Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
PSP เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.05 บ./หุ้น ย้ำ! ผลงานโตกระโดด
MAI
CFARM รุกลงทุนอุตสาหกรรมโค 420 ลบ. ต่อยอดธุรกิจ
IPO
TATG เคาะราคา IPO 1.25 บาท เข้าเทรด mai ต้นเดือน ต.ค. นี้
บล./บลจ
‘Chartered Group’ รับไม้ต่อผถห.ใหญ่ ‘MFC’
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
KBANK ส่องจีดีพีโต 2.6% เกาะติดเลือกตั้งสหรัฐฯหวั่น Trade War 2.0
การค้า - พาณิชย์
พาณิชย์คิกออฟ “OCS Connect” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจการค้า
พลังงาน - อุตสาหกรรม
SSP แกร่ง! ทริสฯ คงอันดับเครดิตองค์กร "BBB+"
คมนาคม - โลจิสติกส์
"สุริยะ" สั่งการ ลงพื้นที่สนามบินเชียงรายช่วยเหลือผู้โดยสาร
แบงก์ - นอนแบงก์
KBANK เปิดตัว ‘orbix CUSTODIAN’ รับฝากสินทรัพย์ดิจิทัล
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
กรุงศรี ออโต้ คว้ารางวัลจากเวที HR Excellence Awards 2024
SMEs - Startup
KBTG ประกาศร่วมมือกับ ‘AI Singapore’ – ‘Google Research’ ลุยโครงการซีลด์
ประกันภัย - ประกันชีวิต
เมืองไทยประกันชีวิต รับรางวัลสูงสุดในงาน APEA 2024
รถยนต์
Roddonjai เสริมความรู้ผู้ประกอบการรถมือสอง จับเทรนด์ - เทคโนโลยีใหม่ ๆ
ท่องเที่ยว
‘กรุงศรี ออโต้’ – ‘ททท.’ เปิดตัวหนังสือ ‘72 เส้นทางสายศรัทธา เสริมพลังบุญ’
อสังหาริมทรัพย์
ORN จับมือ SCG ชูนวัตกรรมที่อยู่อาศัยสีเขียว
การตลาด
บัตรกดเงินสด ttb flash มอบสิทธิ์ซื้อ iPhone 16 ผ่อน 0% นาน 48 เดือน
CSR
KBTG ประกาศร่วมมือกับ ‘AI Singapore’ – ‘Google Research’ ลุยโครงการซีลด์
Information
BBLโชว์ความสำเร็จ องค์กรที่มุ่งมั่นขับเคลื่อนสู่ความยั่งยืน ในงาน Sustainability Expo 2024
Gossip
FPI ฉลุย! อัพเดทสร้างโรงงานในซาอุฯ
Entertainment
PwC เผยผลสำรวจ แรงงานไทย 65% พอใจงานที่ทำ "ลดลง"
สกุ๊ป พิเศษ
NER พร้อมปรับตัวกับยุค AI เพื่อการเติบโตที่ยั่งยืน
EXIM BANKพร้อมตรึงดอกเบี้ย โชว์พอร์ตสินเชื่อเข้าเป้า
2022-07-21 15:24:15
261
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - EXIM BANK เปิดตัว “EXIM Index” ดัชนีประเมินทิศทางการส่งออกของไทยรายไตรมาส พร้อมประกาศตรึงอัตราดอกเบี้ย Prime Rate 5.75% ต่อปี เปิดตัว “EXIM Export Ready Credit” วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำสุด 4.5% ต่อปี พร้อมโชว์ผลงานปิดเป้าสินเชื่อปี 65 จำนวน 156,500 ล้านบาทภายใน 7 เดือนแรก
เมื่อวันที่ 21 กรกฎาคม 2565 ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า ในช่วงครึ่งหลังปี 65 การส่งออกยังไปต่อได้ แต่อาจชะลอความเร็วลง จากที่ขยายตัว 12.9% ในช่วง 5 เดือนแรกปี 65 อย่างไรก็ตาม ส่งออกทั้งปีคาดว่าจะขยายตัว 6-7% ท่ามกลางภาวะเงินเฟ้อที่ทำให้สินค้าแพง ต้นทุนธุรกิจและค่าขนส่งเพิ่มสูงขึ้น ในการช่วยเหลือให้ผู้ส่งออกไทยรู้เท่าทันสถานการณ์และเตรียมพร้อมรับมือกับความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในระยะข้างหน้า
