นิวส์ คอนเน็คท์ - สนพ.เร่งดันแผนพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดช่วยเพิ่มประสิทธิภาพระบบไฟฟ้า พร้อมเล็งปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน มั่นใจปรับแผนพีดีพีเสร็จทัน ก.พ.63

เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม 2562 นายวัฒนพงษ์ คุโรวาท ผู้อำนวยการสำนักงานนโยบายและแผนพลังงาน (สนพ.) กระทรวงพลังงาน เปิดเผยในงานสัมมนาสมาร์ทกริด ระบบโครงข่ายไฟฟ้าเพื่อเมืองอนาคตว่า สนพ.เล็งเห็นความสำคัญของการพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริด (Smart Grid) หรือระบบโครงข่ายไฟฟ้า ซึ่งกระทรวงพลังงานได้จัดทำแผนแม่บทการพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดขึ้น โดยแบ่งการพัฒนาออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่ ระยะเตรียมการ (พ.ศ. 2558 – 2559) ระยะสั้น (พ.ศ. 2560 – 2564) ระยะปานกลาง (พ.ศ. 2565 – 2574) และระยะยาว (พ.ศ. 2575 – 2579) เพื่อเป็นกลไกสำคัญที่จะพัฒนาไปสู่ระบบโครงข่ายไฟฟ้าที่มั่นคง เพียงพอ และสามารถรองรับการเปลี่ยนแปลงของรูปแบบการผลิตไฟฟ้าในอนาคตด้วย

สำหรับนโยบายและกรอบทิศทางการพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดของประเทศไทยในภาพรวม เพื่อให้ภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทั้งจากภาครัฐ คือ 3 การไฟฟ้า ได้แก่ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) การไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และภาคเอกชน ได้กำหนดทิศทางแผนการพัฒนาและการลงทุนที่สอดคล้องกับแผนพัฒนากำลังการผลิตไฟฟ้าของประเทศไทย (พีดีพี 2018)

ทั้งนี้ สนพ.ได้ตั้งเป้าหมายสร้างให้เกิด Smart System , Smart Life และ Green Society โดย Smart System จะช่วยลดความต้องการโรงไฟฟ้าสำรอง จำนวนการเกิดไฟฟ้าดับ และ Loss จากการส่งและจำหน่ายไฟฟ้าได้ Smart Life จะทำให้การใช้ชีวิตประจำวันของผู้คนมีความทันสมัย สะดวกสบายมากขึ้นจากเทคโนโลยีการใช้พลังงานในอนาคต และ Green Society จะเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนเข้าสู่ระบบไฟฟ้ามากกว่าร้อยละ 15 และมีการพัฒนาระบบ Micro Grid เพื่อการพัฒนาพลังงานอย่างยั่งยืนในชุมชน

นอกจากนี้ การพัฒนาระบบโครงข่ายสมาร์ทกริดยังสามารถรองรับการลงทุนโรงไฟฟ้าพลังงานชุมชน พลังงานทดแทนที่ต้องใช้ระบบเอนเนอร์ยี่สตอเรจระบบบริหารจัดการพลังงานอีกด้วย และต้องตอบโจทย์ระบบไฟฟ้าของประเทศได้อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามสำหรับการดำเนินโครงการตามแผนระยะสั้น (2560-2564) นั้นในปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้ว 2 พื้นที่ คือ อ.แม่สะเรียง จ.แม่ฮ่องสอน กับพื้นที่พัทยา และอยู่ระหว่างการขยายผลอีก 2-3 แห่ง เช่น อ.เบตง จ.ยะลา จ.แม่ฮ่องสอน

นายวัฒนพงษ์ยังกล่าวถึงความคืบหน้าการปรับแผนพีดีพี ว่า การปรับแผนพีดีพีตามที่นายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มอบหมายนั้น คาดว่าจะต้องดำเนินการปรับเฉพาะแผนพลังงานทดแทนที่มีสัดส่วนร้อยละ 20 ของกำลังผลิตไฟฟ้า โดยที่จะปรับให้พลังงานทดแทนเข้าระบบเร็วขึ้น และอาจจะเพิ่มสัดส่วนเชื้อเพลิงชีวมวล ก๊าซชีวภาพให้เพิ่มขึ้น เพื่อให้สอดคล้องกับนโยบายส่งเสริมการลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชน และอาจจะลดสัดส่วนการส่งเสริมโซลาร์รูฟท็อปภาคประชาชนจากเดิมกำหนดไว้ราว 1 หมื่นเมกะวัตต์ โดยจะเร่งทำให้เสร็จภายใน 3 เดือน หรือต้นเดือน ก.พ.2563

นอกจากนี้ สนพ.ยังต้องเร่งศึกษานโยบายเร่งด่วนของกระทรวงพลังงานในการปรับโครงสร้างราคาน้ำมัน ที่จะเน้นเรื่องปรับราคาหน้าโรงกลั่นน้ำมันให้เหมาะสม กับการเปลี่ยนแปลงของตลาดมากยิ่งขึ้น ส่วนจะเป็นเรื่องค่าขนส่ง หรือการอ้างอิงที่เหมาะสม คงต้องมาดูรายละเอียก ซึ่งจะสรุปภายในเดือน พ.ย.นี้เช่นกัน

#สนพ.
#วัฒนพงษ์คุโรวาท
#โครงข่ายสมาร์ทกริด
#แผนพีดีพี
#กระทรวงพลังงาน