Phones





TSE ส่งซิก Q4/66 สดใส บุ๊กรายได้โปรเจคโซลาร์ฟาร์มญี่ปุ่น

2023-11-23 09:11:18 408



นิวส์ คอนเน็คท์ - TSE ส่งสัญญาณแนวโน้มผลงาน Q4/66 โตต่อเนื่อง หลัง COD โครงการ “โอนิโกเบ” โรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น กำลังการผลิต 133 เมกะวัตต์ ฟากซีอีโอ "ดร. แคทลีน มาลีนนท์" ปักหมุดรายได้ปีนี้ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เดินเกมรุกธุรกิจ Private PPA หนุนผลงานโตก้าวกระโดด

เมื่อวันที่ 23 พฤศจิกายน 2566 ดร.แคทลีน มาลีนนท์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ไทย โซล่าร์ เอ็นเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ TSE เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในไตรมาส 4/66 คาดว่าจะเติบโตต่อเนื่อง โดยได้รับปัจจัยสนับสนุนจากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่ประเทศญี่ปุ่น “โครงการโอนิโกเบ (Onikoube)” กำลังการผลิตตามสัญญาขายไฟฟ้าระยะยาวกับการไฟฟ้าญี่ปุ่น 133 เมกะวัตต์ เดินเครื่องเชิงพาณิชย์แล้ว โดยกลุ่มบริษัทฯ ตั้งเป้ารายได้รวมปี 66 (รวมส่วนแบ่งกำไรจากเงินลงทุนในการร่วมค้า) ทำสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ทั้งนี้ นอกเหนือจากการชนะประมูลงานโครงการจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน รอบที่ 1 เป็นจำนวน 88.66 เมกะวัตต์แล้ว กลุ่มบริษัทยังเตรียมความพร้อมเดินหน้าเข้าร่วมประมูลโครงการจัดหาไฟฟ้าฯ รอบที่ 2 ที่มีโควตาออกมา 3,668.5 เมกะวัตต์ โดยตั้งเป้าได้งานไม่ต่ำกว่า 100 เมกะวัตต์ อีกทั้งกลุ่มบริษัทฯ ยังศึกษาโครงการ Waste to Energy หรือการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานจากขยะ ซึ่งปัจจุบันได้มีการเจรจากับผู้เกี่ยวข้อง และอยู่ระหว่างศึกษาโครงการ ซึ่งมีกำลังการผลิต 9.9 เมกะวัตต์ หากเดินหน้าโครงการดังกล่าว คาดว่าจะใช้เงินลงทุนกว่าพันล้านบาท 

ขณะเดียวกัน กลุ่มบริษัทฯ ได้เริ่มรุกธุรกิจ Private PPA (Private Power Purchase Agreement) หรือ ข้อตกลงการซื้อขายพลังงานไฟฟ้าที่ผลิตได้จากพลังงานแสงอาทิตย์ติดตั้งบนอาคาร รวมไปถึงการติดตั้งบนบ่อน้ำ (Solar Floating) ของผู้ประกอบการธุรกิจแบบครบวงจร เริ่มตั้งแต่การวิเคราะห์การลงทุน การออกแบบ การติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษา อีกทั้งยังมีการรับประกันตลอดอายุสัญญา ตามความต้องการของผู้ประกอบการหรือองค์กร โดยองค์กรไม่ต้องลงทุนแต่อย่างใด ยิ่งไปกว่านั้นองค์กรยังสามารถเลือกรูปแบบการติดตั้งและการบริหารค่าไฟฟ้าที่เหมาะสมกับการใช้งานขององค์กร เพื่อตอบโจทย์กลุ่มลูกค้ารายย่อยและกลุ่มลูกค้าอุตสาหกรรมสำหรับการลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้า
เพื่อผลกำไรในการดำเนินธุรกิจที่มากขึ้นในระยะยาว โดยธุรกิจใหม่ดังกล่าวจะเข้ามาสนับสนุนฐานรายได้ให้กับกลุ่มบริษัทฯ มากยิ่งขึ้นในอนาคตต่อไป

สำหรับผลดำเนินงานในไตรมาสที่ 3/66 กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 559.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 226.5 ล้านบาท หรือ 68% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 332.9 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าจำนวน 150.4 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2 ล้านบาท หรือ 1.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และเมื่อรวมรายได้อื่นๆ กลุ่มบริษัทฯ จึงมีรายได้รวม 712.3 ล้านบาท และมีกำไรสุทธิ 120.6 ล้านบาท ลดลงเล็กน้อยจากปีก่อนซึ่งเท่ากับ 121.5 ล้านบาท เนื่องจากมีการบันทึกรายการพิเศษ ซึ่งเป็น non-cash item ขาดทุนจากการจำหน่ายอุปกรณ์จำนวน 52.2 ล้านบาท หากไม่รวมรายการพิเศษดังกล่าว จะทำให้มีกำไรถึง 172.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อน 51.3 ล้านบาท หรือ 42.2%

ส่วนงวด 9 เดือนแรกปีนี้ กลุ่มบริษัทฯ มีรายได้จากการขายและการให้บริการรวม 1,388.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้นถึง 391.4 ล้านบาท หรือ 39.3% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 997.1 ล้านบาท และมีส่วนแบ่งกำไรจากกิจการร่วมค้าจำนวน 539.2 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 44 ล้านบาท หรือ 8.9% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 495.1 ล้านบาท และเมื่อรวมรายได้อื่นๆ กลุ่มบริษัทฯ จึงมีรายได้รวมถึง 1,972.8 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 32% และมีกำไรสุทธิ 506.1 ล้านบาท ลดลง 125 ล้านบาท หรือ 19.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อนซึ่งอยู่ที่ 631.1 ล้านบาท