นิวส์ คอนเน็คท์ – ธอส.มั่นใจ ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 62 ทำได้ตามเป้า 2.03 แสนล้านบาท หลังช่วง 10 เดือนแรกทำยอดสินเชื่อได้แล้วกว่า 1.66 แสนล้านบาท พร้อมสะกิดลูกค้ารีบใช้สิทธิ์ในมาตรการลดค่าโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง หวั่นวงเงินที่เตรียมไว้ 5 หมื่นล้านบาทหมดภายในพริบตา แย้มมีลูกค้ายื่นใช้สิทธิ์แล้วราว 1,769 ราย วงเงิน 3.6 พันล้านบาท

เมื่อวันที่ 4 พฤศจิกายน 2562 นายฉัตรชัย ศิริไล กรรมการผู้จัดการธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) เปิดเผยว่า ภาพรวมยอดปล่อยสินเชื่อของธนาคารในช่วง 10 เดือนแรกของปี 62 ยังถือว่ามีการเติบโตได้ตามปกติ แม้ยอดปล่อยสินเชื่อในช่วงเดือนตุลาคมจะทำได้เพียง 1.7 หมื่นล้านบาท ซึ่งลดลงเล็กน้อยเมื่อเทียบกับช่วงปกติที่จะมียอดปล่อยสินเชื่อราว 1.9 หมื่นล้านบาท เนื่องจากลูกค้าส่วนใหญ่มีการเลื่อนโอนกรรมสิทธิ์ เพราะต้องการเข้าร่วมกับมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์จาก 2% เหลือ 0.01% และค่าธรรมเนียมการจดจำนองจาก 1% เหลือ 0.01%

อย่างไรก็ตาม ธนาคารยังมั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ปี 62 จะทำได้ตามเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ 2.03 แสนล้านบาท หลังจากช่วง 10 แรกมียอดปล่อยสินเชื่อประมาณ 1.66 แสนล้านบาท ซึ่งคาดว่ายอดปล่อยสินเชื่อในเดือนพ.ย.และธ.ค. จะทำได้ราว 1.8 หมื่นล้านบาทต่อเดือน ขณะที่ปัจจุบันมีจำนวนลูกค้ายื่นขอสินเชื่อและรอเข้าร่วมาตรการกับรัฐบาลจำนวน 1,769 ราย หรือคิดเป็นวงเงินสินเชื่อราว 3.6 พันล้านบาท

ทั้งนี้ ธนาคารได้มีการเตรียมวงเงินจำนวน 5 หมื่นล้านบาท เพื่อใช้ในการปล่อยสินเชื่อให้กับลูกค้าที่ต้องการใช้สิทธิ์ในมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนกรรมสิทธิ์และค่าจดจำนอง ซึ่งกระทรวงมหาดไทยได้ประกาศในราชกิจจานุเบกษาและมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 พ.ย.62 ไปจนถึงสิ้นปี 63 โดยธนาคารคาดว่าจะมีการอนุมัติสินเชื่อให้กับลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการดังกล่าวประมาณ 3 หมื่นล้านบาทภายในสิ้นปีนี้ และเหลือไปในปีหน้าอีกราว 2 หมื่นล้านบาท

“วันนี้ถือเป็นวันแรกที่เริ่มมาตรการลดค่าธรรมเนียมโอนกรรมสิทธิ์และจดจำนอง ซึ่งเราเตรียมวงเงินไว้จำนวน 5 หมื่นล้านบาท คาดว่าภายในสิ้นปีนี้จะอนุมัติสินเชื่อประมาณ 3 หมื่นล้านบาท และที่เหลืออีก 2 หมื่นล้านบาทคาดว่าช่วงต้นปีหน้าก็คงหมด ซึ่งลูกค้าคนไหนต้องการใช้สิทธิ์ในมาตรการนี้ก็ควรรีบยื่นขอสินเชื่อก่อนที่วงเงินที่เราเตรียมไว้จะหมด เพราะธาคารไม่สามารถเพิ่มวงเงินสินเชื่อได้แล้ว หากจะเพิ่มก็คงต้องให้คลังเป็นคนซับพอร์ต” นายฉัตรชัย กล่าว

สำหรับแผนการดำเนินงานของธนาคารในปี 63 เบื้องต้นได้มีการเสนอเป้าหมายไปยังกระทรวงการคลัง โดยตั้งเป้ายอดปล่อยสินเชื่อใหม่ไว้ที่ 2.09 ล้านบาท เติบโต 3% จากปี 62 และตั้งเป้ากำไรสุทธิไว้ที่ 1.3 หมื่นล้านบาทจากปี 62 ที่คาดว่ากำไรสุทธิจะทำได้ 1.2 หมื่นล้านบาท ส่วนตัวเลขหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้(NPL) ตั้งเป้าลดลงมาอยู่ที่ 4.15% จากปี 62 ที่ NPL จะอยู่ที่ระดับ 4.3% เนื่องจากธนาคารจะมีการนำหนี้ที่เป็น NPL มาบริหารจัดการและจำหน่ายออกไป

ในส่วนของการจำหน่ายสลากออมทรัพย์ของ ธอส. รุ่นที่ 1 ชุดวิมานเมฆ หน่วยละ 1 ล้านบาท ที่มีลูกค้าให้ความสนใจจับจองครบทุกหน่วยที่ธนาคารเปิดจำหน่ายทั้ง 27,000 ล้านบาท เช่นเดียวกับสลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 2 ชุดพราวพิมาน มูลค่าหน่วยละ 10 ล้านบาท จำนวน 3,000 หน่วย รวมเป็นจำนวนเงิน 30,000 ล้านบาท ขณะที่ธนาคารจะเริ่มเปิดจำหน่ายสลากออมทรัพย์ ธอส. รุ่นที่ 2 ชุดพราวพิมานตั้งแต่วันที่ 2 ธ.ค. 62 ถึง 15 ม.ค. 63 โดยคาดว่าจะสามารถจำหน่ายหมดทั้ง 30,000 ล้านบาทเช่นกัน

#ธอส.
#มาตรการสินเชื่ออสังหา
#ฉัตรชัยศิริไล
#สลากธอส.วิมานเมฆ