Phones
หน้าแรก
Stock
เศรษฐกิจมหภาค
แบงก์ - Finance
อสังหาริมทรัพย์ - Marketing
ประกัน - ท่องเที่ยว
Variety
สกู้ป พิเศษ
SET
NER คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด “AAA”
MAI
MMM คว้าบริหารงานขายแก่ "ทรัพย์พล กรุ๊ป" 1,195 ล้านบ.
IPO
TEBP พร้อมระดมทุนเข้า mai ขาย IPO 90 ล้านหุ้น
บล./บลจ
SCB WEALTH แนะสร้างธรรมนูญครอบครัว ส่งต่อความมั่งคั่ง
เศรษฐกิจ-การเงิน-การคลัง
SCB EIC จับสัญญาณ กนง. ลดดอกเบี้ยครึ่งแรกปี 69
การค้า - พาณิชย์
บสย. เตรียมวงเงิน 50,000 ล. เสริมสภาพคล่อง SME
พลังงาน - อุตสาหกรรม
PTTEP ร่วมลงทุนกับ TotalEnergies ขยายการลงทุนมาเลเซีย
คมนาคม - โลจิสติกส์
LEO จับมือ สวนสุนันทา ปั้นนักศึกษาทุนโลจิสติกส์รุ่นที่ 3
แบงก์ - นอนแบงก์
KBANK ขานรับมติกนง. หั่นดอกเบี้ยเงินกู้สูงสุด 0.25%
ไฟแนนซ์ - ลิสซิ่ง
SAWAD ส่งมาตรการ “พักชำระเงินต้น” ช่วยลูกค้าประสบอุทกภัยภาคใต้
SMEs - Startup
SCBX ยื่นจดสิทธิบัตร 3 นวัตกรรมสำคัญด้าน AI
ประกันภัย - ประกันชีวิต
คปภ. แนะใช้บริการ “กรมธรรม์ของฉัน” หรือ “My Policy” ผ่าน Line
รถยนต์
AJA จับมือพันธมิตรจีน ขับเคลื่อนอุตฯ พลังงานสะอาด
ท่องเที่ยว
TAGTHAi คว้ารางวัล Best in AI-Ready Platform
อสังหาริมทรัพย์
A5 อวดยอดขาย “CINQUIÈM Krungthep Kreetha” พุ่งสูง 50%
การตลาด
ATLAS ผนึก Shopee Food เติมความสุขทุกออเดอร์
CSR
SCBX ยื่นจดสิทธิบัตร 3 นวัตกรรมสำคัญด้าน AI
Information
EXIM BANK สนับสนุนผลิตภัณฑ์ฝึกอาชีพผู้ต้องขังจังหวัดพิษณุโลก
Gossip
HL เปิดซื้อหุ้นคืนรอบใหม่
Entertainment
ออมสิน เดินหน้ายกระดับผู้ประกอบการ SMEs
สกุ๊ป พิเศษ
อุทกภัยหาดใหญ่ : ตอกย้ำบทบาท คปภ. และความแข็งแกร่งระบบประกันภัยไทย
KBank Private Banking แนะกลยุทธ์ลงทุนช่วงโค้งสุดท้ายของปี
2023-10-05 20:25:16
298
sharer
นิวส์ คอนเน็คท์ - KBank Private Banking ประเมินเศรษฐกิจโลกในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปีมีแนวโน้มหดตัวจากการขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วและแรงเพื่อควบคุมเงินเฟ้อ ในปีที่ผ่านมา ขณะที่คาดว่าวัฏจักรการขึ้นดอกเบี้ยถึงจุดสิ้นสุดแล้ว แต่ยังคงคำแนะนำให้กระจายการลงทุน โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่ให้ลงทุนในกองทุนผสมแบบ Risk-based
เมื่อวันที่ 5 ตุลาคม 2566 นายจิรวัฒน์ สุภรณ์ไพบูลย์ Executive Chairman, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย เปิดเผยว่า ในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี ถือเป็นอีกไมล์สโตนสำหรับการลงทุน โดยในช่วง 3 ไตรมาสแรกของปี 2566 ธนาคารกลางสหรัฐ หรือ Fed ได้ประกาศขึ้นอัตราดอกเบี้ยมาตลอด 18 เดือนที่ผ่านมา ในการประชุม 11 ครั้ง เช่นเดียวกับธนาคารกลางยุโรป หรือ ECB ที่เดินหน้าขึ้นดอกเบี้ยต่อเนื่องเพราะแม้เงินเฟ้อลดลงแต่ยังสูงกว่าเป้าหมาย นอกจากนั้นตั้งแต่ต้นปีเศรษฐกิจโลกได้เผชิญความผันผวนจากหลายเหตุการณ์สำคัญๆ อาทิ วิกฤตธนาคารในสหรัฐฯ และยุโรป ไม่ว่าจะเป็น การปิดตัวลงของ Silicon Valley Bank และ UBS ต้องเข้าซื้อกิจการของ Credit Suisse ในฝั่งของจีนก็ได้สร้างความผิดหวังให้ตลาดหลังเปิดประเทศแล้วยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ ส่วนประเทศไทยบ้านเราก็มีรัฐบาลและนายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่คาดว่าจะมาพร้อมกับมาตราการกระตุ้นเศรษฐกิจขนานใหญ่ ส่งผลให้บางช่วงของปีดัชนีตลาดหุ้นโลก (MSCI All Country World Index) ได้ปรับขึ้นไปถึง +15% แต่ ณ ปัจจุบันได้มีการปรับตัวลงมาบ้างอยู่ที่ +10%”
สำหรับแนวโน้มเศรษฐกิจโลกพบว่าภาคการผลิตของโลกอยู่ในแนวโน้มหดตัว ขณะที่ภาคบริการแม้ยังขยายตัวได้แต่ลดลงมากเป็นผลสะสมมาจากการขึ้นดอกเบี้ยอย่างเร็วและแรงในปี 2565-2566 โดยในส่วนของสหรัฐฯ เงินเฟ้อถือว่าปรับลงมามากแล้ว แต่ที่ผ่านมาเศรษฐกิจยังฟื้นตัวได้ดี ทำให้ธนาคารกลางใช้โอกาสนี้ขึ้นดอกเบี้ยเพื่อควบคุมเงินเฟ้อให้มากที่สุด KBank Private Banking มองว่ามีโอกาส 70% ที่จะเห็น Soft Landing คือต้นทุนดอกเบี้ยสูงจะกดดันธุรกิจ การจ้างงานและการใช้จ่าย ทำให้เศรษฐกิจชะลอลงแต่ไม่ถึงกับตกต่ำรุนแรง เงินเฟ้อลดลงเข้าใกล้เป้าหมาย และธนาคารกลางหยุดขึ้นดอกเบี้ย แต่ก็มีความเป็นไปได้อีก 10% ที่เศรษฐกิจเติบโตมาก เช่น สูงกว่า 3% ตามมาด้วยการพุ่งขึ้นของเงินเฟ้อ ทำให้ธนาคารสหรัฐฯ ขึ้นดอกเบี้ยนโยบายต่อไปถึง 6.5-7%
ด้านยุโรป เป็นภูมิภาคที่น่ากังวลที่สุด เพราะแม้จะรับมือกับวิกฤตราคาพลังงานได้ดีกว่าคาด แต่โมเมนตัมของเศรษฐกิจอ่อนกำลังลงมาก โดยเฉพาะเยอรมันที่พึ่งพิงการค้าระหว่างประเทศ ทางด้านจีน หลังจากที่ตัวเลขเศรษฐกิจออกมาอ่อนแรงลง ทางการจีนก็เดินหน้าอออกมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจ แต่ตลาดคาดหวังการปฏิรูปอย่างมีนัยยะมากขึ้น เพราะปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์ยังยืดเยื้อ จีนต้องเร่งสร้างเสถียรภาพการจ้างงาน กระตุ้นความต้องการบริโภค และแก้ไขปัญหาหนี้สินของรัฐบาลท้องถิ่น
ขณะที่ประเทศนั้นไทย ทางศูนย์วิจัยกสิกรไทยคาด GDP ปี 2566 จะขยายตัวที่ 3% ในปี ดีขึ้นกว่าปีที่แล้วที่ 2.6% แต่ได้ปรับลดลงจากการคาดการณ์เมื่อช่วงกลางปี เนื่องจากเศรษฐกิจโลกชะลอตัวโดยเฉพาะจีน ส่งผลกระทบกับจำนวนนักท่องเที่ยวและการส่งออก
“เพื่อรับมือกับความไม่แน่นอนและผันผวนสูง KBank Private Banking ในฐานะที่ปรึกษาด้านการลงทุนยังคงคำแนะนำให้นักลงทุนให้ความสำคัญกับการจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core & Satellites และการกระจายความเสี่ยง ซึ่งเป็นรากฐานสำคัญของกลยุทธ์การลงทุนที่แนะนำมาโดยตลอด” นายจิรวัฒน์ กล่าว
