Phones





EXIM BANK ส่งเสริมการค้าการลงทุนไทย-ญี่ปุ่น ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ BCG ในเอเชีย-แปซิฟิก

2022-12-13 18:49:58 136



 
นิวส์ คอนเน็คท์ – คณะกรรมการ-คณะผู้บริหาร EXIM BANK เข้าพบปะหารือและขยายความสัมพันธ์กับหน่วยงานพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชนในญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ภาคธุรกิจไทยในการขยายการค้าและการลงทุนกับญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชีย
 
เมื่อวันที่ 13 ธันวาคม 2565 ดร.รักษ์ วรกิจโภคาทร กรรมการผู้จัดการ ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย (EXIM BANK) เปิดเผยว่า EXIM BANK ได้มีการนำหารือและขยายความสัมพันธ์กับหน่วยงานพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชนในญี่ปุ่น เพื่อส่งเสริมโอกาสใหม่ ๆ ให้แก่ภาคธุรกิจไทยในการขยายการค้าและการลงทุนกับญี่ปุ่นในภูมิภาคเอเชีย ประกอบด้วยธนาคารเพื่อความร่วมมือระหว่างประเทศแห่งญี่ปุ่น (JBIC), องค์กรรับประกันการส่งออกและลงทุนแห่งประเทศญี่ปุ่น (NEXI), TradeWaltz, MUFG Bank, Ltd. และองค์การความร่วมมือระหว่างประเทศของญี่ปุ่น (JICA)
 
ทั้งนี้ ญี่ปุ่นเป็นหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ของไทย ด้วยขนาดเศรษฐกิจที่ใหญ่เป็นอันดับ 3 ของโลก และเป็นนักลงทุนต่างชาติอันดับ 1 ในไทย โดยส่วนใหญ่อยู่ในภาคการผลิต อาทิ เครื่องจักร, ยานยนต์, เหล็กและผลิตภัณฑ์, เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ขณะที่ญี่ปุ่นอยู่ใน 10 อันดับแรกที่นักธุรกิจไทยสนใจไปลงทุน อาทิ โรงแรม, อาหาร, เสื้อผ้า, สปา, โทรคมนาคม, ก่อสร้าง และพลังงานทดแทน เป็นคู่ค้าสำคัญอันดับ 2 ของไทย (รองจากจีน) ซึ่ง 80% ของสินค้านำเข้าจากไทยเป็นสินค้าอุตสาหกรรม ส่วนไทยนิยมนำเข้าสินค้าทุนและวัตถุดิบมูลค่าสูงจากญี่ปุ่น
 
อย่างไรก็ตาม ในช่วง 9 เดือนแรกของปี 65 การส่งออกของไทยไปญี่ปุ่นขยายตัวเพียง 0.9% เนื่องจากภาวะเศรษฐกิจในญี่ปุ่นอยู่ระหว่างค่อย ๆ ฟื้นตัว เป้าหมายภารกิจของ EXIM BANK ในครั้งนี้ จึงได้แก่ การสานพลังหน่วยงานพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชนไทย ร่วมกับทีมประเทศไทย เพื่อเสริมและยกระดับศักยภาพในการแข่งขันของประเทศไทยในเวทีโลก โดยเล็งเห็นถึงศักยภาพของญี่ปุ่นที่เป็นต้นแบบด้านการพัฒนาเทคโนโลยีการผลิตและนวัตกรรมถ่ายทอดสู่ภาคอุตสาหกรรมของไทย โดยเฉพาะธุรกิจที่เชื่อมโยงกับการขับเคลื่อนเศรษฐกิจชีวภาพ เศรษฐกิจหมุนเวียน และเศรษฐกิจสีเขียว (BCG Economy) ตามนโยบายของรัฐบาลไทย
 
โดยในโอกาสนี้ EXIM BANK ได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) ว่าด้วยความร่วมมือเพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับประเทศญี่ปุ่นกับ JBIC ทั้งด้านการเงินและด้านที่ไม่ใช่การเงิน อาทิ การแลกเปลี่ยนองค์ความรู้เพื่อต่อยอดไปสู่การขยายการค้าการลงทุนไทย-ญี่ปุ่นและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในระดับภูมิภาคและอนุภูมิภาคลุ่มแม่น้ำโขง เชื่อมโยงสู่การพัฒนาพลังงานสะอาดภายใต้โมเดล BCG Economy โดยต่อยอดจากจุดแข็งของประเทศไทยด้านความหลากหลายทางชีวภาพและทางวัฒนธรรม สอดคล้องกับแนวคิดเศรษฐกิจพอเพียงและเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน (SDGs)
 
