โดยการลงนามบันทึกความร่วมมือเชิงกลยุทธ์ ในครั้งนี้จะช่วยต่อยอดทางธุรกิจให้กับทาง LEO ในการพัฒนาธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศกับกลุ่มประเทศอาเซียนได้คลอบคลุมมากขึ้น โดย LEO มองเห็นโอกาสในการเติบโตของธุรกิจโลจิสติกส์ในประเทศกัมพูชา ซึ่งมีอัตราการเติบโตทาง GDP เฉลี่ยสูงกว่า 6% ต่อปีในช่วงหลายปีที่ผ่านมา และเป็นตลาดที่ยังสามารถพัฒนาและมีโอกาสที่จะขยายการให้บริการไปยังกลุ่มลูกค้าและพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ ได้เพิ่มเติมมากขึ้น รวมถึงยังช่วยทำให้ผู้ประกอบการในประเทศไทยมีทางเลือกของผู้ให้บริการโลจิสติกส์ในการส่งออกสินค้าไปยังประเทศกัมพูชาได้มากขึ้น
บริษัทฯ มีความมั่นใจว่านี่คือจุดเริ่มต้นของความสัมพันธ์ ที่จะก่อให้เกิดความแข็งแกร่งทางด้านการให้บริการโลจิสติกส์สำหรับลูกค้าของ LEO และลูกค้าของ LogiCam และยังมีโอกาสที่จะต่อยอดในเชิงธุรกิจร่วมกันไปในอนาคต เพราะ LogiCam เป็นบริษัทผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำในประเทศกัมพูชาและได้รับการยอมรับในเรื่องของคุณภาพการให้บริการ และถือเป็นการก้าวเข้าสู่ประเทศเพื่อนบ้านในกลุ่มอาเชียนเป็นประเทศที่สอง หลังจากที่ LEO ประสบความสำเร็จในการขยายธุรกิจไปยังประเทศเมียนมา ในนามของบริษัท LEO Myanmar Logistics Co., Ltd.
“LEO มองเห็นโอกาสในการพัฒนาธุรกิจให้เติบโตอยู่เสมอ จึงมองหาพันธมิตร ทั้งในและต่างประเทศ เพื่อมาช่วยต่อยอดในการพัฒนาธุรกิจ Logistics & Distribution Center ที่เป็นธุรกิจ Non-Freight และมีอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงกว่าธุรกิจการขนส่งสินค้าระหว่างประเทศให้มีศักยภาพในการเติบโตอย่างรวดเร็ว สามารถขยายฐานลูกค้าและพื้นที่ในการให้บริการได้รวดเร็วมากขึ้น ประกอบกับกลยุทธ์การบริหารที่ LEO มุ่งเน้นไปสู่การเป็นผู้ให้บริการโลจิสติกส์อย่างครบวงจร และสามารถปรับตัวให้สอดคล้องกับสถานการณ์การค้าและระบบโลจิสติกส์ของโลกในปัจจุบันได้อย่างมีประสิทธิภาพ รวมถึงยังคงเดินหน้าตามแผนงาน ที่จะทำการร่วมลงทุนกับพันธมิตรทางธุรกิจทั้งในประเทศและกลุ่มประเทศ ASEAN โดยสร้างการเติบโตทางธุรกิจผ่านแผนการทำข้อตกลงซื้อและควบรวมกิจการ (M&A) และสร้างการเติบโตอย่างก้าวกระโดด แข็งแกร่งและยั่งยืนให้กับบริษัทฯตามแผนงาน ” นายเกตติวิทย์ กล่าว