ด้านนางสาวศิริพร สุวรรณการ Senior Managing Director, Financial Advisory Head, Private Banking Group ธนาคารกสิกรไทย กล่าวว่า KBank Private Banking ยังเชื่อมั่นในการกระจายการลงทุน โดยแนะนำจัดพอร์ตการลงทุนแบบ Core & Satellites โดยเงินลงทุนส่วนใหญ่ (Core portfolio) 50-70% ของเงินลงทุนให้ลงทุนในกองทุนผสมแบบ Risk-based ที่กระจายลงทุนในสินทรัพย์หลักทั่วโลกผ่านกองทุน ALL ROADS Series ที่ใช้การจัดการลงทุนอย่างเป็นระบบ มีกฎเกณฑ์ชัดเจน ไม่ขึ้นกับการคาดการณ์ของตลาดหรือผู้จัดการกองทุน และเงินลงทุนส่วนเสริม (Satellites portfolio) 30-50% ของเงินลงทุนให้ลงทุนตามสถานการณ์ของเศรษฐกิจและตลาดทุน โดยจัดสรรเงินลงทุนในทั้งหุ้น ตราสารหนี้ พร้อมทั้งกระจายลงทุนในสินทรัพย์ทางเลือกทั้ง Hedge Funds ตลอดจนสินทรัพย์นอกตลาด ทั้งนี้เรายังมีเงินสดอยู่เป็นส่วนหนึ่งของพอร์ตเพื่อรอเข้าลงทุนในอนาคต
ทั้งนี้ KBank Private Banking มีมุมมองและคำแนะนำการลงทุนในแต่ละสินทรัพย์ ดังนี้ โดยในส่วนของหุ้นนั้น มีมุมมองบวกมากขึ้น จากข้อมูลทางสถิติพบว่าในไตรมาส 4 ของปี ตลาดหุ้นโลกมักให้ผลตอบแทนเป็นบวก และเมื่อ Fed ขึ้นดอกเบี้ยครั้งสุดท้าย ตลาดหุ้นทุกประเทศให้ผลตอบแทนเป็นบวกหลังจากนั้นเป็นเวลา 12 เดือน โดยธนาคารฯ แนะนำลงทุนในหุ้นที่มีศักยภาพในการเติบโตสูง โดยกระจายไปทั่วโลกไม่ได้กระจุกตัวแค่ในสหรัฐฯ เช่น หุ้นที่เกี่ยวข้องกับความยั่งยืน หุ้นเทคโนโลยี และยังคงมีมุมมองบวกต่อการลงทุนในหุ้นเอเชีย โดยเฉพาะหุ้นจีน และหุ้นไทยที่มีความเสี่ยงขาลงค่อนข้างจำกัด
ขณะที่ตราสารหนี้ ประเมินว่าบอนด์ยีลด์ทั่วโลกเข้าใกล้จุดสูงสุด ดังนั้นการลงทุนในตราสารหนี้ต่อจากนี้มีแนวโน้มให้ผลตอบแทนดี ได้ทั้งผลตอบแทนจากดอกเบี้ยที่ให้อยู่ในระดับสูง และมีโอกาสได้ผลตอบแทนจากราคาที่เพิ่มขึ้นหากบอนด์ยีลด์ปรับลงในระยะข้างหน้า โดยแนะนำลงทุนในกองทุนที่กระจายลงทุนในตราสารหนี้หลายประเภททั้งพันธบัตรรัฐบาล หุ้นกู้บริษัทเอกชน โดยกองทุนมีกลยุทธ์มีการปรับอายุของตราสารเชิงรุกให้เหมาะสมกับสถานการณ์
สำหรับสินทรัพย์ทางเลือก มองว่าปีนี้ถือเป็นโอกาสทองในการเข้าลงทุนในหุ้นนอกตลาด เพราะจากข้อมูลในอดีตพบว่าการเริ่มลงทุนในหุ้นนอกตลาดในปีที่มีวิกฤต การลงทุนในหุ้นนอกตลาดมักให้ผลตอบแทนที่โดดเด่นเมื่อเทียบกับการลงทุนในหุ้นในตลาดหลักทรัพย์ หลังจากที่ลงทุนไปแล้ว 7 ปี และยังแนะนำเติมเต็มพอร์ตการลงทุนด้วยกองทุน Hedge funds ในหลายหลายกลยุทธ์เพื่อกระจายความเสี่ยงของพอร์ตโดยรวม
ทั้งนี้ ผู้ที่สนใจรายละเอียดเพิ่มเติม สามารถรับชมงานสัมมนา Charting the Future : Portfolio Strategies Beyond Rate Hikes ได้ที่ https://youtu.be/aCI12SB3plYหรือสามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมทางเว็บไซต์ของ KBank Private Banking ได้ที่ https://kbank.co/3NrNbw9
NER คว้า SET ESG Ratings 2025 ระดับสูงสุด “AAA”
PTG ผงาด! เข้าดัชนี SET100 - SETESG รอบ 1 ม.ค.-30 มิ.ย.69
SINO วางกลยุทธ์รับมือค่าระวางเรือผันผวน
EXIM BANK วางเป้าสินเชื่อ 1.8 แสนล. - THIP บุกตลาดยุโรป-สหรัฐฯ ดันผลงาน Q4/68 สดใส
SMO ร่วมโครงการ CAC เสริมความเชื่อมั่นการเติบโตยั่งยืน
THIP เปิดงบ 9 เดือน กำไร 166 ล.