นิวส์ คอนเน็คท์ - EA จับมือ TFG ร่วมลงทุนตั้งบริษัททำโซลาร์ลอยน้ำ-โซลาร์รูฟท็อปในฟาร์มเลี้ยงไก่ เลี้ยงสุกรของ TFG 4 แห่ง คาดกำลังการผลิตรวมกว่า 200 เมกะวัตต์ ใช้งบลงทุน 3-4 พันล้านบาท เบื้องต้นลงทุนเฟสแรก 13.78 เมกะวัตต์ จ่อ COD พ.ค.63 คาดมีรายได้ 940 ล้านบาท ช่วยลดค่าไฟฟ้า 20% ต่อปี พร้อมขยายลงทุนต่อเนื่อง

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 นายอมร ทรัพย์ทวีกุล รองประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พลังงานบริสุทธิ์ จำกัด (มหาชน) หรือ EA ผู้นำนวัตกรรมด้านพลังงาน เปิดเผยว่า EA ร่วมกับ บริษัท ไทยฟู้ดส์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ TFG ลงทุนจัดตั้ง บริษัท ทีเอฟ เทค จำกัด (TFT) เพื่อประกอบกิจการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน โดย EA ถือหุ้น 40% TFG 40% ที่เหลือ 20% เป็นบุคคลธรรมดา และมีทุนจดทะเบียน 200 ล้านบาท

โดยการจัดตั้งบริษัท ทีเอฟ เทคฯ ในเบื้องต้นจะดำเนินการลงทุนก่อสร้างและติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ลอยน้ำ (Floating Solar) ติดตั้งระบบผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์บนหลังคา (Solar Rooftop) บนอาคารโรงงาน ฟาร์มเลี้ยงไก่ ฟาร์มสุกรของ TFG และบริษัทในเครือจำนวน 4 แห่ง กำลังการผลิตรวมกันราว 200 เมกะวัตต์ คาดว่าจะใช้เงินลงทุนราว 3,000-4,000 ล้านบาท

โดยในเฟสแรกจะลงทุนติดตั้งโซลาร์ลอยน้ำ ขนาดกำลังการผลิต 13.78 เมกะวัตต์ก่อน คาดว่าจะเริ่มจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบ (COD) ได้ในเดือน พ.ค.63 หลังจากนั้นจะดำเนินการขยายลงทุนในเฟสต่อไปให้ครบ 200 เมกะวัตต์ภายใน 3 ปี อย่างไรก็ตาม หลังจากขยายครบ 200 เมกะวัตต์แล้ว จะมองโอกาสในการขยายการลงทุนร่วมกันในฟาร์มเลี้ยงไก่ เลี้ยงสุกรของ TFG และขยายในฟาร์มของพันธมิตร TFG ต่อไปอีก

นอกจากนี้ EA ยังมองโอกาสขยายลงทุนรูปแบบนี้ในอุตสาหกรรมอื่นๆ อีกด้วย เพื่อสร้างการเติบโตในอนาคต ซึ่งจะเป็นการร่วมลงทุนกับ TFG หรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับการตัดสินใจของ TFG แต่ถ้า TFG ไม่สนใจก็ต้องร่วมกับพันธมิตรรายอื่นขยายการลงทุนต่อไป

สำหรับการลงทุนติดตั้งระบบโซลาร์ลอยน้ำ คาดว่าจะมีต้นทุนอยู่ในระดับ 20-21 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ ซึ่ง TFG จะได้ราคาค่าไฟฟ้าที่ถูกกว่าซื้อจากการไฟฟ้าฝ่ายผลิต และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค โดยจะมีค่าไฟฟ้าเฉลี่ยในระดับ 3 บาทต่อหน่วย ทั้งนี้จากการคำนวณจะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 20% ส่วนโซลาร์รูปท็อปมีต้นทุนอยู่ที่ 15-20 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์ อย่างไรก็ตามจากการลงทุนในโครงการนี้คาดว่าจะมีรายได้ 940 ล้านบาทต่อปี

ด้านนายวินัย เตียวสมบูรณ์กิจ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร TFG กล่าวว่า การร่วมลงทุนกับ EA ในครั้งนี้นอกจากขยายลงทุนโซลาร์ลอยน้ำ และโซลาร์รูปท็อป แล้วยังมองโอกาสร่วมกันลงทุนในโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานทดแทนในรูปแบบอื่นอีกด้วย อย่างไรก็ตาม ในระยะแรกจะขยายการลงทุนในพื้นที่ฟาร์มเลี้ยงไก่ และสุกร รวมถึงในเครื่อของ TFG จำนวน 4 แห่งก่อน และพร้อมจะขยายลงทุนในฟาร์มเลี้ยงไก่ที่จะเปิดใหม่อีก 6 แห่งในปี 63 อีกด้วยเช่นกัน

ขณะที่นายเพชร นันทวิสัย รองประธานสายงานฟาร์มและพัฒนาคุณภาพ TFG กล่าวว่า บริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้ปี 63 เติบโต 15% จากปีนี้ที่คาดทำได้มากกว่าปี 61 ที่มีรายได้ 2.8 หมื่นล้านบาทเล็กน้อย โดยการเติบโตจะมาจากยอดขายทั้งในและต่างประเทศ ซึ่งยังมีดีมานด์สูง ประกอบกับราคาขายเนื้อไก่-หมู อยู่ในระดับที่ดี รวมถึงจะได้แรงหนุนจากการส่งออกเนื้อไก่ไปประเทศจีนด้วย

ทั้งนี้ สัดส่วนส่งออกปัจจุบันอยู่ที่ 30% โดยตลาดหลักคือประเทศจีนและญี่ปุ่น คาดว่าดีมานด์จะดีขึ้นต่อเนื่อง เพราะผู้ส่งออกรายอื่นในภูมิภาคประสบปัญหาโรคระบาด ประเมินว่าการส่งออกปี 63 จะเติบโตไม่ต่ำกว่า 20% และคาดว่าปริมาณการส่งออกเนื้อไก่ดิบจะเพิ่มเป็น 6 หมื่นตันจาก 5 หมื่นตัน และเนื้อไก่ปรุงสุกจะเพิ่มเป็น 1.2 หมื่นตันจาก 5,000 ตัน