นิวส์ คอนเน็คท์ - BBL ยกทีมผู้บริหารเปิดข้อมูล หลังทุ่มเงินลงทุนกว่า 8 หมื่นล้านบาท เข้าซื้อหุ้นสัดส่วน 89.12% ใน “เพอร์มาตา” ธนาคารพาณิชย์ในอินโดนีเซีย หวังใช้ต่อยอดการขยายธุรกิจต่างประเทศ ยืนยันมีเงินสดเพียงพอ และไม่จำเป็นต้องมีการเพิ่มทุน พร้อมการันตีไม่กระทบการจ่ายเงินปันผล คาดปิดดีลภายในไตรมาส 3/63

เมื่อวันที่ 12 ธันวาคม 2562 นายเดชา ตุลานันท์ ประธานกรรมการบริหาร ธนาคารกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BBL เปิดเผยว่า ธนาคารได้มีการทำสัญญาซื้อขายหุ้นกับธนาคารสแตนดาร์ดชาร์เตอร์ด และพีที แอสทร่า อินเตอร์เนชั่นแนล ทีบีเค (แอสทร่า) เพื่อเข้าถือหุ้นในสัดส่วน 89.12% ในธนาคารพีที เพอร์มาตา ทีบีเค (เพอร์มาตา) ซึ่งเป็นธนาคารในประเทศอินโดนีเซีย และจะมีการทำคำเสนอซื้อหุ้น (เทนเดอร์ ออฟเฟอร์)ส่วนที่เหลือทั้งหมดของเพอร์มาตาอีก 10.88% โดยคาดว่ากระบวนการซื้อขายหุ้นดังกล่าวจะเสร็จสิ้นภายในไตรมาส 3/63

ทั้งนี้ ธนาคารมั่นใจว่าการลงทุนเข้าซื้อหุ้นเพอร์มาตาในครั้งนี้มีความคุ้มค่า และจะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับผู้ถือหุ้น โดยไม่กระทบต่อผลการดำเนินงาน และการจ่ายเงินปันผลของธนาคาร โดยธนาคารจะมีการใช้เงินสด และกำไรสะสมจากการดำเนินงานเพื่อเข้าลงทุนในครั้งนี้ ซึ่งยืนยันว่าธนาคารไม่มีความจำเป็นที่จะต้องเพิ่มทุน และจะไม่มีผลกระทบต่อผู้ถือหุ้นของ BBL อย่างแน่นอน

โดยเงินลงทุนที่ธนาคารต้องใช้ในการเข้าถือหุ้นสัดส่วน 89.12% จะอยู่ที่ราว 81,017 ล้านบาท และหากมีการเข้าถือหุ้นสัดส่วน 100% จะใช้เงินลงทุนทั้งสิ้นราว 90,909 ล้านบาท อย่างไรก็ตาม ราคาซื้อหุ้นที่ธนาคารจะต้องชำระในการเข้าซื้อหุ้นจำนวน 89.12% ในเพอร์มาตา จะถูกคำนวณครั้งสุดท้ายโดยอ้างอิงที่อัตรา 1.77 เท่าของมูลค่าตามบัญชีของเพอร์มาตา ตามที่ปรากฏในงบการเงินล่าสุดของเพอร์มาตาที่ได้รับการเผยแพร่ก่อนวันที่ทำธุรกรรมแล้วเสร็จ

สำหรับการตัดสินใจเข้าลงทุนซื้อเพอร์มาตาในครั้งนี้ เพราะประเทศอินโดนีเซียถือเป็นยุทธ์ศาสตร์ทางธุรกิจที่สำคัญ และเป็นกลยุทธ์หนึ่งที่จะช่วยให้ธนาคารสามารถขยายธุรกิจในประเทศอินโดนีเซียได้มากขึ้น โดยประเทศอินโดนีเซียมีอัตราการเติบโตทางเศรษฐกิจที่โดดเด่นที่สุดในเอเชีย และมีปัจจัยพื้นฐานทางเศรษฐกิจมหภาคที่ค่อนข้างน่าสนใจ โดยธนาคารได้มีการขยายธุรกิจไปยังประเทศอินโดนีเซียตั้งแต่ปี 2511 และปัจจุบันมีจำนวนสาขา 3 สาขา

“เรามั่นใจว่าการเข้าลงทุนในเพอร์มาตาครั้งนี้จะสร้างความคุ้มค่าแน่นอน และเงินที่ต้องจ่ายไปก็ถือว่าไม่ได้แพงอะไร เราอยากให้ผู้ถือหุ้นและนักลงทุนมั่นใจว่าดีลนี้จะไม่กระทบต่อผลประกอบการ และการจ่ายเงินปันผล รวมทั้งจะไม่มีการเพิ่มทุนด้วย เพราะกระแสเงินสดที่เรามีอยู่ก็ถือว่าค่อนข้างมาก ส่วนการซื้อแบงก์ในไทยเรามองว่าไม่จำเป็น เราทำธุรกิจมากว่า 70 ปีถือว่าครอบคลุมทุกกลุ่มลูกค้าแล้ว แต่ก็ไม่ปิดโอกาสหากมีดีลที่น่าสนใจ” นายเดชา กล่าว

ด้านนายชาญศักดิ์ เฟื่องฟู กรรมการรองผู้จัดการใหญ่ กรรมการบริหาร BBL กล่าวว่า กระบวนการต่อจากนี้จะมีการหารือในคณะกรรมการธนาคาร ซึ่งคาดว่าจะเกิดขึ้นช่วงต้นเดือนม.ค. 63 โดยหลังจากนั้นจะมีการเรียกประชุมผู้ถือหุ้นเพื่อขออนุมัติในการเข้าลงทุนครั้งนี้ ก่อนที่จะมีการขออนุญาตไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย และแบงก์ชาติของอินโดนีเซีย
สำหรับเพอร์มาตา ถือเป็นธนาคารพาณิชย์อันดับ 12 ของประเทศอินโดนีเซีย โดยมีขนาดสินทรัพย์ราว 3 แสนล้านบาท ซึ่งหากการซื้อขายหุ้นแล้วเสร็จตามแผนในไตรมาส 3/63 ธนาคารก็จะมีการรวมงบการเงินของเพอร์มาตาเข้ามาทันที และจะทำให้ขนาดสินทรัพย์ของ BBL เพิ่มขึ้นเป็น 3.3 ล้านล้านบาท และจะทำให้สัดส่วนสินเชื่อต่างประเทศของธนาคารเพิ่มขึ้นเป็น 25% ของพอร์ตสินเชื่อรวม จากปัจจุบันที่มีสัดส่วนราว 17% ของพอร์ตสินเชื่อรวม