC เดาใจ กนง. ลดดอกเบี้ย 2 ครั้ง สู่ระดับ 2.00%
การค้า - พาณิชย์
TikTok ผนึก SME D Bank เสริมทักษะดิจิทัล – แหล่งเงินทุนแก่เอสเอ็มอี
พลังงาน - อุตสาหกรรม
EA จับมือ BAFS ลุยส่งเสริมใช้น้ำมันเชื้อเพลิงอากาศยานแบบยั่งยืน
คมนาคม - โลจิสติกส์
SJWD เซ็นสัญญารับงาน ‘กลุ่มแอสเซทไวส์’
แบงก์ - นอนแบงก์
BAY เปิดกลยุทธ์ปี 67 รุกกลุ่มลูกค้าธุรกิจญี่ปุ่น - บรรษัทข้ามชาติ
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
TIDLOR อนุมัติจ่ายปันผลเป็นหุ้น-เงินสด ขึ้น XD 24 เม.ย. 67
SMEs - Startup
SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนรอบ Seed Round ใน Guardrails AI
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต รับรางวัลสุดยอดองค์กรธุรกิจไทย
รถยนต์
GPI โชว์ยอดจองรถงาน “มอเตอร์โชว์” 58,611 คัน
ท่องเที่ยว
ttb analytics ประเมินเงินสะพัดกว่า 4.2 หมื่นล.ในช่วงสงกรานต์ปี 67
อสังหาริมทรัพย์
ศุภาลัย ผนึก ทีโอเอ ปั้นนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว
การตลาด
SCGD x COTTO ชูแนวคิด ‘Reform the new Sustainability, made by you’ ในงานสถาปนิก’ 67
CSR
SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนรอบ Seed Round ใน Guardrails AI
Information
วิริยะประกันภัย รวมพลังจิตอาสาสร้างโป่งเทียมแหล่งอาหารช้างป่า ผืนป่าภาคตะวันออก
Gossip
UMI ร่วมออกบูธงานสถาปนิก’ 67
Entertainment
fintips by ttb ชวนพิชิตหนี้ด้วย 3 สิ่งต้องรู้
สกุ๊ป พิเศษ
NER เดินหน้าโตแกร่ง ควบคู่เน้น ESG
SCB CIO แนะสะสมหุ้นกู้เอกชนทั่วโลกระดับA-ขึ้นไป
2022-05-26 20:35:29
1294
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - SCB CIO ประเมินเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเริ่มทยอยลดอัตราเร่งลงในช่วงครึ่งปีหลังของปีนี้ ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯมีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่ชะลอตัวลง ส่งผลให้เส้นอัตราผลตอบแทนของพันธบัตรเริ่มทยอยปรับลดลง มองเป็นโอกาสในการทยอยสะสมตราสารหนี้ต่างประเทศ และไทย ประเภทหุ้นกู้ชั้นดีของเอกชน ที่มีเรตติ้งระดับ A- ขึ้นไป
เมื่อวันที่ 26 พฤษภาคม 2565 นายศรชัย สุเนต์ตา ผู้ช่วยผู้จัดการใหญ่ ผู้บริหารฝ่าย SCB Chief Investment office (SCB CIO) ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า ภาพรวมการลงทุนในตลาดสินทรัพย์เสี่ยง เช่น ตลาดหุ้นโลก ยังมีความไม่แน่นอนสูง จึงประเมินการลงทุนในตลาดตราสารหนี้และกองทุนตราสารหนี้ เห็นว่าระดับราคาในปัจจุบัน เริ่มมีความน่าสนใจ จากการที่อัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ทั้งอัตราดอกเบี้ยพันธบัตรระยะสั้นและระยะยาวเริ่มปรับตัวขึ้นถึงระดับที่คาดว่ารับข่าวการขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายที่จะเกิดขึ้นอีกหลายครั้งในอนาคตตลอดทั้งปี 65 ไปแล้ว แม้ว่าความผันผวนในตลาดตราสารหนี้ยังคงมีอยู่ก็ตาม
