Phones





BLESS เข้าเทรดวันแรกพุ่งเหนือจอง 11.43%

2022-07-07 10:41:42 361




นิวส์ คอนเน็คท์ - BLESS เข้าเทรดวันแรกพุ่งเหนือจอง 11.43% ฐานทุนแกร่งมั่นใจอนาคตสดใสลุยเปิด 2-3 โปรเจคใหม่/ปี ผลักดันผลงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเติบโตก้าวกระโดด

เมื่อวันที่ 7 กรกฎาคม 2565 บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BLESS เข้าเทรดตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ (mai) วันแรก เปิดตลาดพุ่งเหนือจอง 11.43% จากราคาไอพีโอ 1.40 บาท/หุ้น ตอกย้ำความเชื่อมั่นนักลงทุน ผู้บริหาร “ชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย”มั่นใจแนวโน้มผลงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า เติบโตก้าวกระโดด หลังเข้าตลาดฯทำให้ฐานทุนแกร่ง-เงินสดเต็มกระเป๋า พร้อมลุยซื้อที่ดิน 2-3 แปลง รับแผนบุกตลาดแนวราบที่ยังมีดีมานด์สูง วางแผนลุยเปิด 2-3 โครงการต่อปี อานิสงส์รับรู้รายได้จากโครงการ Bless Ville สุขุมวิท บางปู ช่วงครึ่งปีหลัง ฟาก FA มือทองจาก บล.ทรีนีตี้ มั่นใจ BLESS จะเป็นหุ้นอสังหาฯ High Growth-High Margin ที่สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในระยะยาว จากฐานะการเงินที่มีความแข็งแกร่ง และความสามารถทำกำไรในระดับสูง หนุนผลงานโตกระฉูด

 นายชัยวัฒน์ โกวิทจินดาชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BLESS ประกอบธุรกิจพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ประเภทที่อยู่พักอาศัยเพื่อขาย แบ่งเป็นอสังหาริมทรัพย์หลากหลายรูปแบบประกอบด้วยบ้านเดี่ยว บ้านแฝด ทาวน์โฮม และคอนโดมิเนียม ภายใต้ชื่อโครงการ Blessington, Mellizo Park, Bless Town, Blessity Park, Bless Ville และ Bleisure เปิดเผยว่า ราคาหุ้นที่พุ่งสูงและมีมูลค่าการซื้อขายคึกคัก สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯ ในฐานะผู้ประกอบการอสังหาฯที่มีรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง และจะแผนการระดมทุนและเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ จะยิ่งเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน เพิ่มโอกาสการเติบโตก้าวกระโดดในช่วง 3-5 ปีข้างหน้า

“ผมขอขอบคุณที่นักลงทุนให้การต้อนรับ BLESS อย่างอบอุ่น ทีมผู้บริหารและพนักงานบริษัทฯ พร้อมเดินหน้าขยายธุรกิจ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขัน โดยบริษัทฯเตรียมนำเงินที่ได้ไปใช้ในการซื้อที่ดิน 2-3 แปลง รองรับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 2-3 โครงการต่อปี สนับสนุนผลการดำเนินงานในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด”

สำหรับแผนการดำเนินงานในปีนี้ บริษัทฯตั้งเป้าหมายรายได้เติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดขายรอโอนที่มีกว่า 400 ล้านบาท จากการรับรู้รายได้ของโครงกา รBless Ville สุขุมวิท บางปู ที่คาดว่าจะเริ่มโอนในช่วงไตรมาส 3 ปีนี้ และกำไรขั้นต้นคาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับเดียวกันกับปีก่อนหน้า หรือไม่น้อยกว่า 30%

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร BLESS กล่าวอีกว่า ในช่วงครึ่งหลังของปีนี้ บริษัทฯ เตรียมเปิดโครงการอสังหาฯแนวราบ รองรับความต้องการของผู้บริโภคที่มีจำนวนมาก สอดคล้องกระแส New Normal ที่คนส่วนใหญ่ใช้เวลาและทำงานที่บ้าน (Work From Home) มากขึ้น โดยเตรียมเปิดโครงการ Blessington เจาะกลุ่มลูกค้าตลาดกลาง-บน คาดว่าจะเริ่มรับรู้รายได้ในปี 2566

