Phones





CHAYO เพิ่มรายได้ โตยั่งยืน

2022-08-17 19:13:55 659



CHAYO เพิ่มรายได้ โตยั่งยืน (สกู๊ปพิเศษ)

ปัญหาหนี้ครัวเรือนในประเทศสูงขึ้น สร้างผลกระทบต่อภาพรวมเศรษฐกิจในวงกว้าง และมีแนวโน้มที่จะก่อให้เกิดหนี้เสียสูงขึ้นเป็นไปได้สูง ซึ่งปัจจุบันหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง รวมถึงธนาคารต่างๆ ได้ออกมาตรการต่างๆ เพื่อแก้ไขปัญหา แต่อย่างไรก็ตาม ภายใต้วิกฤตย่อมมีโอกาส โดยเฉพาะสำหรับผู้ที่ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ (AMC) ที่มีหน้าที่จัดการบริหารสินทรัพย์ NPLs โดยการซื้อ NPLs จากธนาคารและสถาบันการเงินต่างๆ และนำมาบริหารจัดการด้วยการเจรจาปรับโครงสร้างหนี้กับลูกหนี้ เพื่อให้ได้ข้อตกลงที่เป็นที่พึงพอใจของทุกฝ่าย และให้หนี้ลดลงไป 

00 เตรียมงบ 2,500 ล้านบ. ซื้อหนี้เติมพอร์ตบริหาร
แน่นอนว่า บริษัท ชโย กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ CHAYO ในฐานะที่เป็นผู้ดำเนินธุรกิจบริหารสินทรัพย์ทั้งที่มีหลักประกันและไม่มีหลักประกัน ธุรกิจเจรจาติดตามเร่งรัดหนี้สิน ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ และกิจการศูนย์บริการข้อมูลลูกค้า โดยมี "นายสุขสันต์ ยศะสินธุ์" แม่ทัพใหญ่ ในฐานะประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ให้ข้อมูลว่า "แนวโน้มสถานการณ์หนี้ NPLs ของทางสถาบันการเงินในช่วงไตรมาส 3-4/65 จะออกมาจำนวนมาก มากกว่าครึ่งปีแรกที่ผ่านมา ซึ่งเป็นโอกาสของ CHAYO ที่จะได้หนี้ใหม่เข้ามาเติมพอร์ตบริหารในช่วงที่เหลือของปีนี้ ทั้งหนี้มีหลักประกัน และไม่มีหลักประกัน 

ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมเงินลงทุนไว้ 2,500 ล้านบาท รองรับการซื้อหนี้เข้ามาเติมพอร์ต ซึ่งคาดว่าในช่วงที่เหลือของปี 2565 จะมีการประมูลหนี้ใหม่อีกกว่า 50,000-70,000 ล้านบาท จากในช่วงครึ่งปีแรกมีทยอยออกมาแล้วเกือบ 100,000 ล้านบาท 

นอกจากนี้ บริษัทฯ อยู่ระหว่างการเจรจากับทางสถาบันการเงิน 1-2 ราย เบื้องต้น คาดว่าจะได้ข้อสรุปที่ชัดเจนในช่วงไตรมาส 3 ไม่น้อยกว่า 1 ดีล อย่างไรก็ดี ปัจจุบันบริษัทมีพอร์ตมูลหนี้คงค้างอยู่ที่ประมาณ 75,293 ล้านบาท โดยยังคงเป้าสิ้นปีแตะ 90,000 ล้านบาท

ด้านความคืบหน้า "การจัดตั้งบริษัทร่วมทุนกับสถาบันการเงิน (JV)" เพื่อบริหารจัดการ NPLs ปัจจุบันอยู่ระหว่างการศึกษา และเจรจากับทางสถาบันการเงิน 2-3 ราย คาดจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายปีนี้ ซึ่งหากว่าเป็นไปตามที่คาดการณ์ไว้ ปริมาณของพอร์ตมูลหนี้ ณ สิ้นปี 2565 อาจสูงกว่าเป้าหมายที่วางไว้

00 มั่นใจผลงานโตเกินเป้า
ในส่วนของ "ธุรกิจปล่อยสินเชื่อ" นับตั้งแต่ต้นปีจนถึงเดือน มิ.ย. 2565 มียอดการปล่อยสินเชื่อใหม่กว่า 417 ล้านบาท และคาดภายในช่วงครึ่งหลังปี 2565 จะสามารถปล่อยสินเชื่อใหม่เพิ่มอีก 600-1,000 ล้านบาท ซึ่งฐานลูกค้าหลักจะเป็นสินเชื่อแบบมีหลักประกัน คิดเป็น 80% ของพอร์ต ที่เหลือจะเป็นกลุ่มลูกค้าสวัสดิการพนักงานและนักศึกษาตามมหาวิทยาลัย 

ขณะที่ "ธุรกิจติดตามและเร่งรัดหนี้" ปัจจุบันเริ่มกลับมามีการเติบโตที่ดี และสามารถเซ็นสัญญาร่วมกับลูกค้าเพิ่มต่อเนื่อง และคาดว่าในช่วงครึ่งปีหลัง จะเห็นการฟื้นตัวอย่างชัดเจน

"จึงมั่นใจว่าช่วงครึ่งปีหลังของปี 2565 รายได้จะเติบโตมากว่าครึ่งปีแรกอย่างแน่นอน และจากปัจจัยข้างต้น ทำให้บริษัทฯ มองว่าผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งหลังปีนี้ จะเติบโตได้ดีกว่าครึ่งปีแรก และมั่นใจว่าผลการดำเนินงานภาพรวมในปี 2565 จะทำได้ดีกว่าเป้าที่วางไว้ว่าจะเติบโตไม่น้อยกว่า 25%" นายสุขสันต์ ระบุ 

00 โบรกฯ แนะนำ "ซื้อ" เป้าสูง 20.80 บาท
ด้านฝ่ายวิเคราะห์หลักทรัพย์ บล.บัวหลวง ได้เจาะลึกถึงการโอนที่แปลงใหญ่ ที่ จ.พังงา มูลค่า 900.8 ล้านบาท โดยมองว่าบื้องต้นจะเลื่อนไปปลายพ.ย.- ธ.ค. ประเมินแนวโน้มเบื้องต้นไม่ยืดเยื้อ ส่วนการขายที่ดินแปลงใหญ่อื่นๆ อยู่ระหว่างเจรจาหลายแปลง เบื้องต้นมี 40 ล้านบาท ที่กำหนดโอนในเดือน ธ.ค. 65 พร้อมยังมองว่า ครึ่งปีหลังจะมีปัจจัยบวกต่อหุ้นมากกว่าครึ่งแรก ทั้งการซื้อหนี้จากธนาคาร ที่จะเป็นก้อนใหญ่, การ JV กับธนาคารพาณิชย์ และกำไรจากการขายที่ดินแปลงใหญ่ จึงแนะนำ "ซื้อ" ด้วยราคาเหมาะสมที่ 20.80 บาท