ทั้งนี้ SCB CIO จึงแนะนำให้เริ่มทยอยลงทุนในตราสารหนี้ภาคเอกชนและกองทุนตราสารหนี้ ทั้งตราสารต่างประเทศและตราสารหนี้ไทยที่มีอันดับเครดิตมีความน่าเชื่อถือสูง ( Investment Grade ) เช่น หุ้นกู้ของบริษัทเอกชนที่มีอันดับตั้งแต่ A – ขึ้นไป โดยสามารถเพิ่มอายุเฉลี่ยการลงทุน และลงทุนในตราสารหนี้ที่มีอายุยาวขึ้นได้ แต่ให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในกองทุน high yield กลุ่มตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ (Non-Investment Grade) และตราสารหนี้ที่จ่ายดอกเบี้ยสูงแต่มีระดับ credit rating ต่ำกว่าอันดับที่สามารถลงทุนได้ (High Yield) เพราะเศรษฐกิจข้างหน้ามีแนวโน้มที่จะชะลอตัวลงอาจจะส่งผลต่อความสามารถในการชำระหนี้ของบริษัทที่มี balance sheet ไม่แข็งแรงได้
สำหรับภาพรวมการลงทุนในตลาดตราสารหนี้โลก ตั้งแต่ต้นปียังคงได้รับผลกระทบจากราคาตราสารหนี้ที่ปรับตัวลดลงมาก เนื่องจากผลกระทบของทิศทางดอกเบี้ยขาขึ้นที่รวดเร็วและขนาดการขึ้นที่ใหญ่กว่าเดิม นำโดยการปรับขึ้นดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (Fed) เช่นเดียวกับตลาดหุ้นที่ได้รับผลกระทบราคาหุ้นปรับตัวลดลงมากทั่วโลก หากพิจารณาผลตอบแทนของตราสารหนี้ในทุกกลุ่มตั้งแต่ต้นปี ติดลบเกือบทั้งหมด โดยเฉพาะตราสารหนี้ที่มีอายุเฉลี่ย (duration) ยาวและตราสารหนี้ที่มีอันดับความน่าเชื่อถือต่ำ (Non-Investment Grade) รวมถึงตราสารประเภทที่จ่ายผลตอบแทนสูงแต่ถูกจัดอันดับต่ำกว่าอับดับที่ลงทุนได้ (High Yield)
โดยการลงทุนในตราสารหนี้ในช่วงที่ผ่านมา ได้รับผลกระทบมากจากการที่ Fed มีการเปลี่ยนแนวโน้มการขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเข้าสู่การขึ้นดอกเบี้ยอย่างรุนแรงและรวดเร็วเพื่อควบคุมระดับเงินเฟ้อที่ปรับตัวขึ้นสูงสุดในรอบ 40 ปี ประกอบกับการที่มีภาวะเงินทุนไหลออกจากตลาดตราสารหนี้โลกและสหรัฐฯ ในช่วงที่เงินเฟ้อและสงครามรัสเซีย-ยูเครนปะทุความรุนแรงทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ลดขนาดของการลงทุนลง หันมาเพิ่มการถือครองเงินสดและถือสภาพคล่องมากกว่าระดับสถานการณ์ปกติ ทำให้เส้นอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาล (Government Yield Curve) และเส้นอัตราผลตอบแทนดอกเบี้ยหุ้นกู้ภาคเอกชน (Corporate Yield Curve) ต่างปรับสูงขึ้นอย่างรวดเร็วในช่วงก่อนหน้า ส่งผลให้ราคาพันธบัตรและหุ้นกู้ภาคเอกชนปรับลดลงมาก
ขณะที่ตลาดตราสารหนี้โลกรับรู้ผลกระทบ (price in) ในประเด็นดอกเบี้ยขาขึ้นและผลกระทบต่อตลาดตราสารหนี้โลกไปแล้ว มองว่าในปัจจุบันตลาดตราสารหนี้เริ่มกลับมามีความน่าสนใจ สังเกตจากการที่อัตราดอกเบี้ยพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ อายุ 10 ปี ได้ปรับขึ้นจากระดับเฉลี่ยในช่วงต้นปีที่ 1.5% ต่อปี มาอยู่ที่ระดับ 2.8-3% ต่อปี ในปัจจุบัน ซึ่งนับเป็นการเพิ่มขึ้นถึงเท่าตัวในช่วงเวลาเพียง 5 เดือน