ทั้งนี้ EXIM BANK จึงริเริ่มจัดทำ “EXIM Index” นวัตกรรมด้านงานวิจัยธุรกิจที่แสดงผลเป็นดัชนีชี้วัดสภาวะส่งออกล่วงหน้า โดยใช้ข้อมูล 25 ตัวชี้วัดใน 5 มิติ ประกอบด้วยอุปสงค์ (Demand) ทิศทางเศรษฐกิจในตลาดหลักและตลาดใหม่ การส่งออกของประเทศคู่ค้า อุปทาน (Supply) ดัชนีแรงกดดันด้านห่วงโซ่อุปทานโลก การลงทุนภาคเอกชน ดัชนีผลผลิตภาคอุตสาหกรรม ราคา (Prices) ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลก ราคาอาหารและสินค้าเกษตรโลก บรรยากาศตลาด (Sentiment) ดัชนีตลาดหุ้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคในประเทศคู่ค้า และธุรกรรมของ EXIM BANK ผลลัพธ์เป็น “ดัชนีชี้นำการส่งออกของไทย” ซึ่ง ณ ไตรมาส 2/65 อยู่ที่ 100.63 ลดลงจาก 100.90 ในไตรมาส 1/65 สะท้อนว่าในระยะข้างหน้า การส่งออกไทยมีแนวโน้มชะลอตัว เป็นผลจากเศรษฐกิจคู่ค้าที่ชะลอตัวลง อาทิ สหรัฐอเมริกาและยุโรป ผู้บริโภคและนักลงทุนมีความกังวลเรื่องเศรษฐกิจถดถอยและภาวะเงินเฟ้อ ปัญหา Global Supply Chain ยังมีอยู่ ส่งผลกระทบต่อต้นทุนของผู้ส่งออก และธุรกรรมการค้าระหว่างประเทศที่เริ่มชะลอลง แม้จะยังขยายตัวได้
อย่างไรก็ตาม ในช่วงครึ่งหลังปี 65 ผู้ประกอบการไทยต้องเร่งปรับตัวใน 2 มิติ ประการแรก ปรับตัวสู้ต้นทุนแพง ยกระดับสินค้าและกระบวนการผลิต เพื่อเข้าสู่ตลาดที่แข่งขันด้วยสินค้าที่มีนวัตกรรม ตอบโจทย์เทรนด์โลกและผู้บริโภคยุคใหม่ ได้แก่ สินค้าที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ดิจิทัล และดูแลสุขภาพ (GDH) รวมถึงการปรับปรุงแนวทางการตลาดด้วยการโชว์เอกลักษณ์ของสินค้า ขายแบบซอฟต์พาวเวอร์ สร้างและสื่อสารแบรนด์อย่างน่าสนใจ ประการที่สอง บริหารความเสี่ยง กระจายตลาดหรือบุกตลาดใหม่ อาทิ ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) ซึ่งเป็นเขตการค้าเสรีที่ใหญ่ที่สุดของโลก มีประชากรกว่า 2,300 ล้านคน มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีให้แก่ผู้ส่งออกไทย รวมทั้งเข้าสู่ตลาดการค้าออนไลน์มากขึ้น โดยคาดว่ามูลค่า E-Commerce โลกจะเติบโตต่อเนื่องจาก 4.9 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 64 เป็น 7.4 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 68 ก้าวกระโดดจาก 3.4 และ 4.2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 62 และ 63 ตามลำดับ และปิดความเสี่ยงรอบด้านให้มากที่สุด
ขณะที่ EXIM BANK พร้อมช่วยผู้ประกอบการไทยสู้ต้นทุนแพงและบริหารความเสี่ยง ด้วย “Hybrid Model : ฟื้นส่งออกสู้ต้นทุน รุกลงทุนสร้างอุตสาหกรรมใหม่” ดังนี้ 1. นโยบายตรึงดอกเบี้ย Prime Rate 5.75% ต่อปี เพื่อแบ่งเบาภาระด้านต้นทุนของผู้ประกอบการไทย, 2.บริการใหม่ “EXIM Export Ready Credit” วงเงินสูงสุด 5 ล้านบาท ดอกเบี้ยต่ำสุด 4.5% ต่อปีใน 6 เดือนแรก ผ่อนชำระคืนภายใน 3 ปี เพื่อให้ผู้ประกอบการ SMEs นำไปใช้เสริมสภาพคล่องของกิจการส่งออกและที่เกี่ยวเนื่อง
