Phones





BIS เริ่มฟื้นตัว โชว์ยอดขายไตรมาสแรก 535.29 ล.

2023-05-11 15:13:03 104




นิวส์ คอนเน็คท์ - BIS เผยไตรมาส 1 สามารถรักษาระดับรายได้รวม 535.29 ล้านบาท ใกล้เคียงปีก่อน แม้ตลาดหมูยังไม่ฟื้นตัว เปิดแผนปีนี้ มุ่งขยายธุรกิจต่อเนื่อง ชูกลยุทธ์สินค้า ESG ตอบโจทย์ฟาร์มปศุสัตว์ครบวงจร พร้อมจัดตั้งบริษัทลูก รุกตลาดสัตว์เลี้ยงและ รุกตลาดเมียนมาร์ พร้อมขยายตลาด CLMV มองทิศทางรายได้เติบโต ตั้งเป้าปีนี้ โต 15%

เมื่อวันที่ 11 พฤษภาคม 2566 นายสัตวแพทย์ ธนวัฒน์ คงเจริญสมบัติ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) หรือ “BIS” ผู้นำยา วัคซีน และเวชภัณฑ์สัตว์ เปิดเผยถึงผลการดำเนินงานไตรมาส 1 ประจำปี 2566 บริษัทฯ มีรายได้จากการขายรวม 535.29 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีรายได้ 533.79 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.50 ล้านบาท หรือคิดเป็น 0.28% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนหน้า โดยรายได้จากการขายที่เพิ่มขึ้นมาจากการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ได้แก่ โรงงานผลิตอาหารสัตว์ขนาดกลางและขนาดใหญ่ จากการจำหน่ายผลิตภัณฑ์วัตถุดิบอาหารสัตว์ (Ingredient) ไตรมาสนี้ บริษัทฯ มีกำไรสุทธิ 7.10 ล้านบาท เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ที่มีกำไรสุทธิ 17 ล้านบาท โดยมีสาเหตุหลักมาจากบริษัทฯ มีกำไรขั้นต้นที่ลดลง จากอัตรากำไรขั้นต้นที่ลดลง เนื่องจากยอดขายของสินค้าในกลุ่มธุรกิจปศุสัตว์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งตลาดหมูยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ ส่งผลให้อัตรากำไรและความต้องการในสินค้าของลูกค้ายังไม่ฟื้นตัว ทั้งนี้ บริษัทฯ คาดการณ์ว่าสถานการณ์จำนวนประชาชากรสุกรมีแนวโน้มปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่องในแต่ละไตรมาสตลอดปี 2566 ซึ่ง คาดว่าจะเป็นปัจจัยบวกต่อยอดรายได้ในกลุ่มผลิตภัณฑ์รักษาและป้องกันโรคสำหรับสัตว์ (Animal Health) และผลิตภัณฑ์เสริมอาหารและวิตามินสำหรับสัตว์ (Nutrition) ภายในปีนี้

ในปี 2566 นี้ BIS ได้ขยายธุรกิจใหม่อย่างต่อเนื่อง ด้วยกลุ่มผลิตภัณฑ์ ESG อาทิ งานรับติดตั้งโซลาร์รูฟท็อป จำหน่ายเตาเผากำจัดซากสัตว์ และกลุ่มผลิตภัณฑ์บำบัดน้ำเสีย ซึ่งเป็นการนำโซลูชั่นและเทคโนโลยีใหม่ๆ ด้านพลังงาน และไบโอเทค รวมถึงนวัตกรรมที่ช่วยตอบโจทย์ลูกค้าหลักของ BIS ด้านประหยัดพลังงาน ลดภาวะโลกร้อน ดูแลสิ่งแวดล้อม พร้อมยกระดับคุณภาพชีวิตที่ดี โดยยึดหลัก ESG ขับเคลื่อนองค์กรและธุรกิจ สู่การเติบโตอย่างยั่งยืน โดย BIS ได้เซ็นสัญญาติดตั้งแผงโซล่ารูฟท็อปแล้ว 2 โครงการ และกำลังเสนองานเพิ่มอีกนับสิบโครงการ คิดเป็นจำนวนกำลังการผลิตไฟฟ้ามากกว่า 10 เมกะวัตต์ นับว่าเป็นการได้กระแสตอบรับที่ดี เนื่องจากสามารถช่วยลดภาระปัญหาค่าไฟแพงในช่วงปัจจุบัน ได้มากถึงประมาณ 40% โดยการลงทุน solar rooftop จะใช้เวลาคืนทุนสั้นประมาณ 4 ปี แต่ทั้งนี้ หากค่า FT สูงอาจใช้เวลาเพียง 3 ปี หรือ 3.5 ปี เท่านั้น

อีกทั้ง BIS Group ได้ดําเนินการจัดตั้ง บริษัท นิคอินเตอร์เทค (เมียนมาร์) จํากัด ดําเนินธุรกิจขายส่งสินค้าทางเภสัชภัณฑ์และทางการแพทย์ เป็นบริษัทย่อยของบริษัท นิวทริชั่น อิมพรูฟเมนท์ จํากัด โดยมีทุนจดทะเบียน 80,000 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งบริษัท นิวทริชั่น อิมพรูฟเมนท์ จํากัด ถือหุ้นร้อยละ 70 ของทุนจดทะเบียน สำหรับแหล่งเงินทุนที่ใช้เป็นเงินจากการเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทยครั้งแรก