ทั้งนี้ SCB CIO ประเมินระดับเงินเฟ้อในสหรัฐฯ มีแนวโน้มผ่านจุดสูงสูดในช่วงไตรมาส 2 และกำลังจะทยอยปรับลดลงในระยะข้างหน้าถึงแม้เงินเฟ้ออาจปรับลดลงช้ากว่าที่คาดจากเรื่องภาวะสงครามและวิกฤตพลังงานและอาหารที่ยังอาจเกิดขึ้นได้ อย่างไรก็ตาม มองว่าทิศทางภาพใหญ่ของแนวโน้มเงินเฟ้อและดอกเบี้ยเริ่มอยู่ในช่วงการทยอยลดอัตราเร่งลง แม้เงินเฟ้อและระดับดอกเบี้ยพันธบัตรยังอยู่ในช่วงขาขึ้น แต่อัตราการเร่งขึ้นจะทยอยช้าลงและสามารถลดระดับลงได้ในช่วงครึ่งหลังของปีประกอบกับปัจจัยตลาดมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ เริ่มมีแนวโน้มการเติบโตในอัตราที่ชะลอลงอย่างต่อเนื่อง ทำให้คาดได้ว่าอนาคต เส้นอัตราผลตอบแทน (yield curve) อาจจะเริ่มทยอยปรับลดลง จึงมองโอกาสการลงทุนอยู่ในหุ้นกู้ชั้นดีของบริษัทภาคเอกชนโลก เช่น ตราสารหนี้ระดับ Investment Grade เช่น อันดับ A – เป็นต้นไป มีความน่าสนใจจากผลตอบแทนที่สูงขึ้นมาก นักลงทุนสามารถทยอยกลับเข้ามาลงทุนได้
อย่างไรก็ตาม แนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในกลุ่มตราสาร Non-Investment Grade เนื่องจากมีโอกาสการผิดนัดชำระหนี้ (default rate) อาจเพิ่มขึ้นได้ในช่วงที่เศรษฐกิจเริ่มชะลอตัว รวมถึงแนะนำให้หลีกเลี่ยงการลงทุนในหุ้นกู้ภาคเอกชนของจีน โดยเฉพาะหุ้นกู้ High Yield ของจีนในภาคอสังหาริมทรัพย์ เนื่องจากมองเศรษฐกิจจีนอยู่ในแนวโน้มชะลอตัวต่อเนื่องจากผลกระทบของการระบาดในจีนและการกลับมาใช้นโยบายปิดเมือง
สำหรับหุ้นกู้ภายในประเทศไทย เช่น หุ้นกู้ภาคเอกชน มองว่าดอกเบี้ยพันธบัตรระยะยาวของไทยได้ปรับขึ้นตามดอกเบี้ยพันธบัตรสหรัฐฯไปแล้วสะท้อนถึงความเสี่ยงที่เพิ่มขึ้นในตลาดทั่วโลกจากเงินเฟ้อสูง แม้ว่าดอกเบี้ยนโยบายของไทยยังไม่ปรับขึ้นก็ตามเพราะเศรษฐกิจไทย พึ่งเริ่มฟื้นตัวและค่าเงินบาทยังมีแนวโน้มอ่อนค่า อีกทั้ง ธนาคารแห่งประเทศไทยมีแนวโน้มคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้เพื่อสนับสนุนเศรษฐกิจ ตลาดตราสารหนี้ไทยจึงเริ่มมีความน่าสนใจมากขึ้น ทั้งจากดอกเบี้ยนโยบายไทยที่จะขึ้นช้ากว่าเมื่อเทียบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายประเทศอื่น โดยเฉพาะเมื่อเทียบกับดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ และหากจะมีการปรับขึ้น เราคาดว่าระดับการขึ้นของดอกเบี้ยนโยบายไทย จะน้อยกว่าประเทศสหรัฐ ดังนั้นการลงทุนในหุ้นกู้เอกชนไทยที่มีอันดับความน่าเชื่อถือระดับ investment grade เช่นอันดับ A – เป็นต้นไป จึงน่าสนใจทยอยเข้าลงทุนเช่นกัน
PTG ส่ง 'โกลัค' บริหารแฟรนไชส์ 'ซับเวย์' - STX ดีเดย์เทรด mai วันแรก นำเงินขยายเหมืองหิน
PTG ดัน “โกลัค” ปั้น “ซับเวย์” ขึ้นแท่น TOP 3 ตลาด QSR ภายใน 3 ปี
BWG - GULF ปิดดีลร่วมทุนโรงไฟฟ้าจากขยะอุตสาหกรรม-SRF
WICE ย้ำเป้าผลงานปี 67 โต 20% ผถห.อนุมัติจ่ายปันผล 0.24 บ./หุ้น
TWPC ไฟเขียวปันผล 0.091 บ./หุ้น รุกหนัก ตปท.หนุนรายได้ออลไทม์ไฮ
BRR ยิ้มรับ!อานิสงส์บาทอ่อน ย้ำเป้ารายได้ปีนี้โต 20% - BBIK ลุยแผนย้ายเข้าเทรด SET