Phones





BBGIลั่นมีศักยภาพทำโรงไฟฟ้าชุมชน200MW

2019-12-19 10:48:01 1034




นิวส์ คอนเน็คท์ - BBGI ซุ่มดีลทำโรงไฟฟ้าชุมชน ลั่นมีศักยภาพ 100-200 MW เน้นไบโอแก๊ส ไบโอแมส พร้อมนำหุ้นเข้าตลาดฯ ปลายปี 63 หลังจากธุรกิจไบโอชีวภาพมีความชัดเจน


เมื่อเร็วๆ นี้ นายพงษ์ชัย ชัยจิรวิวัฒน์ กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) หรือ BBGI ซึ่งเป็นบริษัทย่อยของบริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ BCP เปิดเผยว่า บริษัทมีความพร้อมที่จะเข้าร่วมโครงการโรงไฟฟ้าชุมชนเพื่อเศรษฐกิจฐานรากของกระทรวงพลังงาน เบื้องต้น มองศักยภาพสามารถดำเนินการได้ 100-200 เมกะวัตต์ โดยจะเน้นการผลิตไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพ เนื่องจากบริษัทมีความเชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีการหมักและผลิตไฟฟ้าจากเชื้อเพลิงชีวภาพ ประกอบกับมีวัตถุดิบที่สามารถนำมาผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอ


พร้อมกันนี้ บริษัทจะยื่นเข้าร่วมโครงการในรูปแบบของโครงการทั่วไปที่ไม่ใช่รูปแบบ Quick win ซึ่งจะเป็นการเริ่มต้นดำเนินการใหม่ เพื่อจ่ายไฟฟ้าเข้าระบบในปี 64 โดยจะเน้นเชื้อเพลิงพื้นพลังงาน เช่น ใบอ้อย , ซังข้าวโพด หรือหญ้าเนเปียร์ โดยในส่วนของหญ้าเนเปียร์ บริษัทจะมีการส่งเสริมพื้นที่ปลูกของชุมชนด้วย เพื่อป้อนเป็นเชื้อเพลิงผลิตไฟฟ้า ส่วนการกำหนดพื้นที่ตั้งโรงไฟฟ้าจะพิจารณาที่มีสายส่งไฟฟ้าเป็นหลัก รองลงไปเป็นพื้นที่เพาะปลูก เบื้องต้นมองในแถบบริเวณภาคเหนือ , ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคกลาง


อย่างไรก็ตาม การลงทุนโรงไฟฟ้าชุมชนยังเป็นการตอบโจทย์เรื่องธุรกิจไฟฟ้าสีเขียวของกลุ่ม BCP และการช่วยเหลือชุมชน การเชื่อมโยงเครือข่ายสหกรณ์ที่มีอยู่อีกด้วย สำหรับความเหมาะสมของขนาดโรงไฟฟ้าน่าจะไม่เกิน 5 เมกะวัตต์ต่อโครงการ ใช้เงินลงทุนราว 100 ล้านบาทต่อเมกะวัตต์


ส่วนความคืบหน้าการนำ BBGI เข้าตลาดหุ้นนั้น คาดว่าอาจจะดำเนินการได้ในช่วงปลายปี 63 หลังจากมีความชัดเจนเรื่องการลงทุนธุรกิจชีวภาพ ซึ่งเป็นการต่อยอดจากการเป็นผู้ผลิตเชื้อเพลิงชีวภาพอย่างไบโอดีเซล (B100) และเอทานอล และการลงทุนโรงไฟฟ้าชีวมวลก็จะช่วยเสริมการสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับบริษัทในการดำเนินการเตรียมเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้


ด้านนายชลัช ชินธรรมมิตร์ กรรมการผู้จัดการ BBGI กล่าวว่า การลงทุนในโรงไฟฟ้าชุมชนนั้น เบื้องต้นบริษัทได้ลงพื้นที่พูดคุยกับสมาคมชาวไร่ และชุมชนบ้างแล้ว พร้อมทั้งตรวจสอบดูสายส่งในแต่ละพื้นที่ด้วย โดยในพื้นที่ที่มีศักยภาพด้านสายส่งนั้นส่วนใหญ่จะอยู่พื้นที่ภาคกลาง เช่น จังหวัดกาญจนบุรี สุพรรณบุรี ราชบุรี นครปฐม และอุทัยธานี ส่วนในพื้นที่ภาคอีสานจะมีสายส่งน้อย อย่างไรก็ตาม บริษัทมีศักยในการทำโรงไฟฟ้าชุมชนกว่า 30 แห่ง โดยจะเน้นเชื้อเพลิงก๊าซชีวภาพ และชีวมวล ตามความเชี่ยวชาญของบริษัท


ส่วนการต่อยอดการทำธุรกิจไบโอชีวภาพที่ผลิตเป็นสารตั้งต้นสำหรับผลิตเครื่องสำอางนั้น อยู่ระหว่างเจรจากับพันธมิตรที่จะมารับซื้อผลิตภัณฑ์หลายรายด้วยกัน คาดว่าจะมีความชัดเจนภายในครึ่งปีแรก 63 ส่วนเทคโนโลยีในการผลิตมีแล้ว หากได้ข้อสรุปเรื่องพันธมิตร จะสามารถดำเนินการก่อสร้างโรงงานได้ทันที ซึ่งอยู่ระหว่างสรุปพื้นที่ตั้งในพื้น EEC ที่อยู่ใกล้กับท่าเรือ