การจัดตั้งบริษัทในครั้งนี้ เป็นส่วนหนึ่งในแผนการดำเนินธุรกิจของบริษัท ที่ต้องการก้าวขึ้นเป็นหนึ่งในผู้นำด้านไบโอเทคประเทศไทยและภูมิภาคอาเซียนที่เติบโตอย่างยั่งยืน และเนื่องด้วยเศรษฐกิจประเทศเพื่อนบ้านอย่าง CLMV (กัมพูชา ลาว สหภาพเมียนมาร์ และเวียดนาม) ในปีนี้จะขยายตัวแข็งแกร่งขึ้น สวนกระแสเศรษฐกิจโลกชะลอตัว แม้ว่าการเติบโตจะยังต่ำกว่าศักยภาพเมื่อเทียบกับช่วงก่อนโควิด-19 ก็ตาม แต่ก็มีการคาดการณ์ว่าตลาดประเทศเมียนมาร์จะขยายตัวสูง ถือได้ว่าเป็นหนึ่งในประเทศที่น่าสนใจต่อนักลงทุน เพราะศักยภาพของตลาดในประเทศมีการขยายตัวต่อเนื่อง มีสนธิสัญญาการค้าเสรีต่างๆ กับประเทศคู่ค้าที่สำคัญ สามารถเป็นฐานการผลิตไปตลาดใหญ่อย่างอินเดียและจีน รวมถึงส่งออกสินค้าที่ต้นทุนต่ำกลับมาไทย นอกจากนี้ยังสามารถเป็นแหล่งกระจายสินค้าที่นำเข้าจากไทยได้อีกด้วย ซึ่งสถานการณ์ในปัจจุบันบริษัทยังมีความได้เปรียบในตลาดที่มีคู่แข่งน้อยกว่าและค่าแรงของตลาดเมียนมาร์ ซึ่งถือได้ว่าจะเป็นฐานรากของการขยายธุรกิจอื่นในอนาคต เพื่อให้บริการลูกค้าทุกกลุ่มในภูมิภาคอาเซียนอย่างทั่วถึง ด้วยคุณภาพการกระจายสินค้า การสนับสนุนด้านเทคนิคบริการหลังการขายและกลยุทธ์การตลาดที่เหมาะสม โดยครอบคลุมตลาดปศุสัตว์ สัตว์น้ำและสัตว์เลี้ยง เพื่อเป็นผู้นำในการจัดหานวัตกรรมและสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์ควบคู่ไปกับการบริการเทคโนโลยีขั้นสูงในภาคสุขภาพสัตว์” 

นอกจากนี้ บริษัทฯ เตรียมรุกตลาด สัตว์เลี้ยงในประเทศมากยิ่งขึ้น เนื่องจาก ตลาดมีขนาดใหญ่ อัตราเติบโตสูง และที่สำคัญผู้บริโภคมีกำลังซื้อสูงและลูกค้าพร้อมใช้จ่ายเพื่อสัตว์เลี้ยง จึงได้จัดตั้งบริษัท บียอนด์ แอนิมัล ไซเอนซ์ จำกัด (“BAS”) เพื่อดำเนินธุรกิจเพื่อดำเนินธุรกิจนำเข้า และจัดจำหน่าย ค้าส่ง ค้าปลีก กระจายสินค้า เวชภัณฑ์สำหรับสัตว์เลี้ยง เครื่องมือแพทย์ และบริการทางสัตวแพทย์ที่เกี่ยวข้องกับสัตว์เลี้ยง (สุนัข แมว เป็นต้น) ทั้งนี้ บริษัทได้ดำเนินการจดทะเบียนจัดตั้งบริษัทย่อยแห่งใหม่กับกรมพัฒนาธุรกิจการค้า กระทรวงพาณิชย์เป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยทุนจดทะเบียน 1,000,000 บาท (หนึ่งล้านบาท) โครงสร้างการถือหุ้นบริษัท ไบโอซายน์ แอนิมัล เฮลธ์ จำกัด (มหาชน) ถือหุ้นร้อยละ 90 ของทุนจดทะเบียน 

บริษัทยังคงมุ่งพัฒนาชุดตรวจวินิจฉัยโรคในสัตว์และในมนุษย์ เพื่อเสริมสร้างจุดแข็งเดิม ได้แก่ การเป็นผู้นำเข้าวัคซีน ยา เวชภัณฑ์ระดับโลก การมีฐานลูกค้าขนาดใหญ่ทั่วประเทศในอุตสาหกรรมอาหารของไทยที่มีมูลค่าการส่งออกอาหารสูงติดอันดับโลก และความสำเร็จในการสร้างสรรค์ นวัตกรรมที่สามารถแก้ปัญหาด้านสุขอนามัยของโลก เช่น การผลิตชุดตรวจโรคอหิวาต์แอฟริกันในสุกร หรือ ASF ซึ่งได้รับการตอบรับจากตลาดอย่างดีเยี่ยมและยอดขายเติบโตอย่างรวดเร็วและต่อเนื่อง และการผลิตชุดตรวจโควิด-19 แบบ Real time PCR ซึ่งเป็นผู้ผลิตไทยรายแรกที่กระทรวงสาธารณสุขรับรองมาตรฐาน นายสัตวแพทย์ธนวัฒน์ กล่าวปิดท้าย