Phones





KTMS แจกโบนัสส่งท้ายปี เปิดเทรดวันแรกราคาพุ่ง 64.52%

2022-12-23 12:07:59 126



นิวส์ คอนเน็คท์ - KTMS แจกโบนัสส่งท้ายปี 65 เปิดเทรดวันแรก 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 64.52% จากราคา IPO ที่ 3.10 บาทต่อหุ้น สยายปีกการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม แบบ One-stop Services เพิ่มอีก 14 แห่งทั่วประเทศ – โรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม และศูนย์บริการวิศวกรรมในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ หนุนแนวโน้มเติบโตเฉลี่ย 30% ตอกย้ำการเป็นหุ้น Growth Stock ไร้หนี้ D/E ต่ำ

เมื่อวันที่ 23 ธันวาคม 2565 บริษัท เคที เมดิคอล เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ KTMS เข้าจดทะเบียนและทำการซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์ เอ็ม เอ ไอ หรือ mai เป็นวันแรก และเป็นหุ้นตัวสุดท้ายที่เข้าทำการซื้อขายของปี 65 โดยราคาเปิดซื้อขายที่ 5.10 บาท เพิ่มขึ้น 2 บาท หรือ 64.52% จากราคา IPO ที่ 3.10 บาทต่อหุ้น โดยระหว่างการซื้อขาย ราคาขึ้นไปแตะระดับสูงสุดที่ 5.15 บาท ก่อนจะมีแรงขายทำกำไรออกมา และลงไปแตะระดับต่ำสุดที่ 4.30 บาท เมื่อเวลา 11.09 น. 
 
นางสาวกาญจนา พงศ์พัฒนะเดชา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร KTMS เปิดเผยว่า พอใจกับราคาเปิดซื้อขาย สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของนักลงทุนที่มีต่อ KTMS ซึ่งต้องขอบคุณนักลงทุนที่ให้การตอบรับ และให้ความเชื่อมั่นในทีมคณะผู้บริหารของ KTMS เนื่องจากเราเป็นหนึ่งในผู้นำด้านการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์ สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม รวมทั้งการขายและการให้บริการที่เกี่ยวข้องกับการแพทย์แบบครบวงจร (One-stop Services) รายแรกที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย

"ด้วยประสบการณ์การเป็นผู้เชี่ยวชาญการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม มากกว่า 15 ปี วันนี้ถือเป็นอีกก้าวสำคัญที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นถึงความสำเร็จของบริษัทฯสู่การเข้าระดมทุนในตลาดเอ็ม เอ ไอ ซึ่งยิ่งตอกย้ำถึงศักยภาพความแข็งแกร่งและโอกาสเติบโตในธุรกิจบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมในอนาคต สอดรับกับจำนวนผู้ป่วยโรคไตวายเรื้อรังที่ต้องเข้ารับบริการการรักษาเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 15% ต่อปี ประกอบกับปัจจุบันประเทศไทยเข้าสู่สังคมผู้สูงอายุ ซึ่งเป็นกลุ่มที่จะมีการทำงานของไตเสื่อมลง ทำให้ผู้ป่วยไตวายเรื้อรังมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น ซึ่งปัจจัยดังกล่าว ส่งผลเชิงบวกให้ KTMS มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยประมาณ 30%" นางสาวกาญจนา กล่าว 

