สำหรับกองทุน ABSM-RMF เน้นลงทุนในหุ้นไทยขนาดกลางและขนาดเล็กที่มีศักยภาพสูง และมีโอกาสการเติบโตอย่างก้าวกระโดดจากโมเดลธุรกิจที่เกาะกระแสไปกับการเติบโตเศรษฐกิจยุคใหม่ (New Economy) ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภคในยุคสมัยนี้ได้เป็นอย่างดี ด้วย 3 ธีมการลงทุนที่สำคัญ ได้แก่ กลุ่ม Aging Society (สังคมสูงวัย) , Tourism (การท่องเที่ยว) และ Digital Tranformation (ที่มา: abrdn, กันยายน 2565)
ในขณะที่ ABGDD-RMF เน้นลงทุนในหน่วยลงทุนของกองทุนรวมต่างประเทศ คือ กองทุน Aberdeen Standard SICAV I - Global Dynamic Dividend Fund ซึ่งลงทุนในหุ้นเติบโตและหุ้นคุณค่าทั่วโลก ด้วยกลยุทธ์การลงทุนที่แตกต่าง โดยแบ่งเงินลงทุนเป็น 2 ส่วน ซึ่งส่วนแรก 95% ของพอร์ตเน้นลงทุนระยะยาวในหุ้นที่มีคุณภาพ เพื่อโอกาสสร้างกระแสรายรับจากเงินปันผลปกติ และโอกาสทำกำไรจากราคาหุ้นที่ปรับตัวสูงขึ้น ส่วนที่สอง 5% ของพอร์ตเน้นจับจังหวะการลงทุนในระยะสั้นกับหุ้นที่มีโอกาสจ่ายเงินปันผลพิเศษ เป็นการเพิ่มโอกาสรับกระแสเงินสดที่สูงขึ้น เช่น กรณีบริษัทมีผลประกอบการที่ดีมากหรือมีการขายสินทรัพย์ที่มีมูลค่ามหาศาลซึ่งบริษัทมีแนวโน้มจะพิจารณาจ่ายเงินปันผลจำนวนมากในครั้งเดียว อีกทั้งกองทุนหลักยังมีเป้าหมายจ่ายปันผลรายเดือนอย่างสม่ำเสมอ รวมถึงโอกาสที่จะได้รับผลตอบแทนจากกำไรจากมูลค่าของหุ้นที่เพิ่มขึ้นอีกด้วย (ที่มา: abrdn, Actual investment % allocation will be in line with the investment objective disclosed in prospectus)