Phones





KBANK โชว์ยอดอนุมัติสินเชื่อช่วยลูกค้ารายเล็กกว่า 2.3หมื่นล.

2022-11-17 18:48:00 83



 
นิวส์ คอนเน็คท์ - KBANK เผยในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 ได้มีการอนุมัติเงินกู้ให้ลูกค้ารายเล็กจำนวนกว่า 500,000 ราย รวมวงเงินมากกว่า 23,000 ล้านบาท ซึ่งพิจารณาโดยใช้เทคโนโลยีล้ำสมัย และวิธีการแบบใหม่ๆ ในการพิจารณาอนุมัติสินเชื่อ พร้อมเดินหน้าลงทุนในเรื่องเทคโนโลยี ด้วยงบลงทุนประมาณ 22,000 ล้านบาท ในปี 65 และในช่วง 2 ปีข้างหน้า 
 
เมื่อวันที่ 17 พฤศจิกายน 2565 นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกสิกรไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KBANK เปิดเผยว่า ธนาคารได้ขยายการปล่อยสินเชื่อขนาดเล็ก รวมวงเงินมากกว่า 23,000 ล้านบาท ให้กับผู้คนมากกว่า 500,000 คน ที่เป็นผู้ประกอบอาชีพอิสระ และไม่มีเอกสารยืนยันรายได้ โดยเป็นการอนุมัติในช่วง 9 เดือนแรกของปีนี้ นับจนถึงสิ้นเดือนก.ย.65
 
ทั้งนี้ ธนาคารได้เดินหน้าอย่างรวดเร็วตามเป้าหมายผสานความเป็นชาเลนเจอร์แบงค์เข้ามาในองค์กร ขยายบริการธนาคารไปยังกลุ่มคนที่เข้าไม่ถึงบริการและผลิตภัณฑ์ต่างๆของธนาคาร เนื่องจากอยู่นอกเกณฑ์การพิจารณาประเมินสินเชื่อแบบเดิมๆ ซึ่งจะช่วยให้กลุ่มคนที่ยังไม่เคยเข้าถึงบริการธนาคาร หรืออาจจะเข้าถึงบริการของธนาคารแล้วแต่ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ หลุดพ้นจากกับดักหนี้นอกระบบที่มีดอกเบี้ยสูง
 
“เราอยากจะช่วยคนนับล้านๆ ให้เข้าถึงและได้รับประโยชน์จากผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของธนาคารได้ เราจึงมุ่งมั่นที่จะเป็นผู้นำทางด้านเทคโนโลยี และใช้เทคโนโลยีเพื่อที่จะสามารถบรรลุภารกิจข้างต้น รวมถึงยกระดับการให้บริการลูกค้าปัจจุบันของเราให้ดียิ่งขึ้นไปอีกด้วย” นางสาวขัตติยา
 
นายกฤษณ์ จิตต์แจ้ง กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า ธนาคารตั้งเป้าขยายโอกาสการเข้าถึงและได้ประโยชน์จากผลิตภัณฑ์และบริการต่างๆ ของธนาคารกสิกรไทยที่ใช้เทคโนโลยีเป็นตัวขับเคลื่อน ไปสู่ผู้คนเป็นจำนวนที่เพิ่มมากขึ้น ถึง 1 ล้านคน ภายใน 18 เดือน และในอีก 24 เดือน จะขยายเป็นราวๆ 2 ล้านคน
 
สำหรับการเดินหน้าดังกล่าวนี้เป็นส่วนหนึ่งของโครงการเชิงกลยุทธ์ของธนาคารกสิกรไทยที่ได้ประกาศไปเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา ที่มุ่งขยายโอกาสการเข้าถึงบริการธนาคาร ให้กับคนไทยจำนวนกว่า 30 ล้านคน ที่ยังไม่เคยเข้าถึงบริการธนาคาร หรืออาจจะเข้าถึงบริการของธนาคารแล้วแต่ยังไม่เต็มประสิทธิภาพ ซึ่งนี่คือสิ่งที่ธนาคารกสิกรไทยเรียกว่าเป้าหมายการผสานเอาความเป็น ‘ชาเลนเจอร์แบงค์’ เข้ามาในองค์กร
 
โดยโครงการนี้ตั้งเป้าที่จะใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีล้ำสมัย และวิธีการทำงานแบบใหม่ๆ ของธนาคาร เอามาช่วยผู้คนที่ทำงานอาชีพอิสระ เกษตรกร และเจ้าของกิจการขนาดเล็กๆ ผู้ที่อาจจะไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน หรืออาจจะมีไม่เพียงพอ ให้สามารถขอเงินกู้ได้ โดยใช้การประเมินที่เป็นธรรมมากขึ้นจากการพิจารณาที่ความสามารถและความตั้งใจในการชำระคืนเงินกู้ของผู้กู้  
 
ทั้งนี้ กลุ่มที่ได้รับเงินกู้นี้มีประมาณ 63,000 ราย เป็นเจ้าของกิจการที่มีรายได้น้อยกว่า 2.5 ล้านบาทต่อปี กู้ผ่านโครงการ ‘สินเชื่อเงินด่วนเพื่อธุรกิจ’ ในช่วงตั้งแต่เดือนม.ค.-ก.ย. วงเงินกู้รวม เกือบ 5,000 ล้านบาท นอกจากนั้น เป็นบุคคลทั่วไปที่มีรายได้ต่ำกว่า 30,000 บาทต่อเดือน จำนวนประมาณ 215,000 ราย ได้รับเงินกู้สูงสุดถึง 20,000 บาทต่อราย ผ่านโครงการ ‘K PAY LATER’ ของธนาคาร
 
“เราได้เห็นอย่างชัดเจนว่า เงินกู้จากโครงการ K PAY LATER ถูกนำไปใช้ในการซื้อของใช้ประจำวันที่จำเป็น เนื่องจากพบว่าส่วนใหญ่เป็นการนำไปใช้จ่ายกับร้านค้าที่ขายของใช้จำเป็น เช่นพันธมิตรของเรา อาทิ บิ๊กซี โลตัส ซี​ เจ​ เอ็กซ์​เพรส ปตท. เซ็นทรัล และแม็คโคร​ ซึ่งเมื่อเราเปิดโอกาสให้คนกลุ่มนี้เข้าถึงระบบธนาคาร และได้เห็นว่าผู้กู้มีความรับผิดชอบในการชำระคืนเงินกู้เป็นอย่างดี เราก็จะเพิ่มวงเงินกู้ให้คนกลุ่มนี้ และขยายการเข้าถึงผลิตภัณฑ์และบริการทางการเงินอื่นๆ เพิ่มเติมให้กับหลายๆ คนในกลุ่มนี้ได้อีกด้วย” นายกฤษณ์ กล่าว
 
สำหรับจำนวนการทำธุรกรรมผ่าน K PAY LATER มีการปรับเพิ่มขึ้นถึง 10 เท่า ในช่วงเวลาเดียวกัน คือตั้งแต่เดือนม.ค.-ต.ค.65 โดยธนาคารกำลังเดินหน้าการลงทุนต่างๆ ในเรื่องเทคโนโลยี ด้วยงบลงทุนประมาณ 22,000 ล้านบาท สำหรับในปี 65 และในช่วง 2 ปีข้างหน้า