3.เงินทุน เพื่อสนับสนุนการกระจายตลาด การยกระดับสินค้าตอบโจทย์เทรนด์โลก GDH การลงทุนทั้งในและต่างประเทศ โดยเฉพาะการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐาน อุตสาหกรรมใหม่ที่เสริมสร้าง R&D ให้กับสินค้าไทย เช่น อุตสาหกรรมที่ขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ-หมุนเวียน-สีเขียว (Bio-Circular-Green Economy : BCG Economy) และ S-Curve โดย EXIM BANK พร้อมสนับสนุนธุรกิจทุกขนาดตลอดทั้ง Supply Chain การส่งออกของไทย เชื่อมโยงกับ Supply Chain ของโลก, 4. เครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ อาทิ บริการประกันการส่งออก คุ้มครองความเสี่ยงจากการไม่ได้รับชำระเงินค่าสินค้าจากผู้ซื้อในต่างประเทศ บริการประกันความเสี่ยงการลงทุน และบริการสัญญาซื้อขายเงินตราต่างประเทศล่วงหน้า และ5. EXIM Thailand Pavilion ช่องทางค้าขายออนไลน์บน E-Commerce ชั้นนำของโลก
ทั้งนี้ ท่ามกลางสถานการณ์เปราะบางในปี 65 ซึ่งการฟื้นตัวของเศรษฐกิจไทยและเศรษฐกิจโลกยังเต็มไปด้วยความไม่แน่นอน EXIM BANK สนับสนุนให้ผู้ประกอบการไทยสามารถปรับตัวได้ เริ่มต้นและขยายธุรกิจส่งออกและลงทุนทั้งในและต่างประเทศได้มากขึ้น โดยบรรลุเป้าหมายสินเชื่อคงค้างปี 65 จำนวน 156,500 ล้านบาทภายใน 7 เดือนแรก ผลการดำเนินงานครึ่งแรกปี 65 มีสินเชื่ออนุมัติใหม่ 34,551 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 30.52% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเป็นวงเงินของลูกค้าขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) จำนวน 8,408 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.42% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน EXIM BANK มีจำนวนลูกค้าอยู่ที่ 5,476 ราย เพิ่มขึ้นถึง 22.78% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยในจำนวนนี้เป็นลูกค้า SMEs 83.84% สะท้อนความสำเร็จในการสนับสนุนธุรกิจให้เติบโตตลอดทั้ง Value Chain
โดยจากยอดสินเชื่อคงค้าง 153,508 ล้านบาท ณ สิ้นเดือนมิ.ย.65 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อที่สนับสนุนความยั่งยืน สอดคล้องกับนโยบายรัฐบาลในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG Economy 43,471 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 25.53% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน EXIM BANK ได้สานพลังกับหน่วยงานเครือข่ายพันธมิตรอย่างกว้างขวาง โดยมีสำนักงานผู้แทนครบทั้ง 4 แห่งในประเทศ CLMV (กัมพูชา สปป.ลาว เมียนมา และเวียดนาม) ภายหลังเปิดสำนักงานผู้แทนในเวียดนามอย่างเป็นทางการเมื่อเดือนมิ.ย.ที่ผ่านมา
ซึ่ง ณ สิ้นเดือนมิ.ย.65 EXIM BANK มียอดคงค้างสินเชื่อโครงการระหว่างประเทศทั้งสิ้น 66,790 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4,711 ล้านบาท หรือ 7.59% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เมื่อจำแนกเป็นรายตลาดที่สำคัญ EXIM BANK สนับสนุนธุรกิจไทยสยายปีกไปยังกลุ่มประเทศ CLMV และตลาดใหม่ (New Frontiers) อย่างต่อเนื่อง โดยครึ่งแรกปี 65 มีสินเชื่อคงค้าง CLMV และ New Frontiers จำนวน 54,764 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 9,732 ล้านบาทหรือ 21.61% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เป็นสินเชื่อคงค้างในเวียดนาม 14,591 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 52.57% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน
นอกจากนี้ EXIM BANK ได้สร้างภูมิคุ้มกันความเสี่ยงแก่ผู้ส่งออกและนักลงทุนไทยผ่านบริการประกัน ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 65 EXIM BANK มีปริมาณธุรกิจด้านการรับประกันการส่งออกและการลงทุนเท่ากับ 100,554 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.07% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะเดียวกัน EXIM BANK ให้บริการด้านข้อมูลข่าวสาร คำปรึกษาแนะนำ และอบรมสัมมนา เพื่อเพิ่มศักยภาพของผู้ประกอบการไทยอย่างต่อเนื่อง ณ สิ้นเดือนมิ.ย.65 EXIM BANK ช่วยเหลือทั้งด้านการเงินและไม่ใช่การเงินแก่ผู้ประกอบการแล้วกว่า 17,200 ราย วงเงินรวมประมาณ 85,600 ล้านบาท
สำหรับผลการดำเนินงานภายใต้การบริหารจัดการองค์กรอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ EXIM BANK มีสถานะทางการเงินที่มั่นคง ณ สิ้นเดือนมิถุนายน 2565 มีอัตราส่วน NPLs ต่อสินเชื่อรวม (NPL Ratio) เพียง 2.91% อย่างไรก็ตาม เพื่อรักษาสถานะทางการเงินที่มั่นคงและแข็งแกร่ง EXIM BANK มีค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้น (Expected Credit Loss) จำนวน 12,281 ล้านบาท คิดเป็นอัตราส่วนค่าเผื่อผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อ NPLs (Coverage Ratio) 274.67% สูงสุดในระบบ ส่งผลให้ในไตรมาส 2/65 EXIM BANK มีกำไรก่อนสำรอง 1,217 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 12.55% และกำไรสุทธิเท่ากับ 604 ล้านบาท
“EXIM BANK ในฐานะสถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐที่มีภารกิจขับเคลื่อนการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ มีความสามารถในการบริหารและรับความเสี่ยงได้มากกว่า จึงขอแบ่งเบาภาระของลูกค้าและผู้ประกอบการไทย โดยตรึงดอกเบี้ยให้นานที่สุด ในอัตรา Prime Rate 5.75% ต่อปี ประกอบกับการออกโปรโมชันพิเศษ สินเชื่ออัตราดอกเบี้ยต่ำกว่า Prime Rate เพื่อช่วยเหลือให้ผู้ประกอบการ โดยเฉพาะ SMEs ให้อยู่รอดและขยายธุรกิจได้ในตลาดการค้าโลก นั่นคือบทพิสูจน์ของการดำเนินบทบาทธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย ทำหน้าที่มากกว่าธนาคาร (Beyond Banking) พัฒนานวัตกรรมด้านการให้บริการทั้งการเงินและไม่ใช่การเงิน เพื่อช่วยให้คนไทยมีความกล้าและความพร้อมที่จะบุกตลาดโลกอย่างรู้เท่าทันโอกาสและความเสี่ยง โดยมี EXIM BANK ขับเคลื่อนการเดินทางข้ามพรมแดนของทุนไทยและการเติบโตอย่างยั่งยืนของทุกภาคส่วนในโลกยุค Next Normal” ดร.รักษ์ กล่าว
PSP เคาะจ่ายปันผลระหว่างกาล 0.05 บ./หุ้น ย้ำ! ผลงานโตกระโดด
PCE วางงบลงทุน 1,000 ล้าน เพิ่มศักยภาพผลิตน้ำมันปาล์ม
NER ยิ้มรับจีนอัดเงินกระตุ้น ศก. โบรกฯ เชียร์ซื้อ เป้า 6.50 บ. - IND ตุนแบ็คล็อก 1,376 ล.
AHC จับมือพันธมิตรเปิดบริการ ‘GENETIC TESTING’ เจาะฐานลูกค้าใหม่
EMC ปลื้ม Station One โครงการมิกซ์ยูสใจกลางเยาวราชคึกคัก
ก.ล.ต. ไฟเขียวหุ้นกู้ RT ชูดอกเบี้ยสูงสุด 7.50%