นายอภิชาต แสงจันทร์ ผู้อำนวยการ ฝ่ายวาณิชธนกิจ บริษัทหลักทรัพย์ ทรีนีตี้ จำกัด ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงินและผู้จัดการการจัดหน่ายและรับประกันการจำหน่าย บริษัท เบล็ส แอสเสท กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) (BLESS) กล่าวว่า การเข้าเทรดในวันแรกของ BLESS ได้รับการตอบรับอย่างดีเยี่ยม เนื่องจากนักลงทุนมั่นใจปัจจัยพื้นฐานของบริษัทฯที่มีความแข็งแแกร่ง และฐานทุนมีความพร้อมมากขึ้นในการขยายตลาดแนวราบ โดยหลังการระดมทุน สัดส่วนหนี้สินต่อทุนจะลดลงจาก 1.43 เท่า ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2565 เหลือประมาณ 1.15 เท่า

“จากฐานทุนที่ใหญ่ขึ้น ผนวกกับแผนเปิดตัวโครงการใหม่ 2-3 โครงการต่อปี จะทำให้ธุรกิจของ BLESS ในช่วง 3-5 ปีข้างหน้าเติบโตอย่างก้าวกระโดด สร้างผลตอบแทนที่ดีให้กับนักลงทุนในระยะยาว ในฐานะหุ้นอสังหาฯน้องใหม่ High Growth-High Margin ที่น่าจับตามอง”

โดยในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา BLESS รายได้เติบโตเฉลี่ย 20% ต่อปี และในปี 2563 รายได้สร้างสถิติสูงสุดใหม่ แม้จะได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ก่อนที่ในปี 2564 รายได้จะลดลงเล็กน้อย เนื่องจากในปี 2563 มีการปรับลดราคา และเร่งระบายสต็อก อีกทั้งในปี 2564 ยังได้รับผลกระทบจากปัญหาการชะลอตัวของเศรษฐกิจ และการปิดแคมป์คนงาน ทำให้ไม่สามารถโอนบ้านได้ตามแผนที่กำหนด แต่บริษัทฯ ยังรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นได้กว่า 30% และกำไรสุทธิที่ไม่น้อยกว่า 10%

ทั้งนี้ BLESS มีโครงการหลากหลายทั้งคอนโดฯ ทาวน์โฮม บ้านแฝด บ้านเดี่ยว บนพื้นที่ศักยภาพ กระจายบริเวณกรุงเทพชั้นนอกและ ปริมณฑล ตอบโจทย์ลูกค้าได้ทุกความต้องการ โดยที่มีโครงการที่อยู่ระหว่างการขาย และพัฒนา ณ สิ้นไตรมาส 1 ปี 2565 มูลค่ากว่า 2,970 ล้านบาท และมีโครงการบ้านเดี่ยวที่กำลังจะเปิดตัวใหม่มูลค่า 720 ล้านบาท ทั้งนี้ โครงการของ BLESS สร้างด้วยระบบ Wall Form ที่มีความแข็งแรง และรวดเร็ว

เราประเมินมูลค่าเหมาะสมปี 2022 ที่ 9.10 บาท โดยใช้ P/E ที่ 9X โดยยังมีความน่าสนใจของเงินปันผลที่คาดจะจ่ายราว 0.51-0.57 บาท (อิง Payout ratio 61%) คิดเป็น Dividend Yield ราว 6.4-7.1% ในปี 2022-23F ความเสี่ยงหลักได้แก่ 1)การแข่งขันในธุรกิจรับเหมาก่อสร้างอาจทำให้อัตรากำไรขั้นต้นต่ำกว่าคาด 2) การชะลอการเปิดโครงการของบ.ร่วมต่างๆ 3)นโยบายการขึ้นค่าแรงขั้นต่ำในอนาคต