สำหรับเงินที่ได้จากระดมทุนครั้งนี้กว่า 237 ล้านบาท KTMS จะนำไปต่อยอดธุรกิจการให้บริการ เพื่อใช้ลงทุนในสถานพยาบาลฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม จำนวน 155 ล้านบาท พร้อมทั้งขยายสาขาเพิ่มอีก 14 แห่งทั่วประเทศ แบ่งเป็น Outsource 8 สาขา และ 6 สาขาเป็น Stand Alone ซึ่งจะทำให้บริษัทฯ มีจำนวนเครื่องไตเทียม เพิ่มขึ้น 123 เครื่อง นอกจากนี้ บริษัทฯ ยังมีแผนลงทุนในโรงงานผลิตน้ำยาไตเทียม และศูนย์บริการวิศวกรรม ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ จำนวน 61 ล้านบาท เพื่อรองรับปริมาณผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มมากขึ้น คาดว่าจะเพิ่มขีดความสามารถด้านการแข่งขัน เพื่อขยายการรองรับโอกาสทางธุรกิจใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในอนาคต จากปัจจุบันบริษัทฯ มีเครื่องไตเทียมรวม จำนวน 254 เครื่องมีหน่วยไตเทียม จำนวน 20 สาขา ซึ่งครอบคลุมพื้นที่ส่วนใหญ่ของประเทศ ทั้งภาคกลางและกรุงเทพมหานคร 2 สาขา ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ 10 สาขา ภาคเหนือ 4 สาขา ภาคตะวันออก 2 สาขา และภาคตะวันตก 2 สาขา เพื่อรองรับการให้บริการจากปริมาณผู้ป่วยโรคไตที่เพิ่มขึ้น

อกจากการให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมแล้ว KTMS มีกลยุทธ์ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ผ่าการดำเนินการผ่านบริษัทย่อย 3 บริษัท ประกอบด้วย 1) บริษัท เออร์วิง คอร์ปอเรชั่น จำกัด ให้บริการออกแบบติดตั้งระบบผลิตน้ำบริสุทธิ์สำหรับการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมและการบำรุงรักษา , ผลิตและจัดจำหน่ายน้ำยาไตเทียม 2) บริษัท เมดิคอล วิชั่น จำกัด ให้บริการออกแบบและติดตั้งอุปกรณ์ท่อลมรับ-ส่ง สิ่งส่งตรวจทางการแพทย์ 3) บริษัท เนโฟร วิชั่น จำกัด ให้บริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียม ทั้งในรูปแบบคลินิกเวชกรรมเฉพาะทางไตเทียม และหน่วยไตเทียมในโรงพยาบาล โดยจะเป็นการร่วมมือกับอายุรแพทย์โรคไตในพื้นที่เป็นหลัก เพื่อทำให้อายุรแพทย์โรคไตรู้สึกถึงความเป็นเจ้าของร่วม อีกทั้งจะได้รับสิทธิประโยชน์จากนโยบายสนับสนุน SME ของภาครัฐ จากการเพิ่มโอกาสให้กับกลุ่มผู้ประกอบการ SME ในการประมูลงานโครงการกับภาครัฐ ซึ่งถือได้ว่าเป็นผู้ประกอบการการให้บริการที่ครบวงจรตั้งแต่ต้นน้ำถึงปลายน้ำ ซึ่งปัจจัยดังกล่าว ส่งผลเชิงบวกให้ “KTMS” มีแนวโน้มเติบโตเฉลี่ยประมาณ 30% 

ด้านนายเอกจักร บัวหภักดี กรรมการผู้จัดการ บริษัท แคปปิตอล วัน พาร์ทเนอร์ จำกัด ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า KTMS เป็นบริษัทฯที่อยู่ในช่วงที่มีอัตราการเติบโต และจะเป็นหุ้น ประเภทหุ้น ESG ที่มีความยั่งยืนต่อเนื่อง และมีความเสี่ยงต่ำ โดยหากพิจารณาจากสถานะทางการเงินที่แข็งแกร่ง จากรายได้เฉลี่ยย้อนหลัง 3 ปี (CAGR) ที่ 30.73% ประกอบกับมีอัตราส่วนหนี้สินต่อส่วนของผู้ถือหุ้น (D/E) ต่ำ เป็นหุ้นที่มีรายได้มั่นคง และสร้างผลตอบแทนที่ดีแก่นักลงทุน โดยเห็นได้จากการเข้าซื้อขาย ในตลาดหลักทรัพย์ mai วันนี้ ถือว่าได้รับความสนใจจากนักลงทุนเป็นอย่างมาก เนื่องจากทำให้เห็นถึงศักยภาพปัจจัยพื้นฐานที่แข็งแกร่งของบริษัทฯ