Phones





NER สดใส ย้ำเป้ารายได้ 2.8 หมื่นล.

2022-08-17 09:36:17 714



NER สดใส ย้ำเป้ารายได้ 2.8 หมื่นล. (สกู๊ปพิเศษ)
ยังคงทำผลงานได้ดีต่อเนื่องสำหรับ บริษัท นอร์ทอีส รับเบอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ NER ผู้ดำเนินธุรกิจผลิตและจำหน่ายยางแผ่นรมควัน ยางแท่ง และยางผสม โดยผลการดำเนินงานงวด 6 เดือน สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย. 2565 มีกำไรสุทธิ 851.09 ล้านบาท เทียบงวด 6 เดือนปี 2564 มีกำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 45.75 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 5.68% เนื่องจากสถานการณ์ราคายางในไตรมาส 2/2565 มีทิศทางที่ดี บริษัทสามารถจัดการต้นทุนขายได้ดี รวมถึงบริหารจัดการต้นทุนจัดจำหน่าย และมีป้องกันความเสี่ยงจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ดีขึ้น ส่งผลให้อัตรากำไรสุทธิเพิ่มสูงขึ้น

ด้านรายได้จากการขายรวม สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2565 อยู่ที่ 10,864.82 ล้านบาท ลดลง 387.82 ล้านบาท หรือ 3.45% เมื่อเทียบกับงวดเดียวกันปีก่อน เกี่ยวเนื่องกับสถานการณ์การระบาดของเชื้อ COVID-19 ในประเทศจีน และค่าใช้จ่ายค่าระวางเรือที่สูงขึ้น ทางบริษัทฯ จึงปรับสัดส่วนยอดขายให้เหมาะสมกับสถานการณ์ปัจจุบันโดยเพิ่มสัดส่วนยอดขายในประเทศมากขึ้น เพื่อรักษาระดับความสามารถในการทำกำไรไว้

ขณะที่การจ่ายเงินปันผลเพื่อเป็นการตอบแทนผู้ถือหุ้น ยังคงมีอย่างสม่ำเสมอเช่นกัน ล่าสุด มติคณะกรรมการบริษัทฯ เมื่อวันที่ 8 ส.ค. 2565 อนุมัติการจ่ายเงินปันผลระหว่างกาล งวดดำเนินงานวันที่ 1 ม.ค. - 30 มิ.ย. 2565 โดยจ่ายปันผลเป็นเงินสด อัตรา 0.07 บาทต่อหุ้น กำหนดจ่ายปันผลวันที่ 7 ก.ย. 2565 รวมเป็นเงิน 129.34 ล้านบาท 

00 คงเป้ารายได้ 2.8 หมื่นล. - เพิ่มกำลังผลิต
นายชูวิทย์ จึงธนสมบูรณ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร NER ระบุว่า ภาพรวมธุรกิจของปี 2565 บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 2.8 หมื่นล้านบาท จากกำลังการผลิตที่ 4.6 แสนตัน เติบโตจากปีก่อนที่มีรายได้ 2.4 หมื่นล้านบาท ซึ่งได้รับผลดีจากราคายางพาราที่ปรับขึ้นเฉลี่ยที่ 60-65 บาท/กิโลกรัม นอกจากนี้ ในไตรมาสที่ 4 ของปีนี้ จะเพิ่มกำลังผลิตอีก 5 หมื่นตัน เป็น 5.1 แสนตัน/ปี จากเดิมที่ 4.6 แสนตัน คาดจะเริ่มรับรู้รายได้ไตรมาส 4 ปี 2565
"ล่าสุด บริษัทมีการเซ็นสัญญาเพิ่มลูกค้าใหม่จากประเทศอินเดีย 4 ราย โดยวางเป้าลูกค้าประเทศอินเดีย 10-15 % ในปี 2566 หรือประมาณ 7 หมื่นตัน/ปี ลูกค้าประเทศจีนอยู่ที่ 60% โดยเป็นลูกค้าจีนที่มีโรงงานอยู่ในประเทศ และต่างประเทศ ส่วนที่เหลือจะเป็นลูกค้าประเทศญี่ปุ่น และสิงคโปร์ เป็นต้น"

ด้านธุรกิจแผ่นปูรองนอนปศุสัตว์ ขณะนี้เครื่องจักรที่สั่งมาจากไต้หวันได้เข้ามาถึงบริษัทเรียบร้อยแล้ว และคาดว่าจะติดตั้งแล้วเสร็จ พร้อมสามารถรับรู้รายได้ไตรมาส 3 ปี 2565 สำหรับนโยบายการจําหน่ายสินค้า แบ่งเป็น ในประเทศ 10% และต่างประเทศ 90% ซึ่งในสัดส่วนลูกค้าต่างประเทศแบ่งเป็น อินโดนีเชีย ญี่ปุ่น และออสเตรเลีย โดยมองว่าความต้องการแผ่นปูรองนอนปศุสัตว์ในอุตสาหกรรมยังดีต่อเนื่อง

00 โบรกฯ เชียร์ "ซื้อ" เป้า 10.50 บาท 
ด้วยความที่ NER มีความสามารถในการทำกำไรดีมาต่อเนื่อง และยังจ่ายเงินปันผลแก่ผู้ถือหุ้นในอัตราที่ดีมาอย่างต่อเนื่องเช่นกัน จึงไม่แปลกที่โบรกเกอร์ต่างเทเสียงเชียร์ "ซื้อ" หุ้น NER
โดย บล.หยวนต้า (ประเทศไทย) ระบุว่า ช่วงครึ่งปีหลังจะเข้าสู่ High season และปริมาณการส่งออกจะกลับมาฟื้นตัว โดยคาดกำไรปกติ Q3/65 เบื้องต้นประมาณที่ 600 ล้านบาท แต่กำไรสุทธิจะมากกว่า จากการกลับรายการขาดทุนจากการป้องกันความเสี่ยงที่ยังไม่เกิดขึ้นจริงใน Q2/65 มาเป็นกำไรพิเศษใน Q3/65 และคาดปริมาณขายจะกลับมาที่ระดับ 1.0-1.2 แสนตัน ได้แรงหนุนจาการส่งออกที่ฟื้นตัวราว 5% ส่วนแนวโน้ม Q4/65 คาดว่ากำไรอาจจะทำระดับสูงสุดใหม่ที่ราว 650 ล้านบาท จากปริมาณการขายที่คาดว่าจะสูงสุดของปีที่ราว 1.3 แสนตัน เพราะมีกำลังผลิตเข้าใหม่ตั้งแต่เดือน ก.ย. ราว 50,000 ตัน
 
ทั้งนี้ ยังคงประมาณการกำไรปี 65 ไว้ที่ 2,025 ล้านบาท ทรงตัวงจากปีก่อน และคาดว่าปี 2566 กำไรปกติเติบโต 10.8% จากปี 65 มาอยู่ที่ 2,243 ล้านบาท ขณะที่ราคาหุ้นปัจจุบันซื้อขายด้วย PER65-66 ต่ำเพียง 5.1 และ 4.6 เท่า ตามลำดับ และคาดเงินปันผลทั้งปี 2565 ที่ 0.46 บาท/หุ้น และให้ผลตอบแทนทั้งปีที่ 7.8% ยังคงคำแนะนำ "ซื้อ" ราคาเป้าหมายสิ้นปี 2565 อยู่ที่ 10.50 บาท