นอกจากนี้ EXIM BANK และทาง NEXI ได้ลงนามในภาคผนวกบันทึกความเข้าใจ (Addendum) เพิ่มเติมจาก MOU ระหว่างทั้งสองหน่วยงานที่ลงนามไว้เมื่อปี 63 โดยทั้ง EXIM BANK และ NEXI จะแลกเปลี่ยนข้อมูลและดำเนินกิจกรรมร่วมกันเพื่อกระตุ้นให้ผู้ประกอบการไทยและญี่ปุ่นมีความรู้ความเข้าใจด้านเครื่องมือบริหารความเสี่ยงทางการค้าและการลงทุนระหว่างประเทศ สามารถเริ่มต้นหรือขยายธุรกิจระหว่างประเทศได้อย่างมั่นใจ โดยเฉพาะตลาดใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ CLMV และพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออกของไทย โดยปี 66 EXIM BANK จะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุมองค์กรรับประกันการส่งออกของรัฐระดับภูมิภาคเอเชีย-แปซิฟิก (Regional Cooperation Group CEO Meeting) เพื่อแลกเปลี่ยนข้อมูลและประสบการณ์ในการพัฒนาและขยายบริการประกันการส่งออกและลงทุนแก่ภาคธุรกิจในประเทศต่าง ๆ
 
ขณะที่ EXIM BANK ยังได้พบปะหารือกับหน่วยงานพันธมิตรจากภาครัฐและภาคเอกชนในญี่ปุ่น โดยดร.พสุ โลหารชุน ประธานกรรมการ EXIM BANK นำคณะเข้าเยี่ยมคารวะและพบปะหารือกับนายสิงห์ทอง ลาภพิเศษพันธุ์ เอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงโตเกียว เพื่อแนะนำยุทธศาสตร์และบทบาทใหม่ของ EXIM BANK ในฐานะธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย และแนวทางส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น และภายใต้กรอบข้อตกลงทางการค้าระหว่างประเทศ อาทิ ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจไทย-ญี่ปุ่น (JTEPA), ความตกลงหุ้นส่วนเศรษฐกิจอาเซียน-ญี่ปุ่น (AJCEP), ความตกลงหุ้นส่วนทางเศรษฐกิจระดับภูมิภาค (RCEP) รวมทั้งยุทธศาสตร์ความร่วมมือทางเศรษฐกิจ อิรวดี-เจ้าพระยา-แม่โขง (ACMECS) ณ สถานเอกอัครราชทูต ณ กรุงโตเกียว
 
นอกจากนี้ ได้เข้าพบปะหารือกับนายซาโตรุ โซเมยะ กรรมการผู้จัดการ TradeWaltz Inc. และนายกอบศักดิ์ ดวงดี เลขาธิการสมาคมธนาคารไทย เกี่ยวกับแนวทางพัฒนาและเชื่อมโยงข้อมูลด้านการค้าระหว่างประเทศของไทยกับญี่ปุ่น เพื่อช่วยให้ผู้ประกอบการมีข้อมูลสำหรับตัดสินใจและค้นหาคู่ค้า ลดต้นทุนและความยุ่งยากในการจัดเก็บเอกสาร โดย TradeWaltz อยู่ระหว่างต่อเชื่อมระบบกับแพลตฟอร์มกลางด้านการค้าของนานาประเทศรวมทั้งประเทศไทย เพื่อช่วยให้ภาคธุรกิจเข้าถึงแหล่งสินค้าหรือวัตถุดิบได้รวดเร็ว
 
รวมทั้งได้เข้าพบปะหารือกับนายเคอิชิโระ นากาซาวา ผู้อำนวยการอาวุโส ฝ่ายเอเชียตะวันออก เอเชียใต้ และแปซิฟิก และฝ่ายการเงินพันธมิตรภาคเอกชน ณ JICA เกี่ยวกับแนวทางส่งเสริมการค้าการลงทุนระหว่างไทยกับญี่ปุ่น รวมทั้งการลงทุนภายใต้ ACMECS โดยเฉพาะโครงการด้านโครงสร้างพื้นฐานและ BCG
 
หลังจากนั้นได้เข้าพบปะหารือกับคณะผู้บริหาร MUFG Bank, Ltd. และนายประกอบ เพียรเจริญ กรรมการเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ซึ่งเป็นธนาคารในเครือของ MUFG Group เพื่อหารือกรอบความร่วมมือและแลกเปลี่ยนมุมมองการดำเนินธุรกิจตามหลักการพัฒนาอย่างยั่งยืน ทั้งนี้ MUFG Bank, Ltd. ถือเป็นสถาบันการเงินขนาดใหญ่ที่สุดในญี่ปุ่นที่เป็นพันธมิตรและคู่ค้าที่สำคัญของ EXIM BANK ที่จะช่วยสนับสนุนบทบาทของธนาคารเพื่อการพัฒนาแห่งประเทศไทย เชื่อมโยงการพัฒนาในมิติเศรษฐกิจกับสังคมและสิ่งแวดล้อม โดยสอดคล้องกับเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของ EXIM BANK